|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ภูมิทัศน์ของตลาด NGV กำลังขยายตัวต่อเนื่อง และอาจเผยให้เห็นผู้ประกอบการรายใหม่ที่ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะ ปตท. เมื่อบริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) เดินหน้าขยายธุรกิจทุ่มเงิน 400 ล้านบาท เข้าซื้อสถานีบริการ NGV ใหญ่ที่สุด รองรับความต้องการใช้ NGV ในภาคขนส่งที่เพิ่มสูงขึ้น
ชัยฤทธิ์ สิมะโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า บริษัทได้ตัดสินใจใช้เงินลงทุนรวม 400 ล้านบาท เพื่อขยายการลงทุนในส่วนของสถานีให้บริการก๊าซธรรมชาติ (NGV) ตามแผนงานที่วางไว้ ทั้งนี้ถือเป็นการกระจายความเสี่ยงในการทำธุรกิจสถานีบริการน้ำมันที่มีการแข่งขันสูง อีกทั้งแนวโน้ม ความต้องการใช้ NGV ในภาคขนส่งได้เพิ่มสูงขึ้นมาก ในขณะที่สถานีบริการ NGV ยังมีอัตราการขยายตัวไม่ทันกับความต้องการ
“การซื้อกิจการสถานีบริการ NGV ในครั้งนี้ บริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาเข้าซื้อบริษัท สิริเจริญวัฒนา จำกัด ซึ่งเป็นผู้บริหารสถานีดังกล่าว พร้อมทั้งที่ดินในวงเงินรวม 400 ล้านบาท โดยสถานีดังกล่าวได้ดำเนินการมาแล้วประมาณ 2 ปี ปัจจุบันมียอดขายก๊าซธรรมชาติประมาณ 100 ตัน/วัน”
สำหรับสถานีบริการ NGV ที่ SUSCO เข้าซื้อกิจการ ตั้งอยู่ติดกับสถานีขนส่งสายใต้ใหม่บนถนนบรมราชชนนี บนเนื้อที่ประมาณ 8 ไร่ เป็นสถานีให้บริการ NGV ขนาดใหญ่ที่มี 48 หัว จ่าย สามารถจ่ายก๊าซธรรมชาติได้สูงถึงประมาณ 230 ตัน/วัน รองรับการให้บริการรถได้กว่า 5,000 คันต่อวัน โดยแยกเป็นสถานี ที่ให้บริการเฉพาะรถขนาดใหญ่ (Fleet Station) และสถานีที่ให้บริการทั่วไป (Super Conventional Station) และถือเป็นสถานี บริการก๊าซธรรมชาติประเภทแนวท่อที่ใหญ่ที่สุด โดย SUSCO เริ่มเข้าไปบริหารสถานี NGV แห่งนี้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา
มาวีร์ สิมะโรจน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) กล่าวเพิ่มเติมและแสดงความเชื่อมั่นต่อการลงทุนใหญ่ครั้งสำคัญในครั้งนี้ว่า เป็นการขยายฐานธุรกิจในส่วนของสถานีบริการก๊าซธรรมชาติ มีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับความต้องการใช้ NGV ในภาคขนส่งที่สูงขึ้น โดยประเมินจากตัวเลขในภาพรวมของตลาดที่มียอดขายผ่านสถานีบริการ NGV ทั่วประเทศประมาณ 4,000 ตัน/วัน ในปี 2552 และเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 6,000 ตัน/วัน ในปัจจุบัน ซึ่งยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“ที่สำคัญ สถานีบริการ NGV แห่งนี้ ตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพมาก เนื่องจากอยู่ติดกับสถานีขนส่งสายใต้ใหม่เป็นศูนย์การเดินรถไปยังจังหวัดในภาคใต้ของประเทศ อีกทั้งรถโดยสารขนาดใหญ่ได้ทยอยเปลี่ยนจากการใช้น้ำมันเพียงอย่างเดียว มาเป็นใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงร่วม เพราะสามารถประหยัดค่าเชื้อเพลิงได้อย่างมาก นอกจากนี้ ยังมีรถตู้และรถแท็กซี่ที่เวียน เข้ามารับผู้โดยสาร และใช้บริการตลอด 24 ชั่วโมง หากในอนาคต สถานีขนส่งสายใต้มีการขยายตัว สถานีบริการแห่งนี้ก็จะมียอดขายเพิ่มขึ้นตามไปด้วย”
ปัจจุบัน บมจ.ซัสโก้ มีกำไรขั้นต้นก่อนหักค่าใช้จ่ายประมาณ 500-600 ล้านบาทต่อปี โดยเป็นกำไรขั้นต้นที่มาจากสถานีบริการ NGV ประมาณร้อยละ 10 เมื่อซื้อสถานีบริการดังกล่าวเข้ามาคาดว่าจะทำให้สัดส่วนกำไรขั้นต้นที่มาจากธุรกิจ NGV เพิ่มขึ้นเป็นประมาณร้อยละ 20 ภายใน 2 ปี ทั้งนี้ บริษัทได้ดำเนินธุรกิจสถานีบริการน้ำมันอยู่ 147 แห่งทั่วประเทศ และมีสถานีบริการ LPG 7 แห่ง สถานีบริการ NGV จำนวน 8 แห่ง การเข้าซื้อสถานี NGV แห่งนี้จะทำให้บริษัทฯ มีสถานีบริการ NGV รวมเป็น 9 แห่ง
|
|
|
|
|