|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
*แอลจีอัดโปรโมชั่นซื้อแอร์แถมมือถือ
*ส่วนอีเลคโทรลักซ์สั่งจัดพอร์ตสินค้าใหม่
*ด้านสตีเบลปลื้มยอดขายน้ำอุ่นโตเพิ่ม 30%
* อุตุฯ รับมีโอกาสเกิดความหนาวระลอกใหม่
Climate change หรือการเปลี่ยนแปลงใดๆ จากสภาพภูมิอากาศ อันเป็นผลทางตรง หรือทางอ้อมจากกิจกรรมของมนุษย์ ที่ทำให้องค์ประกอบของบรรยากาศเปลี่ยนแปลงไป นอกเหนือจากความผันแปรตามธรรมชาติตามปรกติ กำลังส่งผลอย่างรุนแรง ทั้ง แผ่นดินไหว,ไฟป่า, พายุไซโคลน ซึ่งเกิดขึ้นไปทั่วโลก ล่าสุดกับเหตุการณ์สึนามิที่ประเทศญี่ปุ่น
ขณะเมืองไทยก็เกิดเหตุประหลาด เมื่อมีฝนตกใหญ่ในช่วงที่ผ่านมา และอุณหภูมิก็ลดต่ำลงอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ทั้งที่ก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่วันอากาศยังร้อนระอุ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ
นี่คือ ภาวะโลกร้อนที่เริ่มเข้ามาใกล้ตัวคนไทยมากขึ้นทุกที...
แต่สำหรับเจ้าของธุรกิจและนักการตลาดหลายคน อาจจะต้องกุมขมับ โดยเฉพาะสินค้าที่มีช่วงพีคของยอดขายในช่วงฤดูร้อนอย่าง “เครื่องปรับอากาศ”
“สินเมธ อิ่มเอม” หัวหน้ากลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด บอกกับ “ผู้จัดการ 360 องศา รายสัปดาห์ ว่า จากสภาพอากาศแปรปรวนที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ตลาดรวมของเครื่องปรับอากาศในเมืองไทย จากเดิมคาดว่าจะมียอดขายสูงถึง 1.6 เครื่องในปี 54 อาจจะเติบโตแค่ 1.3 ล้านเครื่อง หรือลดลงกว่าเดิม 3 แสนเครื่องจากที่ประมาณการไว้
“ปีที่ผ่านมายอดขายตลาดรวมผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศไทยโตถึง 1.5 ล้านเครื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากปรากฏการณ์เอลนินโญ่ (ปริมาณน้ำน้อย แห้งแล้ง) แต่ปีนี้อากาศไม่ร้อนเท่าที่ควรเนื่องมาจากปรากฏการณ์ลานินญ่า (ปริมาณน้ำมาก ฝนตกมาก) ที่เกิดขึ้นมากในทวีปเอเชีย”
หัวหน้ากลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศ ชี้ว่า ปัจจัยลบสำหรับตลาดเครื่องปรับอากาศ ไม่เพียงแค่สภาพอากาศที่แปรปรวนเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึง ค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้กำลังซื้อโดยภาพรวมหดตัวลงไป ทำให้ยอดขายในเดือนมีนาคม ลดลง 10-15% แต่ทว่าแอลจีก็ยังรักษายอดขายเติบโตกว่าปีที่แล้วได้ 5% ซึ่งเป็นผลมาจากการแย่งแชร์จากคู่แข่งได้ ทำให้ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 22% จากเดิม 17%
สินเมธ เผยต่อว่า ท่ามกลางปัจจัยลบที่รุมเร้า ทำให้แอลจีต้องปรับกลยุทธ์พิเศษเพื่อกระตุ้นยอดขายมากขึ้น ซึ่งมีทั้งหมด 3 แนวทางด้วยกัน โดยแนวทางแรก คือ การจัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขาย ทั้งการยืดเวลาผ่อนชำระ 0% ออกไป บางโมเดลจากที่มีแคมเปญผ่อนชำระ 0% จาก 6 เดือนก็เพิ่มขึ้นเป็น 12 เดือน โดยเฉพาะรุ่น Inverter และบางช่องทางยังสนับสนุนผู้จัดจำหน่ายแถมรังคลอบท่อสายแอร์ ที่สำคัญยังได้รุกกิจกรรม ณ จุดขาย ด้วยการเพิ่มจำนวนจังหวัดในการจัดคาราวานโรดโชว์ จากเดิม 35 จังหวัด เพิ่มเป็น 50 จังหวัด ซึ่งจะมีโปรโมชั่นซื้อแอร์แถมโทรศัพท์มือถือแอลจี 1 เครื่อง รวมทั้งกิจกรรมเล่นเกมต่างๆ โดยจะจัดกิจกรรมลักษณะนี้ไปถึงสิ้นเดือน พ.ค.
แนวทางที่สองคือ เน้นการขายคุณภาพแทนปริมาณ โดยโฟกัสไปที่เครื่องปรับอากาศรุ่น Inverter V 4D มากขึ้น และแนวทางสุดท้าย ก็คือ จัดตั้งทีมขายเจาะไปตามโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างตามแนวรถไฟฟ้า คาดว่าจะสร้างสัดส่วนการขายจากกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นเป็น 20% จากเดิม 15% ทั้งนี้ สินเมธคาดว่า ยอดขายรวมทั้งปีจะเติบโตได้ 20% ซึ่งเป็นการปรับลดจากประมาณการยอดขายเดิมที่ตั้งไว้ช่วงต้นปี 30%
ด้าน “สุทธิ มโนกิจจรูญมั่น” ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีเลคโทรลักซ์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้อีเลคโทรลักซ์ได้ปรับนโยบายด้วยการวางพอร์ตสินค้าให้ครอบคลุมทุกเทศกาล
“สภาพอากาศที่แปรปรวน ทำให้หลายค่ายพลิกความคาดหมาย จากเดิมช่วงนี้เป็นหน้าขายแอร์ แต่สภาพอากาศไม่ได้ร้อนอย่างที่คิด กลับหนาวจัด ในแง่การตลาดจึงต้องประเมินสถานการณ์ตลอดเวลา ต่อไปการตลาดจะขายตามเทศกาลไม่ได้ แต่จะต้องขายได้ตลอดทั้งปี” สุทธิ กล่าว และว่า การวางพอร์ตสินค้าให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม ทั้งเครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องซักผ้า อบผ้า และเครื่องปรับอากาศ จะเป็นแนวทางที่ช่วยได้ระดับหนึ่ง ทำให้สามารถขายสินค้าได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าอากาศจะแปรปรวนยังไง
“การวางพอร์ตโฟลิโอสินค้าครอบคลุม เหมือนกับการมีสรรพาวุธในคลังพร้อม ไม่ว่าอากาศจะเป็นแบบไหนก็ไม่กระทบ อยู่ที่ว่าจะหยิบตัวไหนมาเล่น”
สุทธิ กล่าว และเสริมด้วยว่า นอกจากสภาพอากาศที่เอื้อต่อตลาดเครื่องทำน้ำอุ่นแล้ว ปัจจุบันการทำตลาดเครื่องทำน้ำอุ่นเองก็เริ่มเปลี่ยนไป เนื่องจากผู้บริโภคเริ่มมองว่าเครื่องทำน้ำอุ่น เป็นสินค้าที่มีความจำเป็นมากขึ้น อีกทั้งร้านค้ามองว่าเครื่องทำน้ำอุ่นเป็นสินค้าที่ไปกับแอร์ได้ ทำให้จากเดิมที่ขายได้ในช่วงเดียว คือฤดูหนาว ก็ขยายโอกาสในการขายนอกฤดูมากขึ้น
“ทุกวันนี้คนนอนในห้องปรับอากาศ พอตื่นขึ้นมาจะไปอาบน้ำ จึงทำให้นึกถึงเครื่องทำน้ำอุ่น” สุทธิ ย้ำถึงโอกาสครั้งใหม่ของเครื่องทำน้ำอุ่น ซึ่งปัจจุบันอีเลคโทรลักซ์มีสินค้าออกทำตลาด 2 รุ่น ได้แก่ รุ่นสแตนดาร์ด และพรีเมียม โดยจะใช้เป็นหัวหอกในการทำตลาดต่อเนื่องจนถึงปลายปีนี้
ส่วน “นพพล ผาสุกดี” ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท สตีเบล เอลทรอน เอเชีย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องทำน้ำอุ่น-น้ำร้อน สัญชาติเยอรมัน แบรนด์ “สตีเบล เอลทรอน” บอกว่า สภาพอากาศที่แปรปรวนในช่วงนี้ ทำให้เป็นโอกาสของตลาดเครื่องทำน้ำอุ่น และสตีเบลฯ มากขึ้น สะท้อนได้จากยอดขายในงานโฮมโปร 3 วัน เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา มีการเติบโตเพิ่มขึ้น 30% นอกจากนี้ หากเทียบยอดขายในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ. ปี 2554 กับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ยังพบว่ามียอดขายเติบโตขึ้น 15%
ต้นปีที่ผ่านมา สตีเบลฯ ได้มีการปรับโมเดลการขายใหม่ จากการจำหน่ายเฉพาะช่วงฤดูหนาว มาเป็นขายได้ทุกฤดูกาล เหตุจากสภาพอากาศที่หนาวนานขึ้นในช่วงปลายปีที่ผ่านมา และมองว่าผู้บริโภคไม่จำเป็นต้องซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นเฉพาะฤดูหนาวเท่านั้น ดังนั้นสภาพอากาศที่เปลี่ยนไปช่วงนี้จึงช่วยซัปพอร์ตโมเดลการขายใหม่ของสตีเบลฯ มากขึ้น
นพพล บอกว่า การทำตลาดของสตีเบลฯ หลังจากนี้ จะเดินเครื่องสร้างการรับรู้และความเข้าใจกับผู้บริโภคถึงวิธีการใช้เครื่องทำน้ำอุ่นได้ทุกฤดู เพื่อให้ผู้บริโภคปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้เครื่องทำน้ำอุ่น โดยเลือกจะใช้พนักงานขาย ณ จุดขาย เป็นช่องทางในการสื่อสารถึงผู้บริโภค ควบคู่กับการสื่อสารผ่านสื่อออนไลน์ ซึ่งจากแนวทางการปรับโมเดล พร้อมเดินหน้าให้ความรู้กับตลาด เชื่อว่าจะยังคงรักษาการเติบโต 10-15%
อย่างไรก็ดี นักวิชาการจากกรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า นับจากนี้จนถึงเดือนพฤษภาคม อุณหภูมิสูงสุดโดยเฉลี่ยจะต่ำกว่าค่าปรกติเล็กน้อย ขณะที่ปริมาณฝน สูงกว่าค่าปรกติเล็กน้อย โดยเฉพาะภาคกลางตอนบนและกรุงเทพฯ นั้นจะมีอุณหภูมิระหว่าง 33-35 องศาเซลเซียส โดยภาคเหนือและภาคใต้จะมีอุณหภูมิสูงสุดประมาณ 32-34 องศาเซลเซียส สำหรับภาคตะวันออกและตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิสูงสุดประมาณ 32-32.4 องศาเซลเซียส
เขายอมรับว่า ฤดูร้อนในปีนี้อากาศจะเย็น และมีฝนตกชุกกว่าปีที่แล้ว ที่มีอากาศร้อนมากกว่าค่าเฉลี่ย และปริมาณน้อยกว่าค่าเฉลี่ย ในตอนเช้า และตอนกลางคืน อากาศจะหนาวเย็น แต่ช่วงกลางวันอุณหภูมิสูงเหมือนฤดูร้อนตามปรกติ ทว่าจะมีบางวันที่เกิดพายุฝนอย่างรุนแรง หรือมีอุณหภูมิลดลงต่ำเหมือนกับฤดูหนาว
ทั้งหมดนี้มาจากมวลอากาศเย็นจากจีนที่เคลื่อนตัวลงมาพร้อมกับกระแสลมตะวันตกเคลื่อนผ่านบริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงเคลื่อนลงมาปกคลุม ซึ่งจะเกิดมาพร้อมๆ กันพอดี
ส่วนอากาศหนาวจะกลับมาอีกรอบหรือไม่นั้น เจ้าหน้าที่กรมอุตุฯ ยอมรับว่า มีโอกาสเป็นไปได้ที่จะเกิดความหนาวเย็นระลอกใหม่ รวมทั้งโอกาสที่จะเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง อย่างไรก็ตาม อยากให้ติดตามข่าวสารจากกรมอุตุนิยมวิทยาต่อไป เพราะการที่จะเกิดคลื่นความหนาวเย็นหรือพายุฝนนั้นจะต้องดูว่าศูนย์กลางของการเคลื่อนตัวที่เกิดขึ้นมีความรุนแรงเพียงใด
รศ.ดร.ธีรพันธ์ โล่ห์ทองคำ
5 กลยุทธ์รับมือ
Climate change
ภาวะอากาศแปรปรวนที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ส่งผลกระทบกับกลุ่มสินค้าที่ทำการตลาดตามฤดูกาล เพราะไม่มีใครรู้ฤดูกาลจะผันผวนต่อไปอีกขนาดไหน จะหยุด หรือเริ่มต้นใหม่อย่างไร
รศ.ดร.ธีรพันธ์ โล่ห์ทองคำ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ธรู เดอะไลน์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์การตลาด ได้ออกมาแนะนำถึงการปรับกลยุทธ์การตลาดเพื่อรับมือ Climate change ซึ่งมีด้วยกัน 5 แนวทาง
1.หันมาปรับแผนการตลาดให้ขายได้ทั้งปี ด้วยการ Educate กลุ่มเป้าหมายให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งความเชื่อและพฤติกรรมในการใช้สินค้าได้ทั้งปีแทนที่จะใช้ตามฤดูกาล อาทิ สินค้ากลุ่มโลชั่น จากเดิมเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวชุ่มชื่นสำหรับหน้าหนาว แต่ภายหลังก็สามารถ Educate ตลาดจนกลายเป็นครีมบำรุงที่ใช้ได้ทั้งปี
2.ออกนวัตกรรมใหม่ ทั้งสินค้าและบริการ เพื่อกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายเกิดความสนใจ อยากเปลี่ยนสินค้ามาทดแทนของเดิม อาทิ แอร์ จากเดิมที่เน้นความเย็นหรือประหยัดไฟอย่างเดียว ก็พัฒนามาเป็นแอร์ที่สามารถฟอกอากาศได้ภายในตัว
3.เน้นสินค้าเชิงคุณภาพมากกว่าปริมาณ อาทิ หันไปจับตลาดพรีเมียม โดยใช้สินค้าที่มีเทคโนโลยี หรือรูปลักษณ์ที่หรูหรา มีระดับ ซึ่งจะช่วยขยายตลาดออกไปให้กว้างขึ้น และยังเป็นทางเลือกใหม่ของความต้องการ
4.ใช้ช่องทางการขายหรือกระจายสินค้าใหม่ๆ อาทิ รุกเข้าไปยังตลาดออนไลน์ ด้วยการให้รายละเอียดข้อมูลของสินค้า ทั้งคุณภาพ ราคา การให้บริการอย่างครบถ้วน โดยที่กลุ่มเป้าหมายไม่ต้องเสียเวลาไปเลือกหาตามจุดขาย ซึ่งตอบรับกับวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่
5.ใช้วิธีแก้ปัญหาเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น การลด แลก แจก แถม หรือแคมเปญลุ้นโชค เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าหันมาซื้อผลิตภัณฑ์มากขึ้น
|
|
|
|
|