|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
“แอล/ELLE” ขยับแผน ปรับราคาลงเฉลี่ย 10-15% สวนกระแสต้นทุนพุ่ง 30% ปลื้มไตรมาสแรกเติบโตกว่า 10% พร้อมลุยทำตลาดในพม่า ลาว เขมร หลังได้ไลเซ่นส์มา 5 ปี นับตั้งแต่ปลายปี2553
นางรมิดา รัสเซลล์ กรรมการบริหาร และผู้อำนวยการฝ่ายเครื่องแต่งกายและเครื่องหนัง ELLE HOMME & ELLE บริษัท ไอ.ซี.ซี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดเสื้อผ้าแฟชั่นในปีนี้จะเน้นการแข่งขันทางด้านราคาและแฟชั่นที่มาเร็วไปเร็ว ในส่วนของผู้บริโภคนั้นมีทางเลือกมากขึ้น ดังนั้นตามแผนของทางแอล
จากเดิมที่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมามุ่งปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้อยู่ในระดับบนมากยิ่งขึ้น แต่ความต้องการของผู้บริโภคโดยเฉพาะคนไทย ที่ไม่ได้ต้องการสินค้าที่ใช้วัตถุดิบอย่างดีคงทน แต่ให้ความสำคัญกับแฟชั่นมากขึ้น จึงได้หันมาเน้นเรื่องของการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้นด้วย
ล่าสุดเมื่อปลายปีที่ผ่านมา บริษัทได้ปรับราคาสินค้าลงเฉลี่ย 10-15% ขณะที่ต้นทุนสูงสูงขึ้นกว่า 30% โดยพยายามบริหารจัดการสินค้าให้มีประสิทธิภาพ ผลิตสินค้าได้ในจำนวนมากขึ้น จึงสามารถทำราคาต่ำลงมาได้ซึ่งทางสำนักงานใหญ่พร้อมสนับสนุนการรทำตลาดในประเทศไทย เพราะไทยเป็นโชว์เคสในภูมิภาคอาเซียน ภายใต้งบการตลาดตลอดปี 40 ล้านบาท มุ่งทำกิจกรรมซีเอสอาร์ ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ทางบริษัทยังได้ไลเซ่นส์อย่างเป็นทางการในการทำตลาดต่างประเทศอีก 3 ประเทศ ด้วย คือ ลาว พม่า และกัมพูชา เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมาเป็นระยะเวลา 5 ปี โดยปีนี้เริ่มเข้าไปทดลองทำตลาดและศึกษาตลาด คาดเข้าไปทำตลาดอย่างจริงจังได้ไม่เกินต้นปีหน้า จากเดิมที่ผ่านมาขายผ่านเอเย่นต์เป็นหลัก
โดยปีนี้บริษัทเตรียมลงทุนอีกกว่า 20 ล้านบาท สร้างแฟล็กซ์ชิปสโตร์แห่งแรกที่รวบรวมผลิตภัณฑ์เกือบทุกแคตธิกอรี่ของแอล พื้นที่ราว 300 ตารางเมตร คาดว่าจะเห็นได้ในช่วงปลายปี ส่วนพื้นที่อยู่ระหว่างเจรจากับเซ็นทรัลเวิลด์ จากปัจจุบันมีชอปแอลในลักษณะสแตนอะโลนเพียง 2 แห่ง คือ เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ และเทสโก้โลตัสศรีนครินทร์และมีช่องทางจำหน่ายหลักในดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ 500-600 จุด กับการจำหน่ายผ่านทางไอ.ซี.ซี
สำหรับยอดขายรวมในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาเติบโต 10% ตามแผนที่วางไว้ ซึ่งในส่วนของเสื้อผ้าสำหรับสุภาพสตรีมีอัตราการเติบโตสูงสุดมากกว่า 15% แต่ในกลุ่มกระเป๋าเดินทางยังมียอดขายต่ำกว่าที่วางไว้ เนื่องจากเป็นกลุ่มสินค้าใหม่ที่เพิ่งทำตลาด ดังนั้นปีนี้จะเน้นทำตลาดในกลุ่มกระเป๋าเดินทางเป็นหลัก โดยมองว่าตลอดปีนี้
แอลจะมียอดการเติบโตอีกอย่างน้อย 10-12% จากรายได้ 700 ล้านบาทที่ทำได้ในปีที่ผ่านมา
|
|
|
|
|