|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ไทยเบฟฯ ทุ่ม 50 ล้าน จัดเรียลิตี้โชว์ หนุนคนไทยพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ หวังยกระดับภาพลักษณ์แบรนด์เครื่องดื่มช้างสู่อินเตอร์ จากการปีนเขา
ฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ มาร์เก็ตติ้ง ผู้ทำตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และปราศจากแอลกอฮอล์ตราช้าง เปิดเผยว่า ได้เตรียมจัดกิจกรรมการตลาดควบคู่ไปกับการสร้างตราผลิตภัณฑ์ช้าง ให้มีความเป็นสากล (อินเตอร์เนชั่นแนลแบรนด์) มากขึ้น ล่าสุด บริษัทใช้งบกว่า 50 ล้านบาท ร่วมกับพันธมิตร สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 จัดโครงการ “ไทย เอเวอเรสต์ 2011 ไลฟ์ ยัวร์ ดรีม” คิดใหญ่...กล้าใช้ชีวิต
ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ตราช้างเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลัก รัฐพล ทรัพย์มนู คนไทยที่เตรียมพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ พร้อมสนับสนุนด้านเวลาในการออกอากาศของสกู๊ป 30 ตอน ทางช่อง 5 หลังข่าว รวมทั้งช่องไทย โกลบอล เน็ตเวิร์ค เพื่อเผยแพร่ทั่วโลกเป็นระยะเวลา 1 เดือน นับแต่ปฏิบัติภารกิจ เริ่มเดือน พ.ค. และสิ้นสุดเดือน พ.ค.นี้
“บริษัทเข้าไปเป็นผู้สนับสนุนเครื่องแต่งกายและอุปกรณ์เสริม เครื่องมือต่างๆ ที่ใช้ประกอบการเดินทางและปีนเขาเอเวอเรสต์ อาทิ เสื้อกันหนาว แจ็กเกต ฯลฯ ที่จะมีตราผลิตภัณฑ์ช้างซึ่งเป็นคอร์ปอเรตแบรนด์ติดไปด้วยเพื่อสนับสนุนให้คุณรัฐพล ปฏิบัติภารกิจได้สำเร็จถึงจุดสูงสุดของยอดเขาเอเวอเรสต์ ซึ่งมีความแตกต่างไปจากภารกิจนอร์ธโพลของคู่แข่ง” ฐาปน กล่าว
จากแนวทางดังกล่าวสอดรับกับแผนการทำตลาดในปีนี้ ที่บริษัทมุ่งขยายการทำตลาดในต่างประเทศมากขึ้น จากปัจจุบันผลิตภัณฑ์ตราช้าง และกลุ่มสุราทำตลาดใน 24 ประเทศทั่วโลก
เขาระบุต่อว่า บริษัทได้วางยุทธศาสตร์นำผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เบียร์ช้าง และกลุ่มสุรา วิสกี้แบรนด์ต่างๆ รวมทั้งกลุ่มเครื่องดื่มปราศจากแอลกอฮอล์ อาทิ ชาเขียวพร้อมดื่มโออิชิ ขยายตลาดในต่างประเทศมากขึ้นนับจากนี้ หลังบริษัทเปิดตลาดในต่างประเทศอย่างจริงจังในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา หลังจากที่ผลิตภัณฑ์เบียร์ช้างอยู่ในตลาดไทยมานาน 15 ปี
ปัจจุบันได้จัดตั้งสำนักงานเพื่อดูแลตลาดต่างประเทศ ในเบื้องต้น 7 แห่ง ที่เป็นตลาดหลัก คือ สหรัฐอเมริกา 2 แห่ง, อังกฤษ/สกอตแลนด์, ฮ่องกง, มาเลเซีย, สิงคโปร์ และกัมพูชา ปัจจุบันตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งในและต่างประเทศ มีการแข่งขันดีมาก (เฮลตี้ คอมเพตทิชั่น) ทั้งจากผู้ประกอบการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบรนด์ไทย ที่รุกตลาดต่างประเทศ เช่น กรุงลอนดอน ในปีที่ผ่านมามากขึ้น และสร้างการรับรู้ตราผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มแบรนด์ไทยให้กับชาวต่างชาติได้ เป็นต้น
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมเบียร์ไทยภาพรวมในปี 52 ได้ปรับจากการลดสต๊อกสินค้า (ดี-สต๊อกกิ้ง) ไปสู่การพัฒนาสินค้าสู่ตลาดที่มีคุณภาพ สดใหม่ ส่งผลให้ภาพรวมอุตฯ ดังกล่าวถดถอย ขณะที่ปี 53 ผลิตภัณฑ์ช้างได้กลับมาแข็งแรงในตลาดทั้งจากยอดขายและส่วนแบ่งตลาด จากการปรับกระบวนการต่างๆ ทำให้ในปี 54 นี้ บริษัทได้วางแผนเชิงรุกในตลาดต่างประเทศมากขึ้น หลังพบว่าในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา บริษัทมีอัตราการเติบโตยอดขายสินค้าในต่างประเทศสูงมากกว่าหลายร้อยเปอร์เซ็นต์ จากฐานรายได้ที่ยังเล็กอยู่ เทียบกับยอดขายในประเทศ
|
|
|
|
|