|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
Southern Corridor ถือเป็นระเบียงเศรษฐกิจที่มีระดับการพัฒนาทิ้งห่างจากโครงการอื่นๆ ใน GMS แต่เมื่อจีนประกาศเดินหน้าก่อสร้างเส้นทางรถไฟความเร็วสูงผ่านลาวและไทย ทั้งออสเตรเลียและ ADB ก็ไม่อาจอยู่เฉยสำหรับการเร่งรัดเดินหน้าโครงการทางด้านใต้ในหลายช่องทาง
เว็บไซต์สถานีวิทยุเอเชียเสรี ภาคภาษาเวียดนาม รายงานว่าเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงได้จัดประชุมกันที่ประเทศกัมพูชา เพื่อเร่งพัฒนาแนวระเบียงเศรษฐกิจตอนล่าง (Southern Economic Corridor)
เนื่องจากการเชื่อมประสานการขนส่งผ่านแดนระหว่างประเทศในอนุภูมิภาคแม่น้ำโขงตอนล่าง ปัจจุบันยังคงมีระยะห่างเปรียบเทียบกับระเบียงเศรษฐกิจสายอื่นๆ ประเทศเหล่านี้จึงตัดสินใจร่วมมือกัน 9 ขอบเขต ภายใต้ความช่วยเหลือของธนาคารพัฒนาเอเชีย และอีกบางชาติ
เร่งพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจตอนล่าง
การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นเมื่อวันพุธที่ 9 มีนาคม โดยบรรดาประเทศอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ได้จัดประชุมพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจตอนล่าง ภายใต้ความช่วยเหลือทางการเงินจากธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) และหน่วยงานพัฒนาระหว่างประเทศของออสเตรเลีย
ตัวแทนประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ประกอบด้วยไทย พม่า ลาว เวียดนาม จีน และกัมพูชา ได้จัดประชุมขึ้นที่กรุงพนมเปญ ภายใต้การเป็นประธาน ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กัมพูชา Cham Prasidh และการประชุมนี้ดำเนินต่อไปจนถึงวันพฤหัสบดีที่ 10 มีนาคม
Cham Prasidh กล่าวว่า บรรดาประเทศบนแนวระเบียงเศรษฐกิจตอนล่าง เป็นระเบียงเศรษฐกิจที่มีบทบาทสำคัญอีกสายหนึ่ง ในโครงการร่วมมือทางเศรษฐกิจของประเทศอนุภูมิภาคแม่น้ำโขง (Greater Mekong Subregion : GMS) โดยระเบียง เศรษฐกิจอีก 2 สาย ประกอบด้วยระเบียงเศรษฐกิจสายตะวันออก-ตะวันตก (East-West Economic Corridor) และระเบียงเศรษฐกิจเหนือ-ใต้ (North-South Economic Corridor)
เขาย้ำว่า ถึงแม้การแลกเปลี่ยนสินค้า ความร่วมมือพัฒนากับท้องถิ่นต่างๆ ภายในประเทศและกับบรรดาประเทศในอนุภูมิภาคแม่น้ำโขงเปิดกว้าง เป็นหนึ่งในบรรดาประตูหันสู่ระเบียงเศรษฐกิจตอนล่าง แต่ก็กำลังมีระยะห่างค่อนข้างมาก เมื่อเปรียบเทียบกับระเบียงเศรษฐกิจ 2 สายดังกล่าว อย่างไรก็ดี ระเบียงเศรษฐกิจตอนล่างก็กำลังพัฒนาและมีความคืบหน้าค่อนข้างมาก
Cham Prasidh เสริมว่า ระยะห่างนี้ไม่เพียงเพื่อให้ประเทศต่างๆ เชื่อมประสานยานพาหนะขนส่งต่างๆ เช่น ทางรถไฟ แต่ทางน้ำและทางอากาศต้องมีการ เสริมสร้างความร่วมมือกันด้วย
Thomas Crouch รองหัวหน้ากิจการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของธนาคาร พัฒนาเอเชีย (ADB) กล่าวในที่ประชุมว่า วัตถุประสงค์ของการจัดประชุมประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ว่าด้วยการพัฒนา บนแนวระเบียงเศรษฐกิจ คือเพื่อแก้ไขปัญหาที่ยังเหลืออยู่และเร่งความคืบหน้าการพัฒนาบนแนวระเบียงเศรษฐกิจตอนล่างระหว่างประเทศอนุภูมิภาคแม่น้ำโขง
เขาบอกว่าปัญหาเหล่านี้ประกอบด้วยการวิจัย คัดสรรรูปแบบ วางระเบียบการค้า และการขนส่ง การพัฒนายกระดับ ผลิตภัณฑ์ การรวบรวมนักธุรกิจ และพัฒนาเขตท่องเที่ยว
Thomas Crouch กล่าวเพิ่มเติมว่า “ถึงแม้ระยะห่างยังมีค่อนข้างมากเกี่ยวกับปัญหาการขนส่งบนแนวระเบียงเศรษฐกิจตอนล่าง เปรียบเทียบกับแนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก และแนวระเบียงเศรษฐกิจเหนือ-ใต้ พวกเรากำลังเร่งลดระยะห่างนั้น และปัจจุบันระเบียงเศรษฐกิจนี้กำลังพัฒนาค่อนข้างเร็ว”
นานาชาติช่วยเหลือ
ตามการแถลงของธนาคารพัฒนาเอเชีย นับถึงปลายปี 2553 ธนาคารพัฒนา เอเชียได้ช่วยเหลือทางการเงินประมาณ 4,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แก่ 55 โครงการ ตามรายการความร่วมมือพัฒนาประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ด้วยค่าใช้จ่ายรวมทั้งสิ้นประมาณ 11,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ออสเตรเลียช่วยเหลือด้านการเงินประมาณ 43.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อ พัฒนาระเบียงเศรษฐกิจตอนล่างกับประเทศ ในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง โดยเฉพาะความร่วมมือพัฒนาชายหาดบนแนว ระเบียงตอนล่างในกัมพูชาและเวียดนาม นอกจากนั้น ออสเตรเลียยังช่วยเหลือค่าใช้จ่ายกว่า 302 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขอบเขตโครงสร้างพื้นฐานชนบท ปรับปรุงคุณภาพชีวิตของประชาชนและการค้าในประเทศอนุภูมิภาคแม่น้ำโขง
Sok Chenda เลขาธิการสภาพัฒนากัมพูชา ยอมรับในที่ประชุมว่า กัมพูชาจะได้รับประโยชน์มากจากโครงการ พัฒนาดังกล่าว เขาย้ำว่า “พวกผมไม่เพียงต้องการเชื่อมประสานการขนส่งผ่านแดนกับประเทศอนุภูมิภาคแม่น้ำโขง แต่พวกผมยังต้องการเชื่อมประสานทั้งการประกอบการผลิตและการบริการ”
แนวระเบียงตอนล่างของอนุภูมิภาค ลุ่มแม่น้ำโขงไหลผ่าน 41 จังหวัด แขวง และนครของลาว ไทย กัมพูชา และเวียดนาม ซึ่งจะเชื่อมกับอีก 2 มณฑลของ จีน คือมณฑลหยุนหนัน และมณฑลกว่างสี
ประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ประกอบด้วยจีน พม่า ลาว ไทย กัมพูชา และเวียดนาม ในช่วงปี 2535 ด้วยความช่วยเหลือจากธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) 6 ประเทศสมาชิกของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงประกาศโครงการความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคโครงการหนึ่ง เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การก่อสร้างและการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ประกอบด้วย 9 ขอบเขตเร่งด่วน คือ เกษตรกรรม การพลังงาน สิ่งแวดล้อม การพัฒนาทรัพยากรบุคคล โทรคมนาคม การท่องเที่ยว โครงสร้างพื้นฐาน การคมนาคมขนส่ง และการสร้างความสะดวกทางการค้า
|
|
|
|
|