ฟันธงตลาดแฟชั่นพุ่ง20-30% ไมเนอร์เท 200 ล้านบาท ผุดสาขาแบรนด์แฟชั่นในเครือ ลุย “ชาร์ลส แอนด์ คีธ” ขยายสาขาใหม่ 7 สาขามากสุดในรอบ 5 ปี พร้อมปรับราคาลง 20% มั่นใจทั้งปีรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 60% แตะ 300 ล้านบาท
นายไมเคิล บิงเกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฎิบัติการ บริษัท ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากแนวโน้มตลาดแฟชั่นในปีนี้ที่คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 20-30% ทำให้บริษัทฯในวางแผนการลงทุนเพื่อการขยายสาขาให้กับแบรนด์สินค้าในกลุ่มไมเนอร์ ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท อาทิ แบรนด์ GAP จาก 3 สาขา จะขยายเพิ่มอีกราว 4 สาขาในปีนี้ เช่น เซ็นทรัล ลาดพร้าว,พัทยา รอยัล การ์เด้น และเซ็นทรัล พระราม9 ส่วนแบนด์ เอสปรี จะเปิดเพิ่มอีก 4 สาขา คือ แหลมทอง ระยอง, เทอร์มินอล21, เซ็นทรัล ลาดพร้าว และเซ็นทรัล เชียงราย
ล่าสุดในส่วนของรองเท้าแบรนด์ ชาร์ลส แอนด์ คีธ ปีนี้จะขยายสาขารวมไม่ต่ำกว่า 7 สาขา จากทั้งหมด 11 สาขาในปีก่อน ตั้งแต่ต้นปีเปิดไปแล้ว 2 สาขา คือ ห้างแหลมทอง ระยอง และเซ็นทรัล เชียงราย และจะเปิดเพิ่มอีก 5 สาขาไปจนถึงสิ้นปี เช่น ที่ เซ็นทรัล ลาดพร้าว, เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์, เซ็นทรัล พระราม9 เป็นต้น ส่งผลให้ภายในสิ้นปีนี้ ชาร์ล แอนด์ คีธ จะมีสาขาทั่วประเทศทั้งสิ้น 18 สาขาซึ่งในปีนี้ถือเป็นปีที่มีการขยายสาขามากที่สุดในรอบ 5 ปี ตั้งแต่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย
จากการขยายสาขาเพิ่มขึ้นนั้น ส่งผลให้บริษัทมีจำนวนสินค้าเพื่อนำเข้ามาวางจำหน่ายเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นในปีนี้ราคาจำหน่ายของชาร์ลส์ แอนด์ คีธ จึงปรับลดลงมาประมาณ 30-40% เมื่อเทียบราคาในปีก่อน ส่งผลให้ปัจจุบันราคาจำหน่ายในประเทศไทยสูงกว่า ชาร์ลส์ แอนด์ คีธ ที่ประเทศสิงคโปร์เพียง 20% เท่านั้น ทั้งนี้มองว่าในอีก 2 ปีข้างหน้า
เมื่อมีการยกเลิกกำแพงภาษีแล้ว ราคาจำหน่ายจะเท่ากับที่สิงคโปร์ได้
ส่วนแผนตลาดแบรนด์ ชาร์ลส์ แอนด์ คีธ จะมุ่งเน้นการบริการหน้าร้าน รวมถึงกิจกรรมทางการตลาด จัดโรดโชว์ไปทั่วประเทศ และการเข้าถึงโซเชียลเน็ตเวิร์ค มั่นใจว่าจะช่วยให้ยอดขายของแบรนด์ชาร์ลส์ แอนด์ คีธในสิ้นปี2554นี้ เติบโตไม่ต่ำกว่า 60% หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 300 ล้านบาทได้
|