Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์6 เมษายน 2554
การตลาด360 องศา ค่ายอาร์สยาม สูตรสร้างรายได้เบอร์1ลูกทุ่งร่วมสมัย             
 


   
search resources

Musics
อาร์สยาม, บจก.




ค่าย“อาร์สยาม” เครืออาร์เอส กับ กลยุทธ์ “วันสต๊อป เซอร์วิส มิวสิคมาร์เก็ตติ้ง” (One Stop Service Music Marketing) ที่สามารถตอบโจทย์การตลาดทั้งเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดและมัดใจฐานคนฟังเก่าให้แน่นแฟ้นพร้อมขยายฐานคนฟังสู่กลุ่มใหม่ด้วยแนวเพลงลูกทุ่งร่วมสมัยแห่งยุค

หลังจากเดินเกมรุกตลาดกวาดฐานคนฟังเพลงลูกทุ่งแนวสมัยใหม่นานนับปีอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดปีที่ผ่านค่ายอาร์สยามในเครืออาร์เอสได้ก้าวขึ้นแท่นเบอร์ 1 ครองส่วนแบ่งตลาดเพลงลูกทุ่งรวมอยู่ที่ 40 % จากปัจจุบันจากตลาดเพลงลูกทุ่งทั่วประเทศ คาดมีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 1,500 ล้านบาท

ความสำเร็จครั้งนี้ หากสแกนโมเดลธุรกิจที่อาร์สยามใช้ในการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดมาจาก ประการแรก- การปรับตัวให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคแบบทันยุคทันสมัยหรือที่เราเรียกว่า ลูกทุ่งร่วมสมัย จนสามารถหาจุดเด่นจุดขายที่ครองใจคนฟังได้มากที่สุด

“ จุดแข็งของอาร์สยาม คือ การปรับตัวอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ทันกับกระแสและเหตุการณ์ที่เปลี่ยนไปตลอดเวลา ทำเพลงให้คนกลุ่มใหม่ๆ แนวใหม่ หรือเพลงลูกทุ่งร่วมสมัยที่สามารถเข้าถึงกลุ่มคนทุกเพศ ทุกวัย ทุกระดับอาชีพ ครบทุกเซ็กเม้นต์ครอบคลุมความต้องการของคนฟังทั่วทั้งประเทศ ซึ่งปัจจุบันตลาดเพลงลูกทุ่งทั้งภาคใต้ ภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง มีศิลปินที่มีคุณภาพ มีความสามารถและมีเพลงที่โดนใจคนฟัง ซึ่งทำให้อาร์สยามเป็นค่ายเพลงลูกทุ่งอันดับ 1 ที่ครองใจคนฟังทั่วประเทศ "รองกรรมการผู้อำนายการดูแลงานเพลงลูกทุ่ง และธุรกิจเพลง และกรรมการผู้จัดการค่ายเพลงอาร์ สยาม บริษัท อาร์เอส จำกัด(มหาชน) ศุภชัย นิลวรรณบอก

ประการที่สอง-กลยุทธ์ One Stop Service Music Marketing มุ่งมองหาพันธมิตรที่มีลูกค้าเป็นกลุ่มเป้าหมายเดียวกันร่วมทำตลาด เพื่อลดความเสี่ยงและต้นทุน

" เราเน้นบริหารรายได้แบบ 360 องศา โดยอาศัยจุดแข็งด้านสื่อ และศิลปินที่มีอยู่ สร้างความพอใจให้ลูกค้าในรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น อาทิ การเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้า , การจัดกิจกรรมโรดโชว์ต่างๆ การจัดคอนเสิร์ต หรือการผูกบุคลิกของศิลปินเข้าไปกับตัวสินค้า หรือการ Tie-in สินค้าเข้าในมิวสิควีดีโอ เป็นต้น ถือเป็นกลยุทธ์ช่วยบริหารความเสี่ยงและลดต้นทุนได้เป็นอย่างดี"

ทั้งนี้ ทำให้สัดส่วยรายได้ของบริษัท มาจากกลุ่มต่างจังหวัด 50% แลกรุงเทพฯ 50% ซึ่งอดีตรายได้จากยอดขายแผ่นซีดีและวีซีดี( Physical) เมื่อเทียบกับดิจิตอล คิดเป็น 80 : 20% แต่ด้วยการเข้ามาเทคโนโลยีและไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของผู้ฟังทำให้ปัจจุบันอาร์สยามมียอดรายได้เปลี่ยนไปจากเดิมคือรายได้ยอดขายแผ่นซีดีและวีซีดี ( Physical) เมื่อเทียบกับดิจิตอล มีสัดส่วนประมาณ 45 : 55 %

“ การเข้ามาของเทคโนโลยีนับ เป็นโอกาสที่ดีในปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับเทคโนโลยี และยังส่งผลดีช่วยลดต้นทุนและสามารถควบคุมต้นทุนได้ดี ซึ่งดูจากรายได้จากการดาวน์โหลดในแคมเปญ *339 ซุปเปอร์เหมา โหลดลงคอมก็ได้โหลดใส่มือถือก็ดี” อาร์สยามมีรายได้คิดเป็น 35% เลยทีเดียว นอกจากเทคโนโลยียังเป็นตัวกระจายผลงานของอาร์สยามไปยังกลุ่มคนฟังได้หลากหลายกลุ่มและตรงเป้าหมายมากขึ้นแล้วยังส่งผลให้ยอดการดาวน์โหลดเพลงพุ่งขึ้นตามความนิยมของศิลปิน อันจะเป็นการต่อยอดธุรกิจในสายงานดิจิตอล ได้อีกช่องทางหนึ่งอีกด้วย”

ดังนั้น เพื่อให้เป้าหมายรายได้ที่บริษัทกำหนดไว้ในปีนี้ 640 ล้านบาท เติบโตจากปีที่แล้ว 20% บรรลุความสำเร็จ อาร์สยาม จากการบริหารจัดการตามกลยุทธ์ “วันสต๊อป เซอร์วิส มิวสิคมาร์เก็ตติ้ง” ที่เรามีความแข็งแกร่งและมีคอนเท้นต์ที่สมบูรณ์ ซึ่งรายได้หลักจะมาจากยอดขายแผ่นซีดี , วีซีดี , ดีวีดี และ MP3 ( Physical) ( 23 % ) ธุรกิจดิจิตอล (30% ) กิจกรรมทางการตลาด (9 % ) ขายสื่อโฆษณา (โทรทัศน์ดาวเทียมช่อง สบายดี) (26% ) ค่าลิขสิทธิ์ประมาณ (7% ) และรายได้จากงานโชว์ศิลปิน ( 5% )

นอกจากนี้ ยังมีแผนโฟกัสทำเพลง เน้นสะท้อนวิถีชีวิตของบุคคลในทุกระดับอาชีพ ทั้งคนกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดออกมาในรูปเสียงเพลง รวมทั้งเลือกสรร และผลักดันศิลปินหน้าใหม่ที่มีความสามารถออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกัลกลยุทธ์ One Stop Service Music Marketing ที่มองหาพันธมิตรที่มีลูกค้าเป็นกลุ่มเป้าหมายเดียวกันร่วมทำตลาดดังเช่นที่ได้สร้างความสำเร็จมาแล้วต่อไป 640 ล้านบาท เติบโตจากปีที่แล้ว 20%

บอสใหญ่อาร์สยาม ยังให้มุมมอง ด้านภาพรวมของตลาดเพลงลูกทุ่งในปัจจุบันว่า มีการขยายตลาดเพิ่มขึ้นมากจากแนวเพลงที่หลากหลายขึ้น เพื่อตอบโจทย์คนฟังในทุกเซ็กเม้นต์ทั่วประเทศ ทำให้เกิดลูกทุ่งแนวใหม่ๆ ทั้งลูกทุ่งสไตล์ป๊อป ลูกทุ่งเกาหลี ลูกทุ่งร่วมสมัย บวกกับเข้ามาของเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เป็นตัวผลักดันให้ต้องปรับตัว

“อาร์สยาม ไม่ได้เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง แต่ต้องเปิดใจ โดยจะสังเกตได้ว่ายุคสมัยและคนฟังเพลงที่เปลี่ยนไป จะเป็นตัวกำหนดแนวเพลงให้ตลาดในปัจจุบัน ที่ผ่านมาถือได้ว่าค่อนข้างประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก จะเห็นได้จากรายได้ของปีที่ผ่านมาเติบโตกว่า 45 % และมีกำไรสุทธิเติบโตกว่า 120 % จากปีก่อนหน้านี้ ถือได้ว่าเป็นปีที่ อาร์สยาม มีกำไรสูงสุดตั้งแต่ดำเนินการมา” ศุภชัย กล่าวทิ้งท้าย   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us