Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์6 เมษายน 2554
พีแอนด์จีเขย่าตลาดสกินแคร์ผู้ชาย ปั้น “โอเลย์ เมน” เข็น “ยิลเลตต์” ลุย             
 


   
search resources

พร็อคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (ประเทศไทย), บจก.
Cosmetics




พีแอนด์จีระเบิดศึกปีทองสกินแคร์ชาย จัดบอมบ์ลูกเบิ้มถล่มคู่แข่ง ด้วย 2 แบรนด์ยักษ์ “โอเลย์ เมน โซลูชั่น” หลังซุ่มวิจัยนาน 2 ปี และลองตลาดในจีนเป็นแห่งแรกของโลกก่อนลอนช์ทั่วอาเซียน โดยเมืองไทยวาง “สมาร์ท” เป็นพรีเซนเตอร์สื่อสารกับกลุ่มผู้ชายเมโทรเซ็กชวล ด้วยโกลบอล เมสเซจ “ท้าทายทุกความเป็นไปได้” วางตำแหน่งชน “ลอรีอัล เมน เอ็กซ์เพิร์ท” ขณะที่ “ยิลเลตต์ ซีรีส์” มีหน้าที่ประกบ “นีเวีย”, “การ์นิเย่ เมน” โดยส่ง “อ๋อม อรรคพันธ์” สื่อคอนเซ็ปต์ “สิ่งที่ดีสำหรับผู้ชาย” ดักหนุ่มๆ ที่มีไลฟ์สไตล์ลุยๆ และนี่คือการเปิดเกมยึดพื้นผิวหน้าผู้ชายอย่างเป็นทางการ ที่ครั้งนี้พีแอนด์จีวางก้าวแรกต้องติด Top 5 ภายใน 2 ปีนี้

การเปิดตัว “โอเลย์ เมน โซลูชั่น” และ “ยิลเลตต์ ซีรีส์” 2 แบรนด์ดังจากค่ายพีแอนด์จี กลายเป็นระเบิดลูกใหญ่ที่โยนเข้าสู่สมรภูมิสกินแคร์ชาย ที่ทำให้อุณหภูมิการแข่งขันในปีนี้ร้อนขึ้นอย่างรวดเร็ว ชนิดที่ผู้เล่นหน้าเดิมทั้งหลายต้องเร่งปรับตัว เพื่อตั้งรับกับสงครามเดือดของตลาดสกินแคร์ผู้ชายครั้งใหญ่...ที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้

แม้ตอนนี้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าสำหรับผู้ชายจะมีมูลค่าราว 820 ล้านบาท ซึ่งยังน้อยมากเมื่อเทียบกับตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าของผู้หญิงที่มีมูลค่า 7,380 ล้านบาท แต่เมื่อพิจารณากันที่ตัวเลขการเติบโตเมื่อปี 2553 จะเห็นว่าสกินแคร์ของผู้ชายขยายตัวถึง 36% มากกว่าของผู้หญิงที่เติบโตเพียง 4-5% ซึ่งเป็นเทรนด์ที่เกิดขึ้นชัดเจน จนตอนนี้สกินแคร์ผู้ชายมีสัดส่วน 10% ของตลาดสกินแคร์รวมมูลค่า 8,200 ล้านบาท ทั้งที่ 2-3 ปีก่อนมีสัดส่วนเพียง 5-6% เท่านั้น

“นอกจากตัวเลขการเติบโตที่ชี้เทรนด์และความพร้อมของตลาดแล้ว อีกปัจจัยที่ทำให้พีแอนด์จีเลือกโดดเข้าสู่สมรภูมิในช่วงเวลานี้ คือ เรามีความรู้และความเชี่ยวชาญของโอเลย์ที่มีตำแหน่งผู้นำตลาดสกินแคร์ผู้หญิงที่สามารถต่อยอดไปสู่ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชายได้ ขณะที่ยิลเลตต์ก็มีความแข็งแกร่งและชื่อเสียงในกลุ่มสินค้าผู้ชายมานาน” วรศิษย์ ตุรงค์สมบูรณ์ ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์พีแอนด์จี ประเทศไทย อธิบายกับ ผู้จัดการ 360 องศา รายสัปดาห์

สำหรับการเข้าสู่สนามรบของพีแอนด์จีในครั้งนี้ แน่นอนว่าย่อมยิ่งใหญ่สมศักดิ์ศรี ชนิดที่เชื่อว่าจะสร้างแรงสั่นสะเทือนถึงผู้เล่นทุกราย เพราะไม่ใช่แค่งบการทำตลาดในเมืองไทยที่ใช้เป็นหลักร้อยล้านครั้งแรก มากสุดนับตั้งแต่พีแอนด์จีทำตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชาย (Men Grooming) เท่านั้น เมื่อเข้าไปดูกองทัพที่มีการจัดมาแบบเต็มพอร์ต ประกอบด้วย โอเลย์ เมน โซลูชั่น และยิลเลตต์ ซีรีส์ ซึ่งมีการแบ่งหน้าที่แยกประกบคู่แข่งชัดเจน ก็ยิ่งทำให้มั่นใจว่า นับจากนี้การแข่งขันช่วงชิงพื้นที่ผิวหน้าของผู้ชายในบ้านเราจะร้อนระอุไปทุกตารางผิว

เริ่มกันที่ทัพแรก “โอเลย์ เมน โซลูชั่น” ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าสำหรับผู้ชาย ที่แตกไลน์มาจาก “โอเลย์” แบรนด์ที่เป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสำหรับผู้หญิงมานาน แม้จะเป็นน้องใหม่ในเวทีนี้ ทว่าการมีตำแหน่งผู้นำตลาดสกินแคร์สำหรับผู้หญิงของโอเลย์มาช่วยการันตี ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้เล่นรายอื่นไม่ควรประมาท แม้จะเก๋าหรือเจนสนามรบนี้มานานก็ตาม เพราะผลการสำรวจพบว่า ผู้ชายกว่า 40% รับฟังความคิดเห็นจากผู้หญิงใกล้ตัวเกี่ยวกับการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลผิว จึงไม่แปลกถ้าวันนี้พีแอนด์จีจะใช้ลูกค้าโอเลย์ที่เป็นผู้หญิงช่วยบอกต่อเพื่อนหรือคนใกล้ตัวที่เป็นผู้ชายให้หันมาทดลองใช้โอเลย์ เมน โซลูชั่น และด้วยการวางราคา 399 บาท ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับ โอเลย์ โททัล เอฟเฟกส์ ก็ยิ่งง่ายต่อการสื่อสารมากขึ้นด้วย ทั้งนี้ วรศิษย์ บอกว่า ก็เป็นไปได้ที่เราจะใช้กลยุทธ์การบอกต่อจากเพื่อนถึงเพื่อน โดยผู้หญิงจะทำหน้าที่ส่งสารให้กับผู้ชาย จากเดิมที่เป็นผู้หญิงส่งถึงผู้หญิง

อย่างไรก็ตาม แม้โอเลย์ เมน โซลูชั่น จะมีการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อผิวสำหรับผู้ชายโดยเฉพาะ แต่ด้วยภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ถูกฝังมานานว่าเป็นสินค้าสำหรับผู้หญิง จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้ผู้บริโภคเชื่อว่า โอเลย์ เมนฯ จะสามารถตอบโจทย์ลูกค้าผู้ชายได้ดีด้วย ดังนั้น หากสังเกตตั้งแต่ปีที่ผ่านมา จะเห็นว่าโอเลย์ค่อยๆ พยายามสร้างการรับรู้ใหม่ให้กับผู้บริโภค ด้วยการเริ่มเปลี่ยน messageเป็น “ท้าทายทุกความเป็นไปได้” ซึ่งเป็นโกลบอลเมสเซจจากพีแอนด์จีในอเมริกา ที่จะใช้ร่วมกันทั้งโอเลย์และโอเลย์ เมน โซลูชั่น เพื่อให้ดูเป็นสินค้ายูนิเซ็กซ์มากขึ้น จากเดิมที่ใช้ “ให้คุณรักผิวมากกว่าที่เคยรัก” ซึ่งจะมีความเป็นผู้หญิงมากกว่า

ทั้งนี้ ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์พีแอนด์จี เล่าว่า การสร้างการรับรู้ใหม่ดังกล่าว พีแอนด์จีเตรียมมาเพื่อโปรเจกต์นี้โดยเฉพาะ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้เวลาพัฒนานานถึง 2 ปี โดยจีนเป็นประเทศที่คิดค้นโอเลย์ เมน โซลูชั่น และเริ่มวางจำหน่ายเป็นแห่งแรกมานานกว่า 1 ปี ก่อนจะเปิดตัวพร้อมกันทุกประเทศในอาเซียน รวมทั้งประเทศไทยเมื่อกลางเดือนมีนาคมนี้ จากนั้นจึงจะทยอยเปิดตัวในอเมริกาและยุโรปให้ครบภายในสิ้นปีนี้

“เราเลือกเปิดตัวโอเลย์ เมน โซลูชั่นในแถบเอเชียก่อน เพราะผู้ชายเอเชียมีความแอกทีฟและสนใจเรื่องการบำรุงผิวหน้ามากกว่าผู้ชายในยุโรปและอเมริกา”

ไม่เพียงแต่รูปแบบการสื่อสารที่ถูกเตรียมพร้อมไว้เท่านั้น จะเห็นว่าตัวผลิตภัณฑ์ทางพีแอนด์จีก็ทำการบ้านมาเป็นอย่างดี ดูได้จากการแบ่งสินค้า 6 เอสเคยู ออกเป็น 2 กลุ่ม โดยจัดแบ่งตามลักษณะผิวของผู้ชาย ดังนี้ 1.กลุ่มรีเฟรชชิ่ง เอนเนอร์จี้ (สำหรับผิวมัน) ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด และเจลบำรุงผิว 2.กลุ่มมัลติโซลูชั่น (สำหรับผิวธรรมดา-ผิวแห้ง) ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด,โทนเนอร์, ครีมบำรุงผิว และอายเจล เพื่อตอบโจทย์ผู้ชายสำอางที่ใส่ใจเรื่องการดูแลผิวหน้าเป็นพิเศษ ที่พบว่ามีการใช้สินค้าดูแลผิวหน้าประมาณ 3-4 ขั้นตอน และใช้เวลาในการดูแลผิวหน้าประมาณ 30 นาทีต่อวัน

จากลักษณะของกลุ่มเป้าหมาย หากเทียบกับคู่แข่ง ชัดเจนว่า โอเลย์ เมนฯ ถูกส่งเข้ามาให้ชนกับ “ลอรีอัล เมน เอ็กซ์เพิร์ท” เบอร์ 2 ที่ครองส่วนแบ่ง 23% รองจากผู้นำ “นีเวีย” 55% จากตลาดสกินแคร์ชายมูลค่า 820 ล้านบาท เพราะไม่ใช่แค่ราคาที่จัดอยู่ในระดับใกล้เคียงกันเท่านั้น โดยโอเลย์ เมนฯ มีราคาประมาณ 399 บาท จะเห็นว่าที่มาที่ไปของ 2 แบรนด์นี้ก็ดูใกล้เคียงกันด้วย โดยลอรีอัล เมน เอ็กเพิร์ท ก็เป็นสินค้าสำหรับผู้ชายที่มาจากแบรนด์หลัก “ลอรีอัล” สินค้าสำหรับผู้หญิงเช่นเดียวกัน โดยใช้ message เหมือนกันทั่วโลกว่า “คุณค่าที่คุณคู่ควร”

แม้ว่า โอเลย์ เมนฯ จะชูเรื่องนวัตกรรมขั้นสูงในการดูแลผิวที่มีการต่อยอดมาจากเทคโนโลยีของโอเลย์ เพื่อผิวสำหรับผู้ชายเป็นจุดขาย แต่กลยุทธ์สำคัญที่ไม่มีไม่ได้ในเวทีนี้ นั่นคือ การใช้พรีเซนเตอร์ เพราะนอกจากจะช่วยสะท้อนคาแรกเตอร์แบรนด์ได้ชัดเจนมากขึ้น พร้อมทำหน้าที่สื่อสารกับลูกค้าผู้ชายที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักแล้ว หนุ่มหล่อเหล่านี้ยังสามารถช่วยกระชากความสนใจจากคุณผู้หญิงให้หันมามอง และเพิ่มโอกาสการตัดสินใจซื้อไปให้ผู้ชายใกล้ตัวได้ทดลองใช้ด้วย ซึ่งครั้งนี้ โอเลย์ เมนฯ เลือกพระเอก “สมาร์ท-กฤษฎา พรเวโรจน์” มาเป็นพรีเซนเตอร์ชนกับหนุ่มหล่อขั้นเทพ โดม-ปกรณ์ ลัม ของลอรีอัล เมน เอ็กเพิร์ท ก็ต้องดูว่าเสน่ห์ของหนุ่มสมาร์ทจะจุดพลุให้โอเลย์ เมนฯได้แค่ไหน เพราะงานนี้พีแอนด์จีหวังว่าปีแรก โอเลย์ เมนฯ จะทำยอดขายเป็น 10% ของรายได้โอเลย์ทั้งหมด

สำหรับกองทัพ 2 ที่พีแอนด์จีเตรียมไว้ ตกเป็นหน้าที่ของแบรนด์ “ยิลเลตต์” ซึ่งครั้งนี้ขยายแนวรบมาสู่กลุ่มสกินแคร์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “สิ่งที่ดีสำหรับผู้ชาย” จากเดิมที่ผู้บริโภคบ้านเราจะเคยชินกับผลิตภัณฑ์กลุ่มโกนหนวดเป็นหลัก ทั้งที่ยิลเลตต์มีสินค้าหมวดสกินแคร์จำหน่ายในต่างประเทศมากว่า 2-3 ปีแล้ว ซึ่งจากคาแรกเตอร์ของยิลเลตต์ที่ดูเป็นผู้ชายลุยๆ กระฉับกระเฉง และต้องการบำรุงผิวโดยไม่ยุ่งยากมากนัก ทำให้แบรนด์นี้ตีโจทย์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ออกมา 2 ประเภท คือ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ที่มีให้เลือกแบบโฟมกับแบบสครับ และผลิตภัณฑ์บำรุง 3 แบบ ตามสภาพผิว คือ ครีมบำรุง (ผิวธรรมดา-ผิวแห้ง), โลชั่น (ผิวมัน) และครีมบำรุงมีเอสพีเอฟ 15 จะเห็นว่าเป็นการตอบโจทย์แบบ 2 ขั้นตอน ซึ่งตรงกับผู้ชายส่วนใหญ่ทั่วไปที่มีการดูแลผิวหน้าเพียง 2-3 ขั้นตอน และจะใช้เวลาในการดูแลผิวหน้าไม่มากเฉลี่ย 15 นาทีต่อวัน

ด้วยคาแรกเตอร์และราคาของยิลเลตต์ที่เริ่มตั้งแต่ 67-249 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ถูกกว่าโอเลย์ เมน โซลูชั่น ราว 30% ยิลเลตต์จึงถูกวางตำแหน่งให้จับกลุ่มลูกค้าแมส เพื่อชนกับผู้นำ “นีเวีย” ที่เน้นคอนเซ็ปต์ “ผู้นำตัวจริง” และ “การ์นิเย่ เมน” ที่ชูเรื่อง “การเปลี่ยนแปลงที่วัดผลได้” ดังนั้น การทำตลาดของยิลเลตต์ นอกเหนือจากการเปิดตัว อ๋อม อรรคพันธ์ เป็นพรีเซนเตอร์ประชันกับผู้นำนีเวียที่เลือกใช้คนดังมาเป็นพรีเซนเตอร์มากกว่า 1 คน เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน เช่น น้องกาย-นวพล ลำพูน เจาะกลุ่มวัยรุ่น, สงกรานต์ เตชะณรงค์ เจาะกลุ่มคนทำงาน และยังต้องชนกับ อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม ของการ์นิเย่แล้ว ขณะเดียวกัน ยิลเลตต์ต้องเน้นสื่อสารกับผู้บริโภคผ่านช่องทางอื่นเช่นเดียวกับแบรนด์โอเลย์ เมนฯ โดยเฉพาะการใช้สื่อออนไลน์ ที่จะมีทั้งการจัดแคมเปญ การให้ความรู้และข้อมูลกับผู้บริโภคอย่างถูกต้องและทั่วถึง

และนี่คือ การเปิดเกมบุกตลาดสกินแคร์ชายของพีแอนด์จี ที่ครั้งนี้วางป้าหมายแรกเข็น 1 ใน 2 แบรนด์ ติดท็อป 5 ของสกินแคร์ผู้ชายภายในเวลา 2 ปี ก่อนจะขยับไปชิงเก้าอี้แชมป์ต่อไป แต่ที่น่าสนใจกว่านั้น ก็คือ ยักษ์ความงามอย่าง “พอนด์ส” เมื่อเห็น “โอเลย์” เข้าสู่สมรภูมินี้ไปแล้ว จะอดใจไม่โดดตามลงมาได้หรือไม่ ต้องติดตาม   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us