โอสถสภาทุ่ม 100 ล้านบาท จัดทัพ “ยูทิป” ชุดใหญ่ ส่งแป้งตลับ-บลัชออน ผนึกสินค้ากลุ่มลิปแคร์เจาะตลาดเครื่องสำอางเพื่อสาววัยใส 15-18 ปี แยกเซกเมนต์ต่างจาก “ทเวลฟ์พลัส” ที่จับสาววัย 20-22 ปีชัดเจน หลังผลวิจัยระบุกว่า 70% ของวัยรุ่นหญิงมีพฤติกรรมใช้เครื่องสำอางหลายชนิด วาง 3 สาวทีนสตาร์ไอดอล จากเวทียูทิป เฟรชชี่ ไอดอล “เต้ย-มายด์-หงส์” เป็นพรีเซนเตอร์สื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายภายใต้คอนเซ็ปต์ “Utip...Magic of Natural Beauty” พร้อมแจกสินค้าตัวอย่างแสนชิ้น สร้างการรับรู้และประสบการณ์ให้ผู้บริโภค มั่นใจใน 3 ปี ขึ้นเป็นผู้นำด้วยแชร์กว่า 25%
หลังจากค่ายโอสถสภาปรับโฉมแบรนด์ “อุทัยทิพย์” มาสู่แบรนด์ “ยูทิป” โดยส่งสินค้ากลุ่ม “ลิปแคร์” ประกอบด้วย ลิป ทินท์, ลิป บาล์ม และลิป เจล ออกมาจับกลุ่มวัยรุ่นตั้งแต่ 4-5 ปีที่ผ่านมา ในที่สุดผู้เล่นรายนี้ก็พร้อมโดดขึ้นสังเวียนเครื่องสำอางอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการส่งสินค้าเข้ามาช่วยเสริมทัพอีก 2 กลุ่ม โดยมีเป้าหมายเพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น โดยเฉพาะสาววัยใสอายุ 15-18 ปี กลุ่มเป้าหมายหลักที่ยูทิปทำการสำรวจพบว่า กว่า 70% จากกลุ่มตัวอย่าง 400 คน มีการใช้เครื่องสำอางมากกว่า 1 ชิ้น
สำหรับการเข้าสู่สมรภูมิในครั้งนี้ จะเห็นว่า แป้งพัพฟ์ และบลัชออน เป็นสินค้าที่ยูทิปเลือกเปิดตัว พร้อมจัดเป็นทัพใหญ่บุกตลาดเครื่องสำอางอย่างเต็มรูปแบบ ที่เรียกว่าเต็มรูปแบบคงไม่ผิด เพราะพื้นที่รบที่โอสถสภากำหนดให้ยูทิปเข้าไปปักธง คือ ตลาดเครื่องสำอางเพื่อสาววัยใสอายุ 15-18 ปี ซึ่งมีการประเมินตัวเลขไว้ประมาณ 2,000 ล้านบาท ประกอบด้วยเครื่องสำอาง 3 ชนิด คือ เครื่องสำอางกลุ่มหน้า ทั้งแป้งตลับ บลัชออน 60% ลิปแคร์ 30% และกลุ่มอาย หรือรอบดวงตา 10% ขณะที่ตลาดรวมเครื่องสำอางทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 11,000 ล้านบาท
“โดยเหตุผลที่เราเลือกพัฒนาและออกสินค้า 3 กลุ่มนี้ เพราะการสำรวจพบว่า สินค้า 3 กลุ่มดังกล่าวเป็นเครื่องสำอางที่สาววัยใสมีการใช้มากสุด โดยปัจจุบันมีมูลค่ารวมกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทคาดว่าในอีก 3 ปีข้างหน้า เซกเมนต์นี้จะมีมูลค่าสูงถึง 2,500 ล้านบาท” เป็นคำกล่าวของ ต้องหทัย กุวานนท์ ผู้อำนวยการผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และผลิตภัณฑ์ส่วนบุคคล บริษัท โอสถสภา จำกัด
ฉะนั้น แม้ตอนนี้ยูทิปจะมีผลิตภัณฑ์เพียง 3 กลุ่ม แต่ก็ถือว่าเพียงพอกับการตอบโจทย์สาววัยใส ไม่แค่นั้น จะเห็นว่าการขยับครั้งนี้ยูทิปได้ทำการบ้านและตีโจทย์มาเป็นอย่างดี โดยมีการสำรวจกลุ่มเป้าหมายจำนวน 400 คน เกี่ยวกับคุณสมบัติเครื่องสำอางที่ต้องการ ซึ่งพบว่า กว่า 30% ต้องการเครื่องสำอางที่อ่อนละมุนเป็นธรรมชาติ เหมาะกับผิวที่อ่อนบาง โดยมี 20% ต้องการเรื่องความเนียนใส และอีก 20% ต้องการคงความเนียนใสให้อยู่ยาวนาน ดังนั้น การซุ่มวิจัยและพัฒนาสินค้านานถึง 3 ปี ผู้เล่นรายนี้จึงเน้นหนักไปที่คุณสมบัติดังกล่าว
ขณะเดียวกัน การสื่อสารก็มุ่งตอกย้ำ message “การเป็นเครื่องสำอางธรรมชาติ” หรือ Utip...Magic of Natural Beauty ซึ่งเป็นแนวที่สาววัยใสต้องการ ไม่แค่นั้น ยูทิปยังเลือก 3 สาวทีนสตาร์ไอดอลจากเวทีประกวดยูทิป เต้ย จรินทร์พร, มายด์ ณภศศิ และหงส์ แก้วมณี มาเป็นพรีเซนเตอร์ ช่วยสื่อสารและสะท้อนคาแรกเตอร์แบรนด์ด้วย เพื่อให้มีความชัดเจนจากเครื่องสำอางของ “ทเวลฟ์พลัส” อีก 1 แบรนด์ของค่ายโอสถสภา ที่มีแพนเค้กเป็นพรีเซนเตอร์สื่อสารกับสาววัย 20-22 ปี หรือแม้แต่ตัวผลิตภัณฑ์ของทเวลฟ์ พลัสก็ยังพัฒนาให้เหมาะกับลูกค้ากลุ่มนี้ด้วย เช่น ตัวแป้งที่ผสมรองพื้น ซึ่งเหมาะกับนักศึกษาหรือคนทำงานมากกว่าสาว 15-18 ปีที่ต้องการความเนียนใสแบบธรรมชาติ
นอกจากนี้ เพื่อสร้างโอกาสให้ผู้บริโภคได้ทดลองใช้สินค้า ทางยูทิปเตรียมจัดโรดโชว์ไปยังสถานศึกษาเพื่อแจกสินค้าตัวอย่างกว่า 1แสนชิ้น รวมถึงการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ อย่างครบวงจร เช่น การจัดกิจกรรม “ยูทิป เฟรชชี่ ไอดอล 4” รวมทั้งการสื่อสารผ่านช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โทรทัศน์ สิ่งพิมพ์ โดยเฉพาะอินเทอร์เน็ตที่เป็นช่องทางโซเชียล เน็ตเวิร์ก และเว็บไซต์ www.utip.co.th อย่างเต็มที่ ภายใต้งบการตลาดรวมทั้งปีกว่า 100 ล้านบาท
ทั้งนี้ ผู้บริหารค่ายโอสถสภา บอกว่า บริษัทจะมุ่งเน้นสื่อสารกับผู้บริโภคอย่างเต็มที่ เพราะจากการสำรวจ พบว่า ปัจจุบันการใช้เครื่องสำอางของสาววัยใสอายุ 15-18 ปี ยังเป็นการใช้สินค้าที่เป็นแบรนด์ของผู้ใหญ่ประมาณ 60-70% โดยจะได้รับคำแนะนำจากเพื่อน หรือรุ่นพี่ ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้ยูทิปต้องเข้าไปให้ความรู้และสร้างความเข้าใจเพื่อให้ลูกค้ารู้จักยูทิป ว่าเป็นเครื่องสำอางสำหรับสาววัยนี้โดยเฉพาะ ขณะที่สาวๆ วัยทีนเหล่านี้ยังมีอีก 30% ที่ไม่ใช้เครื่องสำอาง หรือไม่แต่งหน้า โดยมีเหตุผลว่ายังไม่เจอผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับตนเอง ซึ่งการวางโพซิชันนิ่งของแบรนด์ยูทิปว่าเป็นเครื่องสำอางสำหรับสาววัยใสชัดเจน ทำให้ผู้เล่นรายนี้มั่นใจว่าจะสามารถมัดใจลูกค้ากลุ่มนี้ได้ไม่ยาก
สำหรับการจัดทัพใหญ่เพื่อบุกตลาดเครื่องสำอางวัยใสในครั้งนี้ ทางยูทิปมั่นใจว่าจะมีผู้เล่นรายอื่นโดดเข้าสู่สมรภูมินี้มากขึ้น ชนิดที่ว่าในช่วงเวลา 3 ปีนับจากนี้ เครื่องสำอางเซกเมนต์นี้จะมีมูลค่าเพิ่มเป็น 2,500 ล้านบาท ขณะเดียวกัน ยูทิปก็จะอยู่ในฐานะผู้นำที่ครองส่วนแบ่งไม่น้อยกว่า 25% ด้วย แต่คงต้องดูกันต่อไปว่ายูทิปจะสามารถบูมเซกเมนต์นี้ให้เกิดขึ้นได้หรือไม่ เชื่อว่า ตัวเลขแชร์ 10% ที่ยูทิปตั้งเป้าคว้าให้ได้ในสิ้นปีนี้ คงบอกทิศทางได้เป็นอย่างดี
|