|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ด้วยความที่มนุษยชาตินิยมใน iPad อย่างมาก ขนาดที่ว่าเปิดขายเพียงอาทิตย์แรก iPad1 มียอดขายราว 3 แสนเครื่อง ส่วนประเทศไทยว่ากันว่า ขายได้เกิน 100 เครื่องภายใน 2 ชม.เท่านั้น สำหรับ iPad2 ข้อมูลการสำรวจจากนิตยสารฟอร์จูน พบว่า iPad2 มียอดขายร่วมล้านเครื่องภายในอาทิตย์เดียว
ขณะที่กระแสความสนใจของคนทั่วโลก สังเกตจากดัชนีคีย์เวิร์ดของกูเกิล พบว่า iPad เป็น คำที่มีการค้นมากเป็นอันดับหนึ่งในหมู่สินค้า Consumer Electronics ส่วนประเทศไทย iPad เป็นคำที่ถูกค้นหาบ่อยเป็นอันดับสอง รองจากคำว่า “เพลงลูกเทวดา”
แม้ iPad จะไม่ใช่นวัตกรรมเปลี่ยนโลก แต่อุปกรณ์ไฮเทครูปลักษณ์คล้ายกระดานชนวนบ้านเรานี้ ก็สามารถเปลี่ยนวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ในหลายมิติ และมิติหนึ่งที่หลายคนเชื่อว่า iPad มีส่วนอย่างมากในการสนับสนุนให้เกิดขึ้น นั่นก็คือเทรนด์การอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (eBook)
สตีฟ จ๊อบส์บอกชัดเจนว่า iPad ออกแบบมาให้เป็น “เครื่องอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์” หรือ “เครื่องอีบุ๊ค” ทั้งยังเปิดร้านหนังสือออนไลน์ “iBooks Store” ขึ้นมาเพื่อจัดหาหนังสือป้อนให้ iPad
ภายในเดือนแรกของการจำหน่วย iPad ที่อเมริกา ยอดผู้ดาวน์โหลด eBook สูงกว่า 1.5 ล้านครั้ง หรือก็คือมากกว่า 5 หมื่นครั้งต่อวัน
ไม่เพียง iPad ปัจจุบันยังมีเครื่องอีบุ๊คอีกหลายแบรนด์ที่ช่วยส่งเสริม “วัฒนธรรม eBook” ให้แพร่ขยายไปทั่วโลก โดยเฉพาะ Kindle ของค่ายอเมซอน และ Nook ของบาร์นส์ แอนด์ โนเบิล ตลอดจนสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ
ในปี้นี้คาดว่าจะมียอดผลิตคอมพิวเตอร์แท็บเล็ต (Tablet) สูงถึง 60 ล้านชิ้น ภายในปีนี้ เพิ่มขึ้นจาก 10 ล้านชิ้นในปีก่อน และคาดการณ์ว่า ใน 2-3 ปีข้างหน้า ยอดผลิตอาจสูงถึง 150 ล้านชิ้น
ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องโดยตรงหรือไม่ แต่เทรนด์การเติบโตของยอดผลิตแท็บเล็ตก็สอดคล้องกับเทรนด์การเติบโตของยอดขาย eBook ทั่วโลก โดยเฉพาะในอเมริกา ที่ยอดขาย eBook สูงเป็นอันดับ 1 ด้วยมูลค่ากว่า 300 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 8% ของยอดขายหนังสือทั่วไป ขณะที่อังกฤษอยู่ที่ 5% ฝรั่งเศส เยอรมนี และญี่ปุ่นยังอยู่ที่ 1% กว่าๆ ซึ่งคิดเป็นมูลค่ามหาศาล
การปฏิวัติย่อมๆ ในวงการธุรกิจหนังสือและสิ่งพิมพ์ที่ถูกปลุกกระตุ้นด้วยเทคโนโลยีของเครื่องอีบุ๊คเหล่านี้ ทำให้ผู้คนที่แวดล้อมอยู่ในแวดวงหนังสือล้วนต้องปรับตัว
“การที่เรามาทำ eBooks Store เหมือนการวางรากฐานสำหรับอนาคต เราไม่ได้พูดถึงเด็กวัยรุ่นปัจจุบัน แต่เราพูดถึงเด็กเล็กจนถึงเด็ก ที่เพิ่งเกิด เพราะเรามองว่าชีวิตของพวกเขาจะอยู่ กับพวกหน้าจอสัมผัสอย่างนี้มาตลอด สิ่งที่เขาอ่านหรือสิ่งที่เขาได้ก็จะมาจากหน้าจอเหล่านี้ ซึ่งเราจำเป็นที่จะต้องเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้” สิโรจตม์ จิระประยูร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย บุ๊คส จำกัด กล่าวถึงแรงบันดาลใจในการเปิดตัว eBooks Store ของร้านเอเชีย บุ๊คส
อีกเหตุผลหนึ่งเป็นเพราะเอเชีย บุ๊คสเป็น ร้านจำหน่ายหนังสือ ส่วนใหญ่เป็นภาษาอังกฤษ เมื่อเทรนด์ eBook ในอเมริกาและอังกฤษเติบโต อย่างมาก เอเชีย บุ๊คส จึงจำเป็นต้องปรับตัวมากกว่าร้านหนังสือไทยแบรนด์อื่นๆ และอาจนับว่าเป็นร้านหนังสือแห่งแรกในเอเชียที่ทำ eBooks Store เป็นจริงเป็นจัง
“eBook ถือเป็นเทคโนโลยีตัวใหญ่ ไม่ใช่แค่เอเชีย บุ๊คส มันใหญ่สำหรับธุรกิจหนังสือ ทั้งโลก ยังไงเทคโนโลยีนี้ก็ต้องเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของร้านหนังสือทั่วโลกอยู่แล้ว ปฏิเสธไม่ได้ อยู่เฉยก็ไม่ได้ เราขายหนังสือภาษาอังกฤษ ฉะนั้นเราแข่งกับทั่วโลก ไม่ได้แข่งในประเทศไทย”
ขณะที่ปัจจุบันร้านหนังสือเอเชีย บุ๊คส มีอายุร่วม 42 ปี มีทั้งสิ้น 70 สาขา แต่มีหนังสือในทุกร้านรวมกันราว 1 ล้านเรื่อง ทว่า eBooks Store ซึ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มี eBook นำเสนอกว่า 5 แสนไตเติ้ล แต่ยังมีแค่ภาษาต่างประเทศ
ทว่า ภายในเดือนสิงหาคมนี้จะมีหนังสือภาษาไทยเพิ่มเข้ามาพร้อมกับ e-Magazine ส่วนภายในสิ้นปีนี้ คาดว่าจะมี eBook กว่า 1 ล้านไตเติ้ล ทั้งภาษาต่างประเทศและภาษาไทย
“ปีหนึ่งๆ ทั่วโลกมีหนังสือใหม่ออกมากว่าล้านเรื่อง ด้วยพื้นที่จำกัด เราไม่สามารถเก็บได้ถึง 10% ของหนังสือที่ทำออกมาทั้งหมดต่อปีด้วยซ้ำ eBooks Store ทำให้เรามีหนังสือเข้ามามากขึ้น นอกจากนี้ หนังสือบางประเภทที่ผลิตเมื่อ 30-40 ปีก่อน เป็นไปไม่ได้ที่จะเก็บไว้ทั้งหมด เพราะเราต้องมีหนังสือใหม่หมุนเวียน นี่ก็เป็นโอกาสดีที่เราจะเก็บอยู่ในระบบได้อีกนาน”
อีกจุดเด่นของ eBooks Store คือในระยะยาว ต้นทุนการดำเนินงานร้านหนังสือดิจิตอลจะถูกกว่า เพราะ ไม่มีต้นทุนค่าขนส่ง ไม่มีค่าจัดเก็บสต็อก ไม่มีค่าไฟ ไม่มีค่าเช่าร้านซึ่งเป็นตัวใหญ่และเพิ่มขึ้นทุกปี ฯลฯ
สำหรับหนอนหนังสือ eBook และการอ่านหนังสือผ่านเครื่องอ่านจะช่วยให้ไลฟ์สไตล์นักอ่านง่ายขึ้น ด้วยการพก “เครื่องอ่าน” เพียงเครื่องเดียวก็เหมือนมีตู้หนังสือหรือห้องสมุดเคลื่อนที่ไปด้วย นอกจากนี้ยังสามารถเข้าถึงหนังสือน่าซื้อนับล้านเล่มได้ตลอดเวลา โดยไม่ต้องไปหาซื้อที่ร้านหนังสือ
เวลาอ่านก็สามารถย่อหรือขยายข้อความได้ ทั้งยังสามารถเชื่อมโยงกับข้อความต่างๆ ในตัวหนังสือ หรือกับเว็บไซต์อื่นๆ จากอินเทอร์เน็ตได้ด้วย ทั้งนี้ เครื่องอีบุ๊คหลายรุ่นมีเครื่องมือในการขีดเส้นใต้ข้อความหรือทำโน้ตในหน้านั้น โดยไม่ต้องเลอะเทอะเหมือนหนังสือจริง ส่วน eBook บางเล่มก็มีลูกเล่นเป็นข้อความเสียงและภาพเคลื่อนไหว ช่วยเพิ่มสีสันในการอ่านหนังสือ
eBook นอกจากจะช่วยประหยัดทรัพยากรในการพิมพ์ทั้งกระดาษและหมึกพิมพ์ ยังประหยัดพื้นที่จัดเก็บหนังสือ แถมไม่ต้องระวังปลวกมอด ทว่าการอ่าน eBook นานๆ อาจจะแสบตา หรือเวลาที่ไม่มีไฟชาร์จ เครื่องอ่านก็อ่านไม่ได้ หรือถ้าเครื่องอีบุ๊คแฮงก์ก็อาจทำให้ eBook สูญหายได้ นอกจากนี้ยังขาดอรรถรสของความเป็นหนังสือที่หลายคนคุ้นเคย นั่นคือกลิ่นหมึกกลิ่นกระดาษที่โชยอ่อนเวลาพลิกหน้า เป็นต้น
ด้วยเทคโนโลยีของ eBook จะทำให้ ผู้อ่านสามารถค้นหาหนังสือที่ตรงกับความต้องการอ่านจริงๆ จนเจอ หรือในอนาคต อาจจะทำได้ถึงขั้นที่ว่า เลือกซื้อเฉพาะเนื้อหา ในบทที่ต้องการโดยไม่ต้องซื้อทั้งเล่มก็ยังได้ ซึ่งสิโรจตม์ให้ข้อมูลว่า ในต่างประเทศกำลังพัฒนาแนวคิดที่เรียกว่า “Short but Beautiful” นี้อยู่
นอกจากนี้ eBook ยังส่งเสริมบรรยากาศให้เกิดนักเขียนอิสระหน้าใหม่ได้ ง่ายๆ เพราะเมื่อไม่มีขั้นตอนการพิมพ์ที่ต้องใช้เงินทุนสูงทำให้ต้องแบกรับความเสี่ยง สูงตามไปด้วย นักอยากเขียนที่อยากมีผลงานนำเสนอจึงไม่ต้องลงทุนมาก โดยอาจ ทำ eBook ด้วยตนเองแล้วโพสต์ขายเอง หรือติดต่อกับเอเชีย บุ๊คส เพื่อส่งเข้าระบบ eBooks Store ก็ได้ ซึ่งสิโรจตม์ย้ำว่า เอเชีย บุ๊คส ยินดีเปิดรับ
แม้จะไม่มีค่าพิมพ์ แต่ก็หาใช่ว่า eBook ทุกเล่มจะมีราคาถูกกว่าหนังสือจริง สำหรับ eBooks Store ราคา eBook บางไตเติ้ลราคาเท่ากับตัวหนังสือ บางไตเติ้ลราคาถูกกว่าเพียงเล็กน้อย โดยสิโรจตม์ให้เหตุผลว่า การตั้งราคาถูกกำหนดมาจากสำนักพิมพ์เจ้าของลิขสิทธิ์เป็นส่วนใหญ่
“ในธุรกิจหนังสือ “Content is King” ฉะนั้นผู้คุมตลาดจริงๆ คือ ผู้ผลิตคอนเทนต์หรือเจ้าของลิขสิทธิ์ แล้วที่เขายังคุมตลาดเข้มงวด เพราะยังมีความกลัวไม่อยากให้ตลาดหนังสือเหมือนตลาดเพลง ตอนที่ mp3 เข้ามาใหม่ๆ ทุกคนเริ่มต้น ทุกคนตื่นเต้น แล้วก็เลยไปเร็วมาก แล้วมันก็ไปเร็วมากจนควบคุมได้ยาก”
เพื่อป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ของ eBook จึงได้มีการคิดระบบ Digital Right Management (DRM) ซึ่งเป็นโปรแกรมจัดการสิทธิของผู้ใช้ข้อมูลที่อยู่ในรูปแบบดิจิตอล ว่าด้วยการเข้าถึงข้อมูลโดยผู้ผลิตกำหนดว่า ผู้ซื้อจะเล่นที่ไหนหรือทำอะไรกับสินค้าได้บ้าง รวมถึงจำกัดการทำสำเนาหรือดาวน์โหลดซ้ำ เป็นต้น
สำหรับหนอนหนังสือที่อยากอ่าน eBook สามารถเข้าไปซื้อหาได้จากเว็บไซต์ หรือจะเข้ามาซื้อกับ eBook ที่ร้านเอเชีย บุ๊คส ก็ทำได้ในทุกสาขา
“เราไม่ได้คาดหวังว่า eBook จะมาแทนตัวหนังสือ มันแทนไม่ได้ แต่มันทำให้คนอ่าน มีทางเลือกในสิ่งที่ตรงกับรสนิยมเขามากขึ้น” คำตอบของสิโรจตม์ต่อคำถามที่ว่า หนังสือจะตายหรือไม่?
อย่างไรก็ดี เงินลงทุนในการทำ eBooks Store ราว 11 ล้านบาท สิโรจตม์เชื่อว่า น่าจะคุ้มทุนได้ใน 3-4 ปี ทว่าก็ยังต้องมีการลงทุนต่อเนื่องเพื่อการดูแลและอัพเกรดระบบอย่างไม่หยุดยั้ง รวมถึงการพัฒนา App (Application) สำหรับเครื่องอีบุ๊คแต่ละแบบให้ทัน กับเทคโนโลยีที่ออกมาใหม่
บนโลกใบนี้อาจมีหนังสือมากมายมหาศาล แต่มีเพียงไม่ถึง 1% ที่เราจะเข้าถึงได้ตัวหนังสือเหล่านั้นได้ ขณะที่บนโลกของ eBooks แม้เข้าถึงได้เพียง 1% นั่นก็คือสวนหนังสือ ดิจิตอลอันกว้างใหญ่ไร้จุดสิ้นสุดที่อยู่ใกล้มือเราเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส
...แต่ไม่ว่าจะเป็นหนังสือรูปแบบไหน ขอให้รักการอ่าน คลังข้อมูลเหล่านั้นจึงจะกลายเป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาและจินตนาการไม่รู้จบของเรา!!
|
|
|
|
|