ดนัย คาลัสซี Vice President ที่รับผิดชอบดูแลฝ่ายซัปพลายเชนของบริษัท เซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC) ถือว่า เป็นมืออาชีพที่เชี่ยวชาญงานวางแผนกระบวนการบริหารจัดการซัปพลายเชนและโลจิสติกส์ ประสบการณ์เคยร่วมงานกับ Nestle ก่อนที่จะมาร่วมงานกับ CRC ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่อุตสาหกรรมค้าปลีก และสินค้าอุปโภคบริโภคของไทย ที่มีซัปพลายเออร์คู่ค้ากว่า 3,800 บริษัทกับยอดขนส่งสินค้ามูลค่า 40,000 ล้านบาทต่อปี

น่าจับตาว่าปีนี้ CRC ทุ่มงบกว่า 200 ล้านบาทขยายพื้นที่รับส่งสินค้าของศูนย์กระจายสินค้าบางนา กม.20 เพิ่มอีกจาก 15 ไร่เป็น 18 ไร่ นั่นหมายถึงดัชนีชี้ว่าธุรกิจในเครือของ CRC เติบโต ทั้ง 7 กิจการ คือ ห้างเซ็นทรัล, ห้างโรบินสัน, ร้านซูเปอร์สปอร์ต, B2S, Office Depot และ PageOne รวมทั้งห้างเซ็นทรัลที่หังโจว ประเทศจีนด้วย

งานนี้ห้างโรบินสันจะต้องย้ายคลังสินค้าของห้างโรบินสันบางแค ไปรวมอยู่ที่เดียวกันที่ศูนย์กระจายสินค้าบางนาด้วย โดยดนัยเปิดเผยถึง 3 ยุทธศาสตร์พัฒนาระบบโลจิสติกส์ของ CRC คือ

หนึ่ง-ปรับโครงสร้างพื้นฐานใหม่ (Mission Link Infrastructure) ที่ใช้ศูนย์กระจายสินค้าย่อย หรือ XD Hub (Crossdock Hub) เป็นหัวหอกสำคัญทางภาคเหนือที่เชียงใหม่ และภาคใต้ที่สุราษฎร์ธานี เป็นตัวกระจายสินค้า โดยใช้รถบรรทุก 18 ล้อ-6 ล้อ-4 ล้อที่ใช้พลังงานต้นทุนต่ำ NGV ไปส่งยังสาขาของห้างเซ็นทรัลและโรบินสันในภาคเหนือและใต้ ยุทธวิธีนี้ช่วยลดต้นทุนค่าขนส่งต่อเที่ยวได้ถึง 10-15% และเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการรับส่งสินค้า ไปถึงเป้าหมายได้

นอกจากนี้ ดนัยยังเล่าให้ฟังถึงโครงการขนส่งสินค้านำเข้า และส่งออกสินค้าราคาแพงที่ต้องดูแลไม่ให้เสียหายขณะขนส่งระหว่างห้างเซ็นทรัลและห้าง Zen ในไทยกับสาขาในประเทศจีน ซึ่งจะเพิ่มจากสาขาหังโจวอีก 2 แห่งคือที่สาขาเมืองเสิ่นหยางด้วย ดนัยต้องกำกับดูแลให้ต้นทุนและค่าใช้จ่าย รวมทั้งบริหารเวลากับ เส้นทางทางเรือและเครื่องบินไว้ให้ดี รู้ขั้นตอนพิธีการศุลกากรและ การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ “เราให้ความสำคัญที่จีนมาก ซึ่งเราได้คุยเรื่องการกระจายสินค้าในจีนกับนักธุรกิจใหญ่ของไทยในจีน เช่น บริษัทมิตรผลที่ดำเนินธุรกิจในจีนมานานแล้ว เช่นเดียวกับบริษัทยักษ์ใหญ่ CP ด้วย” ดนัยเน้น

สอง-ปรับปรุงงานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ IT และพัฒนา ซอฟต์แวร์บริหารคลังสินค้า WMS (Warehouse Management System) ซึ่งปีนี้จะมีบทบาทสำคัญที่สนับสนุนกระบวนการผลิตและ ธุรกิจในเครือกับบริษัทคู่ค้า รวมถึงบริการลูกค้าในพื้นที่พลาซ่าห้าง ที่ขึ้นอยู่กับบริษัท CPN ให้เชื่อมโยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทันสมัย ประหยัด รวดเร็ว และถูกต้อง ที่มีบริการ call center และเว็บ CRC Web EDI เป็นศูนย์ข้อมูลและเสริมด้วยโครงการ Vendor Complainace ที่จะให้ความรู้ความเข้าใจแก่ซัปพลายเออร์รายใหม่ และเก่าเกี่ยวกับกฎกติกาของความร่วมมือทำงานด้วยกัน รวมทั้งบริการให้เช่ากล่องสินค้าพลาสติกขนาดใหญ่ที่เรียกว่า Tote Box ช่วยป้องกันสินค้าเสียหายและติดบาร์โค้ดให้สามารถติดตามได้

สาม-ภายใต้ห่วงโซ่อุปทาน Supply Chain ระหว่างธุรกิจยักษ์ใหญ่ค้าปลีกของห้างเซ็นทรัลกับบริษัทคู่ค้ากว่า 3,800 บริษัท ที่เป็นพันธมิตรธุรกิจกัน ดนัยเล่าให้ฟังถึงกิจกรรมที่เป็น CSR ที่จัดพบปะสังสรรค์และมอบรางวัล “CRC Partnership Award 2011” แก่ลูกค้าดีเด่นด้วย

ดนัยชี้ให้เห็นว่าโอกาสและอุปสรรคของโลจิสติกส์ไทยโดยรวมก็มีมาก โดยมีปัจจัยเสี่ยงหลายประการ เช่น ปัจจัยเสี่ยงทางธรรมชาติ ได้แก่ น้ำท่วมใต้ ปัจจัยเสี่ยงของราคาพลังงานที่มีผลกระทบต้นทุนระบบขนส่งทางถนน ขณะที่โหมดขนส่งทางรางเช่น รถไฟยังขาดการพัฒนา และการขนส่งทางทะเลที่ขาดท่าเรือน้ำลึก เพียงพอ เป็นปัญหาโครงสร้างพื้นฐานของไทยที่จำกัด ขาดการใช้ เทคโนโลยี IT กับความรู้การบริหารจัดการระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ปัจจัยเสี่ยงด้านการเมืองที่ล้มเหลวก็ลดโอกาสพัฒนาเศรษฐกิจไทยด้วย

ปีที่แล้วธนาคารโลกปรับโลจิสติกส์ไทยหล่นจากอันดับ 31 เป็น 35 ถือเป็นยุทธศาสตร์ประเทศที่ต้องเร่งปรับแผนยุทธศาสตร์ การพัฒนาโลจิสติกส์ไทยให้มีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มศักยภาพไทยให้สามารถแข่งขันการเปิดเสรีการค้าของอาเซียน (AEC: ASEAN Economic Community) ในปี 2558 นี้ ซึ่งเครือยักษ์ใหญ่ค้าปลีก อย่างห้างเซ็นทรัลได้กรุยทางธุรกิจสู่โอกาสทองนี้แล้ว