แม้จะมีธุรกิจซักอบรีดหลายประเภท เริ่มตั้งแต่เครื่องหยอดเหรียญราคาไม่กี่สิบบาทตั้งอยู่ทุกซอกซอยไปจนถึงร้านรับบริการทั่วไป แม้กระทั่งโรงแรมบางแห่งก็เปิดให้บริการ แต่บริษัทไอคลีนยังเห็นโอกาสลูกค้าระดับบนโดยเฉพาะลูกค้าระดับ 5 ดาวที่ยังมีตลาดว่างอยู่

ธุรกิจซักอบรีดเป็นงานบริการที่มีความละเอียดอ่อน แต่น้อยคนนักจะรู้ว่าเบื้องหลังกระบวนการดูแลผ้าไม่ใช่เรื่องง่าย เหมือนเอาผ้าเข้าเครื่อง ทำให้แห้งแล้วก็รีดส่งลูกค้า

บริษัทไอคลีน ลอนดรีย์ จำกัด เป็น บริษัทใหม่ก่อตั้งเมื่อปลายปีที่ผ่านมา โดยมีกนกวรรณ พฤติวรกุล เจ้าของธุรกิจร้าน จิวเวลรี่ชื่อ PAK เจมส์ โรงแรมไอ เรสซิเด้นท์ และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นนายทุน

จากประสบการณ์ของกนกวรรณ ที่มีโรงแรมไอ เรสซิเด้นท์ ของตัวเองและต้องส่งผ้าของโรงแรมให้บริษัทและร้านค้าข้างนอกซักอบรีด และพบว่าผ้าไม่สะอาด

ตอนแรกส่งซักร้านที่เก็บค่าบริการ ไม่สูง จึงไม่สะอาดเรียบร้อย จึงเปลี่ยนไปใช้บริการซักอบรีดในโรงแรมบางแห่ง แต่ เมื่อไปเห็นสถานที่และกระบวนการทำความ สะอาดไม่มีมาตรฐาน ทำให้ไม่ไว้วางใจใช้บริการ

กนกวรรณจึงมีแนวคิดจะตั้งบริษัทและโรงงานซักอบรีดขึ้นมา แม้เธอจะไม่มีประสบการณ์ด้านซักรีดแม้แต่น้อย เพราะเชี่ยวชาญด้านเพชรพลอยมากกว่า

โชคดีได้ทีมงานที่มีประสบการณ์ด้านซักอบรีด เช่น ปฏิภาค สายสว่าง รองประธานฝ่ายผลิต และเจนปกรณ์ วีรชยาภรณ์พงษ์ ผู้บริหารจากโรงแรมแมนดารินโอเรียนเต็ลเข้ามาร่วมงาน

โดยเฉพาะปฏิภาคมีประสบการณ์ด้านซักรีดทั้งในและต่างประเทศกว่า 20 ปี ความชำนาญและประสบการณ์ของเขากลายเป็นส่วนหนึ่งที่หล่อหลอมความคิดของบริษัทไอคลีนให้เป็นบริษัทซักอบรีดระดับพรีเมียม เพื่อเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าระดับบนและโรงแรมตั้งแต่ระดับ 5 ดาวขึ้นไป

ปฏิภาคบอกกับผู้จัดการ 360 ํ ว่าจากประสบการณ์ที่ผ่านมาพบว่าตลาดซักอบรีดระดับบนต้องการคนมีประสบการณ์ดูแลเสื้อผ้าและผ้าทั่วไปให้มีคุณภาพสะอาดและมีมาตรฐาน โดยไม่ได้คำนึงเรื่อง ราคาเป็นหลัก

บริษัทจึงเป็นคำตอบของกลุ่มลูกค้า เหล่านี้ และโรงงานบริการซักอบรีดแห่งแรก ในจังหวัดนนทบุรีจึงเกิดขึ้น และสร้างแล้วเสร็จเมื่อต้นเดือนมีนาคม 2554

กระบวนการซักรีดของบริษัทจะมีทั้งคนและเครื่องจักร เครื่องจักรจะทำหน้าที่ ซักผ้าและรีดผ้า โดยเฉพาะเครื่องรีดผ้าจะมีขนาดใหญ่เพื่อรีดผ้าผืนใหญ่ เช่น ผ้าปู ที่นอน ผ้าคลุมเตียง หรือผ้าห่ม ส่วนคนจะ ทำหน้าที่ควบคุมเครื่องจักร รีดเสื้อผ้าสวมใส่ และคนจะทำหน้าที่ตรวจสอบคุณภาพด้าน ความสะอาด ดูแลเสื้อผ้าที่ชำรุด

หากมองด้วยตาและเปรียบเทียบขบวนการซักอบรีดของโรงงานในระดับเดียวกัน ไม่สามารถแยกความแตกต่างได้เลย แต่ปฏิภาคชี้ให้เห็นถึงจุดนี้ว่ากระบวน การผลิตเริ่มตั้งแต่การแยกประเภทของผ้า การทดสอบสีจากผ้า สีตกหรือไม่ เพราะผ้าแต่ละประเภทจะต้องแยกออกจากกัน

รวมถึงการนำผ้าไปซักจะใช้น้ำยาชนิดพิเศษที่มีคุณสมบัติไม่เป็นกรด-ด่าง มีความเป็นกลางจะทำให้ผ้าไม่หดตัวและสีไม่ตก กรณีลูกค้าต้องการให้แก้ไขเสื้อผ้าที่มีรอยคราบเปื้อนอาหารหรือตกสี บริษัทจะมีเทคนิคทำให้เสื้อผ้ากลับมีสีดังเดิม

ความชำนาญเหล่านี้ต้องเกิดจากการเรียนรู้และประสบการณ์ส่วนตัวของแต่ละบุคคลซึ่งไม่สามารถเปิดหาอ่านจากตำราที่ใด แต่บริษัทไอคลีนมีบุคลากรมาจากทั้งโรงแรมแมนดารินโอเรียนเต็ล และ โรงแรมแกรนด์ไฮแอทเอราวัณ

บริการซักรีดของบริษัทจะแบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก ส่วนแรกรับซักผ้าทุกชนิดให้กับโรงแรม ร้านอาหาร สปา บริการส่วนนี้ เรียกว่า linen laundry ส่วนที่สองซักอบแห้ง (dry cleaning) รับซักเสื้อผ้าของลูกค้าบุคคล ซึ่งส่วนนี้รับบริการทำความสะอาดเครื่องหนังอีกด้วย

ในส่วนของบริการซักอบแห้งจะรับซักให้กับลูกค้าของโรงแรมและลูกค้าที่เดินเข้าไปส่งซัก ณ จุดบริการต่างๆ ปัจจุบันมี 3 แห่ง คือ โรงแรมไอ เรสซิเด้นท์ สีลม ลาวิลล่า ซอยอารีย์ ถนนพหลโยธิน และ ร้านเพียวเพรส หน้าหมู่บ้านสัมมากร ถนน รามคำแหง ซอย 110 และจะเปิดเพิ่มอีก 2 แห่งในเมษายนนี้คือ เดอะซิตี้ วีว่า ถนน นราธิวาสราชนครินทร์ และเดอะเซอร์เคิล ราชพฤกษ์ ปาร์ค โดยร้านค้าไอคลีนจะอยู่ในย่านชุมชนที่เป็นลูกค้าระดับบนทำงานและอาศัย

ส่วนลูกค้าโรงแรมระดับ 5 ดาวที่ใช้ บริการของบริษัทมี 2 แห่ง คือ โรงแรม St.Regis Bangkok ถนนราชดำริ และโรงแรม Lebua ถนนสีลม

เจนปกรณ์ วีรชยาภรณ์พงษ์ ผู้จัด การทั่วไป บริษัทไอคลีน ลอนดรีย์ จำกัด กล่าวถึงแนวทางการทำตลาดของบริษัทจะเน้นขายตรง เพื่อให้สามารถได้พูดคุยกับ ลูกค้าเพื่อนำเสนอระบบการจัดการดูแลผ้า ให้มีคุณภาพ ตั้งแต่รับและส่ง และนำลูกค้า มาดูโรงงานเพื่อให้เห็นกระบวนการผลิต การตรงต่อเวลาในการรับ-ส่ง และการซ่อมแซมผ้าที่ชำรุด

“เราจะไม่คุยกับลูกค้าเรื่องราคาเป็น อันดับแรก หรือแข่งขันกับคู่แข่งด้วยการลดราคาให้กับลูกค้า เราจะไม่เล่นสงครามราคา แต่เราจะบอกว่าเราจะให้บริการลูกค้าได้อย่างไรในระดับคุณภาพพรีเมียม”

เจนปกรณ์เล่าว่าหลังจากที่เขาได้เข้าไปคุยกับผู้บริหารของโรงแรม St.Regis และพามาเยี่ยมชมโรงงาน เขาตัดสินใจเลือกบริษัท แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีบริษัทอื่นเข้าไปเจรจา 2-3 รายแล้วก็ตาม

การยกระดับบริการซักอบรีดเป็นระดับพรีเมียม ทำให้บริษัทซักผ้าไอคลีนหาญกล้าที่จะกำหนดราคาค่าบริการสูงกว่า ท้องตลาดในปัจจุบันถึง 20-30 เปอร์เซ็นต์

เพราะบริษัทมีความเชื่อว่าลูกค้าที่อยู่ในตลาดปัจจุบัน โดยเฉพาะระดับบนที่สวมใส่เสื้อผ้ามีแบรนด์ ราคาแพง ต้องการ คนดูแลเสื้อผ้าให้มีคุณภาพดังเดิม ไม่ได้สนใจเรื่องราคาเป็นอันดับแรก หรือแม้แต่โรงแรมระดับ 5 ดาวก็ต้องการการซักอบรีดที่มีคุณภาพได้มาตรฐานเช่นเดียวกัน

การบริหารจัดการธุรกิจซักอบรีดเป็นสิ่งหนึ่งที่บริษัทได้คำนึงไว้ตั้งแต่แรก จึงทำให้บริษัทอยู่ระหว่างดำเนินงานขอ มาตรฐาน ISO 9001-2008 และคาดว่าจะได้การรับรองภายในปีนี้

มาตรฐานนี้จะดูแลกระบวนการผลิตเริ่มตั้งแต่การใช้น้ำยาซักผ้าไม่มีสารพิษ ตกค้างในน้ำ และเสื้อผ้า รวมถึงจะมีระบบ บำบัดน้ำเสีย เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม รวมถึงกระบวนการจัดรับ-ส่งที่ตรงต่อเวลา

สำหรับโรงงานได้ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีการลงทุนประมาณ 200 ล้านบาท แบ่งแผนการติดตั้งอุปกรณ์และการผลิตออกเป็น 3 ระยะ ระยะที่ 1 ติดตั้งอุปกรณ์เครื่องซักผ้า เครื่อง รีดผ้าขนาดใหญ่ยี่ห้อ Image ผู้ผลิตและส่งออกบริษัทคนไทย ซึ่งส่วนนี้จะซักผ้าของ โรงแรมเป็นหลัก

ส่วนเครื่องซักผ้า และเครื่องรีดผ้าสำหรับสวมใส่จะใช้เครื่องยี่ห้อ RENZACCI ของอิตาลี และส่วนใหญ่เสื้อผ้าที่ส่งมาซักอบรีดในช่วงนี้จะเป็นเสื้อกันหนาวเป็นหลัก เพราะลูกค้าจะเดินทางไปต่างประเทศ

ในระยะที่ 2 ราวเดือนพฤษภาคมนี้ จะเพิ่มเครื่องซักผ้า และระยะสุดท้าย ไตรมาสแรกปี 2554 จะสามารถซักอบรีดได้ตามเป้าหมายคือ รองรับการทำงานได้ 30 ตันต่อวัน

ธุรกิจของบริษัทไอคลีนไม่ได้ให้บริการซักอบรีดเท่านั้น แต่บริษัทมีแผนต่อยอดธุรกิจออกไปด้วยการให้บริการเช่าผ้าให้กับโรงแรมหรือร้านค้าตามความต้อง การของลูกค้า

บริการเช่าผ้าหมายถึงบริษัทจะเป็นผู้ลงทุนเป็นเจ้าของผ้า และทำหน้าที่ซักอบรีดครบวงจร โดยให้ลูกค้ามาเช่าใช้ ตามสัญญาที่กำหนดไว้เป็นรายปีตามข้อตกลงร่วมกัน ซึ่งบริการดังกล่าวเปรียบเสมือนเป็นเอาท์ซอร์ส บริการเกี่ยวกับผ้าให้บริษัทเป็นผู้จัดการบริหาร ทำให้โรงแรม ไม่ต้องลงทุนและช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย

ปฏิภาคเล่าถึงแนวความคิดดังกล่าว ให้ผู้จัดการ 360 ํ ฟังว่า บริการเช่าผ้ายังไม่เกิดขึ้นในประเทศไทย แต่ในต่างประเทศ ได้เกิดขึ้นมานานแล้ว และเขาคิดว่าในประเทศไทยมีแนวโน้มจะเกิดขึ้น เพราะประเทศไทยเป็นเมืองท่องเที่ยว และเชื่อว่าแนวโน้มจะเกิดโรงแรมใหม่ๆ จึงมีอย่างแน่นอน

ต่อข้อซักถามของผู้จัดการ 360 ํ เกี่ยวกับความเสี่ยงของธุรกิจซักผ้าจะเป็นอย่างไร เพราะราคาที่สูงกว่าตลาด 20-30 เปอร์เซ็นต์ เจนปกรณ์ตอบข้อสงสัยดังกล่าว ว่า หากมองในมุมการท่องเที่ยวโรงแรมจะเติบโตไปกับการท่องเที่ยว ฉะนั้น ธุรกิจซักอบรีดก็จะเติบโตตาม

หากมองในมุมกลับกันธุรกิจท่องเที่ยวซบเซา บริษัทก็เห็นโอกาสที่จะรับเอาท์ ซอร์สให้บริการเช่าผ้าทดแทน เพราะเชื่อว่า หากโรงแรมต้องการลดต้นทุน แนวทางนี้จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย และโรงแรมหันไปบริหารจัดการ ธุรกิจหลักมากกว่าที่จะต้องมากังวลเรื่องต้นทุน

บริษัทซักผ้าไอคลีน แม้จะมีทีมงาน ที่มากประสบการณ์ก็ตาม แต่การเป็นหน้าใหม่ในวงการธุรกิจซักอบรีด ต้องอาศัยเวลา ไม่น้อยเพราะผู้บริหารเองก็ยอมรับว่า เงินที่ลงทุนไปจะคุ้มทุนได้ต้องใช้เวลา 5 ปี

ความสำเร็จของธุรกิจไม่ได้ขึ้นอยู่กับเครื่องซักผ้า แต่ขึ้นอยู่กับ “คน” ว่าจะบริหารจัดการธุรกิจอย่างไรให้สัมฤทธิผล ปฏิภาคกล่าวทิ้งท้ายไว้อย่างน่าสนใจ

แน่นอนว่าการสร้างบริการซักอบรีดระดับเป็นพรีเมียมให้ “เกิด” ไม่ใช่เรื่องยาก ทว่าการ “รักษา” ความเป็นพรีเมียมก็ไม่ใช่เรื่องง่าย