Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา เมษายน 2554
เด็กฝรั่งปันรอยยิ้มให้เด็กไทย             
โดย นภาพร ไชยขันแก้ว
 


   
www resources

Kids Action for Kids Homepage

   
search resources

Social
Kids Action for Kids
Haakon Brekke




หากพูดถึงมูลนิธิ Kids Action for Kids อาจมีเพียงไม่กี่คนที่รู้จัก แต่ถ้าเป็น "ซิคเว่ เบรคเก้" หลายๆ คนยังคงจดจำได้ เพราะเขาเป็นส่วนหนึ่งของสัญลักษณ์ดีแทค และมูลนิธินี้เกิดขึ้นได้เป็นเพราะลูกชายของเขา

ด้วยบุคลิกของซิคเว่ที่เข้ากับคนง่ายได้ทุกระดับ โดยเฉพาะในช่วงที่เขารับตำแหน่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารในบริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่อันดับสองในประเทศไทย

กลยุทธ์ในการสร้างแบรนด์ดีแทคจึงแตกต่างจากผู้ให้บริการ รายอื่นๆ เพราะ “ซิคเว่” ใช้วิธีการเดินทางไปหาลูกค้าถึงร้านค้า ในบริษัท หรือแม้กระทั่งเดินในย่านการค้าหรู และตลาดทั่วไป ทำให้เขาเป็นกลายเป็น “ฝรั่ง” หน้าตาใจดี ยิ้มง่าย กลายเป็นสิ่งที่คุ้นเคยของคนทั่วไปในเวลาอันรวดเร็ว

ปัจจุบันซิคเว่ เบรคเก้ มีตำแหน่งรองประธานบริหาร เทเล นอร์ กรุ๊ป และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เทเลนอร์ เอเชีย ดูแลธุรกิจ ใน 5 ประเทศ คือ ปากีสถาน บังกลาเทศ มาเลเซีย ไทย และอินเดีย โดยมีสำนักงานประจำอยู่ประเทศไทย

ซิคเว่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงและโดยอ้อมกับมูลนิธิ Kids Action for Kids เพราะผู้ก่อตั้งเป็นลูกชายคนโตของเขา โฮกุ้น เบรคเก้ วัย 17 ปี

ครอบครัวของซิคเว่ได้ย้ายตามเขามาอยู่ในประเทศไทย เพื่อมารับตำแหน่งเป็นผู้บริหารในบริษัทดีแทค เขาและครอบครัวพำนักอยู่ในประเทศไทยเป็นเวลา 7 ปี ทำให้มีความผูกพันกับประเทศไทยค่อนข้างมาก โดยเฉพาะลูกชายทั้ง 3 คนของเขาศึกษา เล่าเรียนอยู่ในเมืองไทย และมีบ้านอยู่ที่นี่

การก่อกำเนิดของมูลนิธิ เริ่มจากญาติพี่น้องจากประเทศนอร์เวย์ได้มาท่องเที่ยวในเมืองไทย และต้องการไปเยี่ยมมูลนิธิเด็กกำพร้า ทำให้ได้เห็นเด็กบางส่วนมีส่วนบกพร่องทางร่างกาย เช่น ปากแหว่ง เพดานโหว่ แต่ไม่ได้รับการรักษาผ่าตัดเพราะขาด แคลนทุนทรัพย์ เนื่องจากการผ่าตัดให้กับคนที่ประสบปัญหาปากแหว่ง เพดานโหว่ ต้องมีค่าใช้จ่าย 15,000 บาทต่อคน

ทำให้เด็กกำพร้าและเด็กในต่างจังหวัดที่ครอบครัวมีฐานะยากจนหาเช้ากินค่ำ ไม่มีโอกาสได้รับการช่วยเหลือมากนัก แตกต่างจากประเทศนอร์เวย์ เด็กๆ และประชาชนจะได้รับความช่วยรักษาพยาบาลฟรี

ด้วยความผูกพันของโฮกุ้น เขาบอกว่า “รัก” คนไทยและ วัฒนธรรมไทย จึงมองว่าประเทศไทยเปรียบเสมือนเป็นบ้านหลังที่สอง ประกอบกับตัวเองเป็นเด็กที่ครอบครัวมีความมั่นคงทางการ เงิน มีการศึกษาที่ดี ปัจจุบันเรียนอยู่ International School of Bangkok (ISB) ในประเทศไทย ซึ่งเดินเพียงไม่กี่นาทีจากบ้าน

ความพร้อมสมบูรณ์ทำให้โฮกุ้นปรารถนาที่จะแบ่งปันความ ช่วยเหลือให้ “เด็ก” ด้วยกัน โดยที่เขาไม่จำเป็นต้องเป็นนักการเมือง หรือบิล เกตส์ เพียงแต่เขาเชื่อว่าหากมีจิตใจมุ่งมั่นและเป้าหมายชัดเจน ก็สามารถช่วยเหลือเพื่อนเด็กด้วยกันได้

มูลนิธิ Kids Action for Kids เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2552 โดยมี โฮกุ้นเป็นประธานและมีสมาชิกในครอบครัว มารดา น้องชาย 2 คน และญาติจากนอร์เวย์ร่วมเป็นกรรมการ มีเป้าหมายระดมเงินทุนเพื่อใช้ในการผ่าตัดให้กับเด็กปากแหว่งเพดานโหว่

จากการรายงานของมูลนิธิสร้างรอยยิ้ม (Operation Smile) พบว่าทารกที่เกิดในประเทศไทยทุกๆ 500 คน จะมี 1 คน เป็นโรคปากแหว่ง เพดานโหว่ นั่นหมายความว่าทุกๆ ปี จะมีเด็กไทย ต้องทุกข์ทรมานด้วยปัญหาดังกล่าวหลายพันคน

เด็กเหล่านี้นอกจากจะมีปัญหาทางร่างกาย ทางจิตใจก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน เพราะไม่สามารถกินอาหาร หรือพูดได้เหมือนปกติ จนกลายเป็นปมด้อย แต่ในความเป็นจริงเขาเหล่านี้มีโอกาสรักษาให้หายได้ และมีความสุขกับชีวิตเฉกเช่นคนทั่วไป

วิธีการระดมทุนของมูลนิธิเริ่มแรกให้เพื่อนเด็กในประเทศนอร์เวย์จัดกิจกรรมต่างๆ เช่น ขายอาหาร สิ่งของ นำเงินมาบริจาค

เหมือนเช่นที่ผ่านมาได้รับความช่วยเหลือจากโรงเรียน Hvittingfoss ในประเทศนอร์เวย์ ซึ่งเข้าร่วมในการระดมทุนให้กับมูลนิธิ นอกจากนั้นบริษัทดีแทคได้ร่วมสนับสนุนเงินทุนส่วนหนึ่ง

ในปี 2552 ได้ช่วยเหลือค่าผ่าตัดให้เด็กจำนวน 30 คน เพื่อรักษาอาการปากแหว่งเพดานโหว่ที่โรงพยาบาลชลบุรี ในเดือนสิงหาคม ส่วนปี 2553 ได้ผ่าตัดเพิ่มอีก 50 คน ที่โรงพยาบาลพุทธ ชินราช จังหวัดพิษณุโลก และในปี 2554 จะผ่าตัดเพิ่มอีก 50 คน ในโรงพยาบาลสรรพสิทธิ์ประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ในเดือนพฤษภาคมถึงธันวาคมนี้

การระดมเงินทุนในช่วงแรกเริ่มจากคนใกล้ชิดและกระจาย ไปยังเพื่อนเด็กในประเทศนอร์เวย์ รวมไปจนถึงความช่วยเหลือจาก บริษัทดีแทค ทำให้สามารถระดมทุนได้ 1 ล้านบาท

โฮกุ้นยอมรับว่าส่วนหนึ่งบริษัทดีแทคเข้ามาช่วยเหลือในครั้งนี้ เพราะบิดาของเขา ล่าสุดมูลนิธิได้ร่วมกับบริษัทดีแทค ชักชวนให้ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือกด SMS มาที่หมายเลข 1677 ตั้งแต่ เดือนกุมภาพันธ์ถึงวันที่ 24 พฤษภาคม 2554 ทุก SMS จะมีมูลค่า 1 บาท เพื่อสมทบในการผ่าตัดในปีนี้

ส่วนความช่วยเหลือช่องทางอื่นๆ สามารถเข้าไปบริจาคออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของมูลนิธิ www.kidsactionforkids.org หรือเข้าไปร่วมแสดงความคิดเห็นเพื่อเป็นช่องทางให้ความช่วยเหลือผ่านเฟซบุ๊กได้อีกหนึ่งทาง

โฮกุ้นบอกว่าแม้ความช่วยเหลือจะเริ่มต้นจากครอบครัว แต่มูลนิธินี้มีเป้าหมายสร้างแรงบันดาลในให้กับทุกคน องค์กรต่างๆ เข้ามาช่วยเหลือ

แม้ว่าเขาใกล้จะจบการศึกษาในประเทศไทยแล้วก็ตามและ ต้องไปเรียนต่อในต่างประเทศ แต่มูลนิธิจะคงอยู่ต่อไปเพราะน้องชายอีก 2 คน คือ มาร์ติน เบรคเก้ อายุ 16 ปี และแอนเดิร์ส เบรคเก้ อายุ 14 ปี รวมทั้งครอบครัวของเขาและมูลนิธิสร้างรอยยิ้ม หรือแม้แต่พันธมิตรอื่นๆ จะยังให้ความช่วยเหลือต่อไป

มูลนิธิฯ เป็นส่วนหนึ่งที่กำลังหล่อหลอมโฮกุ้นได้มีโอกาสแสดงบทบาทผู้นำ ได้เรียนรู้การบริหารจัดการสิ่งที่เกิดขึ้น

“คนรุ่นผมควรจะมีบทบาทมากขึ้นในการช่วยเหลือคนอื่นๆ ผมถือว่าเป็นประสบการณ์ที่มีค่ามากๆ ที่สามารถรณรงค์ให้เด็กใน สังคมตะวันตกยื่นมือเข้าช่วยเหลือเด็กที่อาจ ไม่โชคดีเท่าเขาในอีกซีกโลกหนึ่ง การได้เข้าไปทำงานนี้อย่างเต็มตัว และมีส่วนผลักดันและประสานงานกับหลายฝ่ายเพื่อให้เกิดเป็นงานรูปธรรม ช่วยเติมเต็มชีวิตผมได้มากทีเดียว”   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us