ปกติ ดร. นพ สัตยาศัย จะเป็นคนยิ้มง่ายคุยสนุกและได้ความรู้ แต่ก็จะอารมณ์เสียพอสังเกตได้หากเผอิญมีใครไปเรียก
"ท่านผู้ว่าฯ" เข้า
อารมณ์เสียของ ดร. นพ นั้นเป็นมานานพอสมควรแล้ว นับตั้งแต่มีข่าวปรากฏบนหน้าหนังสือพิมพ์หลายฉบับว่า
ดร. นพ จะเข้ามาดำรงตำแหน่งผู้ว่าการประปานครหลวง แทน ดร. อาทิตย์ อุไรรัตน์
ที่ตอนนั้นพูดกันว่า โดนรัฐมนตรีจากพรรคชาติไทยบีบเพื่อให้พ้นตำแหน่งและจะได้เอาคนของพรรคเข้าบริหารแทน
เป็นไปตามกติกา (ไม่ทราบว่าใครตั้ง) ที่ว่า พรรคใดดูแลรัฐวิสาหกิจไหนก็จะต้องเอาคนของตนเข้าไปนั่ง
เช่นเดียวกับที่ ดร. อาทิตย์ อุไรรัตน์ ก็มาจากโควตาพรรคกิจสังคมยุคสุรัตน์
โอสถานุเคราะห์ ดูแลการประปานครหลวงตำแหน่งเดียวกับที่ สุขุม เลาวัลย์ศิริ
รัฐมนตรีช่วยมหาดไทยจากพรรคชาติไทยนั่งอยู่ในขณะนี้
"เขาแต่งตั้งผมโดยที่ผมไม่เคยรู้เรื่องเลย พรรคชาติไทยก็ไม่มีใครมาบอกกับผมว่าจะให้ไปแทน
ดร. อาทิตย์" ดร. นพ สัตยาศัย พูดกับ "ผู้จัดการ" ภายหลังการประกาศลาออกของ
ดร. อาทิตย์ อุไรรัตน์ เพียงวันเดียว
เพียงแต่เขาก็ยอมรับว่าหากจะมีการพูดถึงคนที่มาแทนดรอาทิตย์ในการประปาฯ
อย่างมีน้ำหนักและเหตุผลรองรับแล้วเขาต้องเป็นคนหนึ่งในหลาย ๆ คนอย่างช่วยไม่ได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในความเห็น (ก่อนประกาศลาออก) ของ ดร. อาทิตย์เองก็อาจจะต้องมองไปที่
ดร. นพเป็นธรรมดาด้วย
ทั้งนี้และทั้งนั้นอาจจะต้องโทษว่า เป็นเพราะตัว ดร. นพ นั้นมีความรู้เกี่ยวกับเรื่อง
"น้ำ" มากไป คือมากถึงขั้นสำเร็จการศึกษาปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดในเรื่องเกี่ยวกับ
"น้ำ" โดยเฉพาะ
ก็เข้าทำนอง "คนไม่ผิดแต่ผิดที่มีหยกติดตัว" นั่นแหละ หากมองกันในแง่ที่
"ถ้าผมได้รับการทาบทามจริง มันก็คงเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่นี่ไม่เคยเลยก็กลายเป็นผมจะไปล้มเก้าอี้เขา
(ดร. อาทิตย์) อย่างนี้ผมเสีย.." ดร. นพ บอก
ดร. นพ นั้นเป็นคนจังหวัดชัยนาท เรียนมัธยมต้นที่วชิราวุธแล้วไปต่อมัธยมปลายที่โรงเรียนเทพศิรินทร์
สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ในสาขา วิศวสุขาภิบาล
เมื่อปี 2507 จากนั้นก็ไปจบโททางด้านวิศวสุขาภิบาลอีกเช่นกันที่มหาวิทยาลัยเดลฟ์
ประเทศเนเธอร์แลนด์
ส่วนระดับปริญญาเอกที่จบฮาร์วาร์ด ตามชื่อสาขาจริง ๆ ก็คือ "การจัดการทรัพยากร"
มีเนื้อหาครอบคลุมกว้างขวางซึ่งรวมทั้ง "น้ำ" ที่เป็นทรัพยากรอย่างหนึ่งด้วย
ดร. นพ เคยรับราชการช่วงสั้น ๆ ที่กรมโยธาฯ ก่อนจะหันเหเข้าสู่ธุรกิจภาคเอกชนด้วยการทำหน้าที่เป็นวิศวกรที่ปรึกษาให้บริษัท
เอนจิเนียริ่งแมเนจเม้นท์ ซีสเต็มส์ ซึ่งเป็นบริษัทรับให้คำปรึกษาและวิจัยงานวิศวกรรมที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรของชาติ
เขาผ่านงานใหญ่ ๆ หลายโครงการอย่างเช่นโครงการของการพลังงานแห่งชาติ โครงการผลิตถ่านหินที่เหมืองแม่เมาะของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตและโครงการวางระบบประปาของจังหวัดนครราชสีมาเป็นต้น
เมื่อปี 2529 ที่มีการเลือกตั้งใหญ่นั้น ดร. นพ สัตยาศัยก็เป็นผู้หนึ่งที่กระโดดเข้าไปสมัครรับเลือกตั้งตำแหน่ง
ส.ส. ที่เขตบางกะปิฯ ภายใต้เสื้อคลุมพรรคชาติไทย "ที่เข้าพรรคชาติไทย
เหตุผลสำคัญก็คือ ผมเคารพในตัวท่านหัวหน้าพรรค (ช่วงนั้น) พลตรีประมาณ อดิเรกสาร
ส่วนอีกเหตุผลก็เพราะผมเห็นว่าพรรคชาติไทยเป็นพรรคที่ภาพพจน์ไม่ดีเลย แต่ก็มาคิดว่าที่ไม่ดีก็เพราะคนที่คิดว่าตัวเองดีพากันหลบหมด
ไม่อยากแปดเปื้อน พรรคก็ยิ่งไม่ดีใหญ่ ผมคิดถ้าไม่ดีสัก 100 แล้วคนดี ๆ เข้าไปสัก
1,000 พรรคนี้ต้องดีขึ้นแน่นอน…." ดร. นพ สาธยายถึงสาเหตุที่เข้าพรรคชาติไทย
ซึ่งผลการเลือกตั้งก็ปรากฏว่า เขาต้องกลายเป็น ส.ส. สอบตก โดยผู้สอบได้คนหนึ่งที่ชื่อ
ดร. ศุภชัย พานิชภักดิ์ นั้นแท้ที่จริงก็คือเพื่อนนักเรียนเก่าเนเธอร์แลนด์ด้วยกัน
ดร. นพ สัตยาศัย เริ่มเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการประปานครหลวงก็เมื่อได้รับการเสนอชื่อให้เข้าไปเป็นกรรมการในบอร์ดของการประปาฯ
ด้วยการทาบทามจาก สุขุม เลาวัลย์ศิริและเขายอมรับว่าเกือบทุกครั้งที่มีการประชุมบอร์ด
เขาจะเป็นคนหนึ่งที่ ดร. อาทิตย์ อุไรรัตน์ต้องตอบข้อซักถามอย่างเหน็ดเหนื่อย
ด้วยความที่รู้เรื่องการประปามาก ๆ ก็เป็นไปได้
ในช่วงที่การประปากำลังอึมครึมเกี่ยวกับเก้าอี้ผู้ว่าฯ ก็เลยพูดกันว่า
ดร. นพ เที่ยวไปประกาศกับใครต่อใครว่าจะเข้าไปแทน ดร. อาทิตย์
โดยที่คนถูกยัดเยียดตำแหน่งให้ก็ไม่ค่อยจะดีใจนัก
เฉพาะอย่างยิ่งในทางเป็นจริงก็ไม่ได้เป็นผู้ว่าตามที่มีผู้ยัดเยียดเสียอีกด้วย
ทุกวันนี้ ดร. นพ สัตยาศัยประกอบธุรกิจส่วนตัวในตำแหน่งประธานบริษัทเทคนิคคัลซัปพอร์ท
แอสโซซิเอท เอเย่นต์ขายอะไหล่เครื่องบินที่สำนักงานตั้งอยู่ในซอยราชครูใกล้
ๆ บ้านพลตรีประมาณ อดิเรกสาร และพลตรีชาติชาย ชุณหะวัณ สำนักงานนี้ ดร. นพ
เช่าจากเฉลิม เชี่ยวสกุล ที่เป็นรองผู้อำนวยกรสำนักงานทรัพย์สินฯ
และตอนนี้คงแทบหัวเราะตกเก้าอี้แล้ว หากจะมีใครไปเรียก "ท่านผู้ว่าฯ"
เข้า