Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์6 เมษายน 2554
'ฟิตเนส เฟิรส์ท' ท้าชนขึ้นแท่นเบอร์ 1งัดกลยุทธ์ขยายสาขาสร้างฐานลูกค้า             
 


   
search resources

Fitness




หลังจากที่ธุรกิจฟิตเนสกลายเป็นที่นิยมของคนไทย แม้แต่ช่วงที่เศรษฐกิจถดถอยภาพคนไทยที่ออกกำลังกายตามฟิตเนสกลับไม่ลดลงเลย ทำให้การแข่งขันของฟิตเนสมีความรุนแรงมากขึ้นและต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของบริการที่แต่ละรายพยายามให้สิ่งที่เหนือกว่าคู่แข่งเข้ามาให้ลูกค้าได้ใช้ หรือการเพิ่มคลาสเรียนให้มากขึ้นเพื่อสร้างกิจกรรมที่หลากหลาย

สมรภูมิการแข่งขันธุรกิจฟิตเนสไม่ได้หยุดเพียงเท่านั้น นับวันจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เพื่อแข่งกันขึ้นเป็นที่ 1 เนื่องจากมูลค่าตลาดฟิตเนสของโลกอยู่ในระดับที่สูงถึง 67,185,040,085 ล้านบาท ขณะที่ไทยมูลค่าตลาดก็ไม่ได้น้อยหน้าอยู่ที่ 11,000 ล้านบาท โดยธุรกิจฟิตเนสในไทยมีด้วยกัน 3 แบรนด์ใหญ่ คือ ฟิตเนส เฟิรส์ท,แคลิฟอร์เนีย ว้าว เอ็กซ์พีเรียนซ์ และทรูฟิตเนส นอกจากนี้ ยังมีฟิตเนสห้องแถวอีกจำนวนไม่น้อยรวมแล้วมีสาขาทั่วประเทศ 1,011 สาขา จำนวนสมาชิกของทุกบริษัททั่วประเทศมี 540,000 คน

โดยผู้ที่เตรียมขึ้นแท่นอันดับ 1 อย่าง “ฟิตเนส เฟิรส์ท” ปีนี้เตรียมทุ่มเม็ดเงินลงทุนกว่า 285 ล้านบาทเพื่อขยายสาขาใหม่อีก2สาขาและปี 2555 อีก 1 สาขาพร้อมกับยกมาตรฐานสาขาปัจจุบันให้ดีขึ้น คาดเป้าหมายของการทุ่มเม็ดเงินจะสร้างฐานลูกค้าได้ไม่ต่ำกว่า 10,000 คน ปัจจุบัน “ฟิตเนส เฟิรส์ท” มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 15%

พร้อมชูแนวคิด "MAKE THE WORLD A FITTER PLACE" ผ่านผลิตภัณฑ์ บริการและกิจกรรมใหม่ๆ รวม 10 รายการ อาทิ คลาสซูมบ้า การเต้นแนวลาตินทางเลือกใหม่ของสมาชิกคลาสบอดี้แจม ฟิตซิงค์ โปรแกรมบริหารจัดการการออกกำลังกายและแอพพลิเคชั่นออนไลน์เพื่อคนรักสุขภาพ ฯลฯ ซึ่ง “ฟิตเนส เฟิรส์ท” ทุ่มงบในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการกว่า 50 ล้านบาท คาดว่ากิจกรรมเหล่านี้จะช่วยดึงลูกค้าใน 18 สาขาให้อยุ่กับ “ฟิตเนส เฟิรส์ท” อย่างต่อเนื่อง

การหันมารุกตลาดฟิตเนสในไทยของ “ฟิตเนส เฟิรส์ท” เพราะมีอัตราการเติบโตของธุรกิจที่สูงที่สุดในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งคาดว่าในอีก 12 เดือนข้างหน้าจะมียอดสมาชิกรวมในประเทศกว่า 65,000 คน เนื่องจากการขยายสาขาใหม่และเพิ่มผลิตภัณฑ์-บริการ

โดย “ฟิตเนส เฟิรส์ท” มีรายได้หลักเป็นค่าบริการรายเดือนจากสมาชิกที่ทำสัญญาตั้งแต่ 1 - 24 เดือนโดยร้อยละ 90 ทำสัญญาแบบ 12เดือนและเสียค่าบริการรายเดือนเฉลี่ย 1,900 - 2,800 บาทตามประเภทบริการ ซึ่งรายได้ของ “ฟิตเนส เฟิรส์ท” ปี 2553 อยู่ที่ 1.4 พันล้านบาทโตขึ้นจาก 2552 5% และคาดว่าปี 2554 จะมีอัตราการเติบโต 7%

สำหรับสาขาใหม่ที่จะเปิดในช่วงไตรมาสที่ 2มีแผนที่จะเปิดสาขาที่ 19 บนพื้นที่ของเซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น บนพื้นที่กว่า 1,700 ตารางเมตร รองรับจำนวนสมาชิกได้สูงสุดกว่า 4,000 คน ส่วนสาขาที่ 20 จะเปิดช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา พระราม 9บนพื้นที่ขนาดกว่า 2,200 ตารางเมตร และสาขาที่ 21 ศูนย์การค้าเมกะบางนา ถนนบางนา-ตราด ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2555บนพื้นที่ขนาดกว่า 2,200 ตารางเมตร

ทั้งการเปิดสาขาใหม่และการเพิ่มผลิตภัณฑ์-บริการใหม่ คือ กลยุทธ์สำคัญที่ “ฟิตเนส เฟิรส์ท” ใช้เพิ่มพาตัวเองไปขึ้นแท่นอันดับ 1 ในตลาด

ขณะที่ “แคลิฟอร์เนีย ว้าว เอ็กซ์พีเรียนซ์” ซึ่งมีสมาชิกปัจจุบันอยู่ที่ 159,000 ราย มีการใช้บริการทุกวันประมาณ 20,000 คน/วัน ถือเป็นอันดับ 1 ของตลาด แต่เมื่อ2 ปีที่ผ่านมาต้องประสบกับชะตากรรมที่แย่ เพราะถูกผู้ถือหุ้น อย่างเมเจอร์ขายหุ้นบางส่วนทิ้ง เนื่องจากทนไม่ไหวกับภาพลักษณ์ของ “แคลิฟอร์เนีย” ที่ถูกสมาชิกต่อว่าจำนวนมากทำให้กิจการขาดทุนอย่างต่อเนื่อง

ปี 2553 “แคลิฟอร์เนีย” จึงได้ปรับรูปแบบการบริหารจากเดิมที่เน้นรายได้จากการเก็บค่าสมาชิกแบบรายเดือน 7% และค่ารักษาสมาชิก 93% ก็ปรับสัดส่วนรายได้จากค่าสมาชิกรายเดือนเพิ่มขึ้น 50% อีก 50% มาจากค่ารักษาสมาชิก และคาดว่าปี 2554 จะเพิ่มสัดส่วนรายได้สมาชิกรายเดือนเป็น 70% และอีก 30% จะมาจากค่ารักษาสมาชิก

ด้าน “ทรู ฟิตเนส” แม้จะถูกรั้งท้ายเป็นอันดับ 3เมื่อ 2 ปีก่อน “ทรู ฟิตเนส” จึงเปิดเกมรุกเพิ่มสมาชิกด้วยการเปิดสาขาใหม่ที่ ดิ เอสพละนาด รัตนาธิเบศน์ พร้อมกับส่งทีมงานไปตั้งโต๊ะรับสมัครสมาชิกที่คาร์ฟรู รัตนาธิเบศร์ โดยสนอเงื่อนไขการสมัคร สำหรับ 20 รายแรกที่สมัคร ด้วยการลดค่าแรกเข้า เพียง 800 บาท จากปรกติที่เก็บ 8,000 บาท เรียกได้ว่ากลยุทธ์ลดราคาทำให้คนไหลเข้าไปเป็นสมาชิกของ “ทรู ฟิตเนส” ไม่น้อย

ที่สำคัญภาพการตั้งโต๊ะรับสมาชิกของ “ทรู ฟิตเนส” มีให้เห็นกันอย่างต่อเนื่องตามหน้าสาขา หรือตามรถไฟฟ้า นับเป็นการตลาดเชิงรุกที่น่าจะดึงยอดขายของ “ทรู ฟิตเนส” ให้เพิ่มขึ้นได้ไม่มากก็น้อยเลยทีเดียว



อัพเดดล่าสุด 3/22/2011 3:27:04 PM โดย Chaotip Kleekhaew

หมายเหตุ เส้นแบ่งข่าว หมายถึง ข่าวถูกแบ่งเป็นหน้า ๆ
keyword :

Close   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us