Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ มีนาคม 2530








 
นิตยสารผู้จัดการ มีนาคม 2530
เกรียงศักดิ์ บุรพรัตน์ ดาวจรัสแสงหรือผีพุ่งใต้?             
 


   
search resources

สุระ จันทร์ศรีชวาลา
Agriculture
เกรียงศักดิ์ บุรพรัตน์




น้อยคนนักในเขตพื้นที่พิจิตร เพชรบูรณ์ หรือพิษณุโลกที่จะไม่รู้จักชื่อเสียงตระกูลบุรพรัตน์

รุ่นแรก ๆ ของบุรพรัตน์ก็เฉกเช่นคนจีนโพ้นทะเลทั้งหลายซึ่งอาศัยความขยันขันแข็งเข้ามากอบกู้ชีวิตใหม่ในเมืองไทย ต่างกันที่บุรพรัตน์ไม่มุ่งการค้าแต่หันเหไปสู่ป่าดง บุกเบิกถากถางประกอบอาชีพเกษตรกรรมและทำไม้จนเป็นล่ำเป็นสัน สามารถสร้างสมบารมีคุมไปทั่วทั้งสามจังหวัด

บุรพรัตน์โด่งดังคับฟ้าขึ้นอีกในรุ่นที่ 2 ทุกคนได้รู้จักชื่อ น.พ. ประกอบ บุรพรัตน์ หมอนักธุรกิจเจ้าของยูเนียมโซดาที่เคยทำหวยคุ้มเกล้ากำไรเป็นร้อย ๆ ล้าน ฝีมือเอกอุกระทั่งคนอย่าง สุระ จันทร์ศรีชวาลายินดีให้เป็นผู้รับสัมปทานพัฒนาที่ดินหลายพันไร่ของตน

หรือแม้แต่ชื่อ จรัล บุรพรัตน์ ผู้ว่าการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ซึ่งบริหารงานของการทางฯ ให้ก้าวรุดหน้าขยายตัวอย่างไม่หยุดหย่อน จนจรัลเองมีศักยภาพพอที่จะปะหมัดท้าทายความคิดกับคนโตสภาพัฒนาฯ บางคนได้อย่างไม่ต้องกลัวเกรงแรงบีบแต่อย่างใด

นอกจากนี้ยังมี น.พ.ไพศาล บุรพรัตน์ สองพี่น้องที่ร่วมกันทำโรงสีและค้าข้าวจนชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีในวงการนี้ ทั้งหมดนี้ล้วนต่างเป็นพี่น้องที่เกิดจากพ่อคนเดียวกันทว่าคนละมารดา

และนับตั้งแต่ปลายปี 2529 เป็นต้นมา หากใครติดตามข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ธุรกิจจะพบชื่อคนในตระกูลบุรพรัตน์ปรากฏอยู่เป็นประจำคนหนึ่ง คน ๆ นั้นก็คือ เกรียงศักดิ์ บุรพรัตน์ หรือ "กำนันหน่อย" ซึ่งเป็นประธานชมรมผู้เลี้ยงโคเนื้อแห่งประเทศไทยคนล่าสุด

เกรียงศักดิ์ เป็นลูกชายโทนของพี่ชายหมอประกอบพ่อของเขาได้รับการยอมรับนับถือในการเป็นนักสู้เป็นเกษตรกรตัวอย่างของเพชรบูรณ์ ส่วนตัวเขาเป็นนักเรียนนอก จบปริญญาโททางสัตวบาลจากสหรัฐอเมริกา มีพี่สาวอีกคนคือ รุ่งทิพย์ บุรพรัตน์ ซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงคนหนึ่งของเซนทาโก ยักษ์ใหญ่วงการอาหารสัตว์ที่ทำธุรกิจครบวงจรเช่นเดียวกับซีพี

เกรียงศักดิ์จัดได้เป็นหัวขบวนของคนรุ่นที่ 3 ในตระกูลบุรพรัตน์ หลังจากสำเร็จการศึกษา เขาหอบเอาปริญญากลับไปสู่ไร่ที่พ่อทิ้งไว้ให้ที่ อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ ไร่นี้มีเนื้อที่ไม่ต่ำกว่า 3,000 ไร่ ทำการเลี้ยงวัวและแกะเป็นหลัก

เขาหวังที่จะเป็นต้นแบบของคนรุ่นใหม่พลิกระบบเกษตรกรรมที่เคยคร่ำครึของเมืองไทยให้ก้าวไปสู่มิติแห่ง "อะโกรอินดัสตรี" ที่ค่อนข้างจะไฉไลและมีอนาคตมากกว่า

หลังจากที่เข้ามาคลุกคลีก็ตัดสินใจรื้อระบบงานเก่า ๆ ลงสิ้นเชิง นอกจากนี้ยังทุ่มทุนอีกหลายล้านขยายงานของไร่จนกลายเป็นฟาร์มเลี้ยงวัวและแกะใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทยในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังเสี่ยงลงมะม่วงอีกสี่พันกว่าต้นในพื้นที่ฟาร์มทั้งๆ ที่บริเวณนั้นขาดน้ำอยู่มาก

"ห้าปีถ้ากำนันไม่เป็นยักษ์ก็ต้องเป็นหนูไปเลย" คนในพื้นที่ ต. ท่าข้าม อ. ชนแดน ซึ่งเขาเป็นกำนันเอ่ยถึงเมื่อเห็นการลงทุนอย่างไม่ยั้ง และต้องระทึกใจมากขึ้นอีกเมื่อมีข่าวว่า เขาจะกู้เงินจากสถาบันการเงินอิตาลีกว่า 800 ล้านเพื่อสร้างโรงฆ่าสัตว์ครบวงจรทันสมัยที่สุดในเอเชีย และทำอุตสาหกรรมต่อเนื่องขึ้นที่นั่น

เรียกได้ว่าโครงการของเขา ทำให้ยักษ์ใหญ่อย่าง มาบุญครอง ไทย-มุสลิม ถึงกับต้องถอนตาใคร่ครวญกันอย่างหนัก...

"ผมดูทิศทางตลาดโคเนื้อสามพันกว่าล้านในบ้านเราแล้วเห็นว่ามีอนาคตมาก ยิ่งถ้ากำจัดโคเถื่อนจากพม่าได้ก็ยิ่งสวย ดังนั้นผมจึงกล้าพอที่จะตัดสินใจทำโครงการนี้ ซึ่งเมื่อคิดจะทำก็เห็นว่าทำที่ฟาร์มนั่นเลยเพราะอยู่ใกล้แหล่งเลี้ยงทุก ๆ ด้านไม่ต้องสิ้นเปลืองค่าขนส่ง" เขาเคยกล่าวถึงโครงการที่สดสวย

และวันนี้ตัวแทนจากสถาบันการเงินอิตาลี (อักซ่า) ก็ได้เข้ามาศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการแล้วไม่น้อยกว่า 30% ซึ่งก็มีข่าวอยู่บ่อย ๆ อีกเหมือนกันว่า ประเทศที่เป็นเต้ยในเรื่องปศุสัตว์อย่าง ออสเตรเลีย คานาดา ก็มีแนวโน้มสนใจโครงการนี้อยู่ไม่น้อย

นอกจากนี้โครงการโรงฆ่าสัตว์ โครงการทำอุตสาหกรรมต่อเนื่อง และสนับสนุนให้เกษตรกรหันมาเลี้ยงโคเนื้อให้มากขึ้นในฐานะประธานชมรมฯยังสอดคล้องกับโครงการปล่อยสินเชื่อ 300 กว่าล้านเพื่อพัฒนางานปศุสัตว์ของธนาคารกสิกรไทยอีกด้วย ซึ่งแบงก์กสิกรไทยส่ง ลัดดาวัลย์ ขยันกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายสาขาสินเชื่อเกษตรลงมาลุยในแผนงานนี้

ด้วยมนุษย์สัมพันธ์ที่ใกล้ชิดของคนทั้งคู่ ระหว่างเกษตรกร-นักอุตสาหกรรมหนุ่มและแบงก์เกอร์สาว เขาและเธอจึงเหมือนเงาที่ตามกันและกันไม่ขาดสาย เกรียงศักดิ์เองเริ่มสร้างฐานเครดิตในแบงก์กสิกรไทยได้อย่างไม่ยากเย็น จะเห็นได้ว่าการปล่อยสินเชื่อให้เกษตรกรแบงก์จะปล่อยผ่านห้างหุ้นส่วนบุรพรัตน์ปศุสัตว์ของเกรียงศักดิ์ที่เป็นผู้ค้ำประกัน

ปัจจุบันระหว่างที่รอความฝันของโรงฆ่าสัตว์จะเป็นจริงเกรียงศักดิ์นำวัวของเขาและสมาชิกส่งผ่านโรงฆ่า อสร.ที่บ้านโป่ง ราชบุรี โดยห้างหุ้นส่วนบุรพรัตน์จะรับหน้าที่หาตลาดให้ซึ่งแผนตลาดของเขาก็ใช่ย่อยยอมตัดสินใจหั่นราคาเนื้อเข้าสู่ซุปเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ

"ตอนนี้เขาอาจขาดทุนแต่ถ้าคุมได้เมื่อไร บุรพรัตน์จะเป็นจ้าวตลาดด้านนี้ทันที" คนที่ทำงานกับเขาเอ่ยกับ "ผู้จัดการ"

ฝันของคนหนุ่มเป็นความสวยสดอยู่เสมอ ฝันของกำนันหน่อยที่จะพัฒนาเกษตรกรรมให้กลายเป็นอะโกร อินดัสตรีนั้นทุกอย่างที่ผ่านมาก็น่าจะเป็นฝันที่ไม่ไกลเกินเอื้อมนัก แต่อย่างว่าแหละ การทำงานที่ไร้ปัญหาให้ขบคิดแก้ไขไหนเลยจะเป็นการทำงานที่สมบูรณ์แบบ

บนเส้นทางที่งดงามกำนันหน่อยเริ่มพบปัญหาขึ้นแล้วในวันนี้ และเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับตัวเขาโดยตรงเสียด้วย เป็นเรื่องภายในชมรมโคเนื้อฯ ที่ตัวเองเป็นประธาน ซึ่งมีกลิ่นคาวตุๆ เกี่ยวกับบัญชีรายรับ-รายจ่ายและผลประโยชน์ที่สมาชิกควรจะได้รับจากการส่งโคเข้าฆ่า

กลิ่นที่โชยมานี้ว่ากันว่ากรรมการส่วนหนึ่งของชมรมฯ เริ่มไม่สู้จะพอใจเท่าไรนัก และทุกคนก็ปรารถนาคำตอบที่กระจ่างชัดโดยเร็ว โดยเฉพาะกับคนหนุ่มวัย 30 กว่า ๆ เช่นกำนันหน่อยที่พวกเขาหวังเป็นอย่างมากว่าจะเป็นผู้นำการพัฒนา

ปัญหายังมีอีกมาก และอาจมากเสียจนคนหนุ่มที่พกพาแต่รอยยิ้ม คนหนุ่มที่เต็มไปด้วยความละเอียดขนาดบิลค่าน้ำมันยังต้องให้ฝ่ายบัญชีคิดออกมาเป็นกิโลเมตร ตยหนุ่มที่เคยบอกว่าเขาผ่านความล้มเหลวในชีวิตมาแล้วหลายครั้งเช่นเขาจะต้องหาหนทางอก้ไขสถานการณ์คอขาดบาดตายอย่างเร่งด่วน

ยังไง ๆ ก็คิดว่าคงไม่ตายน้ำตื้นหรอกนะ

เพราะรุ่นที่ 3 ของบุรพรัตน์ก็อยู่ที่เขานี่แหละจะเป็นตัวจุดประกาย

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us