|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
หากจะมองพัฒนาการของตลาดรถยนต์ลาวในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาให้ชัดเจนแล้ว พัฒนาการของมะนียม โอโต กรุ๊ป ถือว่าสามารถสะท้อนภาพการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด
หากเปรียบเทียบระหว่างลาว อินเตอร์ โอโต กรุ๊ป กับมะนียม โอโต กรุ๊ป ซึ่งเป็น 2 บริษัทผู้นำเข้ารถยนต์อิสระรายใหญ่ที่สุดของ สปป.ลาวแล้ว
รูปแบบธุรกิจของทั้ง 2 แห่งดูจะใกล้เคียงกัน
แต่มะนียม โอโต กรุ๊ปเน้นที่ความ หลากหลายของรุ่น และขนาดของรถมากกว่า ขณะที่ลาว อินเตอร์ โอโต กรุ๊ปจะเน้น สินค้าที่เจาะลึกลงไปเฉพาะกลุ่ม
“รถที่เรานำเข้ามาเป็นรถที่เรียกว่าขายดี ปกติก็เป็นรถที่ลูกค้าชอบ แล้วก็เป็น รถที่เรียกว่าตลาดกำลังฮิตกัน เราจะเลือกสั่งเข้ามาไว้ในสต๊อก ส่วนรถที่เรียกว่า ลูกค้าไม่ค่อยชอบเท่าไรก็ไม่ค่อยสต๊อก รับออเดอร์อย่างเดียว” สุกสะหมอน สีหะเทพ ประธานบริษัทมะนียม โอโต กรุ๊ปอธิบาย
กวาดสายตามองอย่างคร่าวๆ โชว์รูมของมะนียม โอโต มีตั้งแต่รถระดับหรูแต่ดูสมบุกสมบันอย่างฮัมเมอร์ รถ SUV อย่างเลกซัส แอลเอ็กซ์ 570 จีเอ็กซ์ 460 รวมถึงรถซีดาน เลกซัส 600 ไฮบริดจ์ เบนซ์ เอสคลาส จีแอล 550 บอดี้เอเอ็มจี โตโยต้า แลนด์ครุยเซอร์ พราโด้ รถเก๋งบีเอ็มดับบลิว ซีรีส์ 7 ซี่รีส์ 5 ลงมาจนถึงโตโยต้า คัมรี่ นิสสัน เทียน่า ฮอนด้า แอคคอร์ด โฟล์ค นิวบีทเทิล
แต่ที่เป็นสีสัน ก็พวกรถขนาดเล็ก อย่างมินิ และซูซูกิ
“ลูกค้าแต่ละรุ่นจะชอบไม่เหมือนกัน ถ้าเป็นนักบริหาร นักธุรกิจที่เข้ามาทำโครงการ เขาจะเล่นพวกรถราคาแพงๆ เป็นรถประเภทพวกโฟร์วิล อย่างเลกซัส 570 เบนซ์ จีแอล แล้วกลุ่มที่อยู่ในตัวเมืองเขาก็จะเล่นพวกเอสคลาส กับเลกซัส 600 อีกกลุ่มหนึ่งก็เป็นพวก วัยรุ่น คนทำงาน ก็เป็นพวกคัมรี่ ก็จะมีเป็นกลุ่มๆ แล้วก็มีพวกรถเล็กๆ พวกนักเรียนก็จะมีพวกซูซูกิ ราคาไม่แพง ราคาหมื่นเหรียญกว่าๆ อันนี้ก็เป็นกลุ่มนักเรียน เพราะฉะนั้น ที่เรามีโชว์อยู่ด้านหน้า ก็จะมีให้กับลูกค้าทุกๆ กลุ่ม ทั้งสูง กลาง แล้วก็ต่ำ”
สุกสะหมอนเป็นคนที่มีใจรักรถยนต์เป็นทุนเดิม แรกเริ่มเขาไม่ได้ทำธุรกิจรถยนต์ แต่เปิดร้านขายสินค้าเบ็ดเตล็ดประเภทของที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวันอยู่ในเวียงจันทน์
แต่ด้วยความที่เป็นคนชอบรถ เมื่อสะสมเงินทองได้ก้อนหนึ่งก็ไปซื้อรถเก่ามาตกแต่ง ใหม่ แล้วติดป้ายขายจอดไว้ที่หน้าร้าน
แน่นอน รถที่สุกสะหมอนขาย ส่วนใหญ่ก็คือรถกระบะโตโยต้า ไทเกอร์
“ก็ไปซื้อมาทีละคันสองคัน มาโชว์ที่หน้าร้าน พอทำแล้วก็เห็นว่ามันไปได้ดี ก็คิดว่า คงถูกกับอาชีพนี้ เลยเริ่มแยกออกมา แยกออกมาทำเป็นร้านขายรถมือสอง ทั้งซื้อขายแลกเปลี่ยนรถยนต์” เขาเล่าถึงจุดเปลี่ยนในชีวิต ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว
สุกสะหมอนตั้งชื่อร้านขายรถมือสองของเขาว่ามะนียม โอโต เซอร์วิส
เขาขายรถมือสองอยู่ประมาณ 5 ปี ตลาดรถยนต์ลาวเริ่มฟื้นตัวขึ้นมา เขาจึงปรับ ธุรกิจ ตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมา ใช้ชื่อมะนียม โอโต กรุ๊ป เปลี่ยนบทบาทมาเป็นบริษัทนำเข้ารถยนต์อิสระ
ปัจจุบันในกลุ่มมะนียม โอโต กรุ๊ป นอกจากจะขายรถยนต์นำเข้าแล้ว ยังมีโชว์รูมอีกหนึ่งแห่ง ทำหน้าที่เป็นตัวแทนขายรถบรรทุกให้กับแดวู รวมถึงเครื่องจักร หนัก ประเภทรถตัก รถแบ็คโฮให้กับฮุนได และโคมัทสุ
จากจุดเริ่มต้นที่ซื้อรถเก่ามาแต่งใหม่ แล้วจอดขายอยู่หน้าร้านของของเบ็ดเตล็ดครั้งละ 1-2 คัน ทุกวันนี้ มะนียม โอโต กรุ๊ป มียอดขายเฉลี่ยอยู่เดือนละประมาณ 40 คัน ในรถทุกระดับ
“รถสปอร์ตแรงๆ อย่างเฟอรารี่ หรือลัมโบกินี่เราก็เคยขาย แต่เป็นลักษณะที่ลูกค้ามาสั่งออเดอร์แล้วเราจัดหาให้ อย่าง เมื่อปี 2009 ผมก็ขายเฟอรารี่ไป 2 คัน”
พัฒนาการของมะนียม โอโต กรุ๊ป น่าจะสะท้อนให้เห็นภาพพัฒนาการของตลาดรถยนต์ใน สปป.ลาว ช่วง 10 ปีที่ผ่านมาได้อย่างชัดเจนที่สุด
|
|
|
|
|