ในการจัดอันดับทอปเท็นของศาลอาญานั้น คดีเช็คแชมป์เก่าปี 2526 ยังคงโลดแล่นนำลิ่วมาในปี 2527
อีกปีหนึ่ง แม้ว่าคดีเกิดใหม่ที่เพิ่มขึ้นจากปี 2526 จะมีถึง 13,295 คดี
แต่คดีเช็คก็ยังเอาไปครองถึง 13,238 คดี ทิ้งส่วนที่หลงเหลืออีก 57 คดี เป็นจิปาถะคดีของศาลอาญา
ในจำนวนคดีที่เสร็จสิ้นไปนั้น (29,946 คดี) เป็นคดี (เช็ค) เสร็จชั่วคราวที่ประชาชนเป็นโจทก์ฟ้องและศาลไต่สวนมีมูลความผิด แต่จำเลยหลบหนี ศาลออกหมายจับจำเลย
และจำหน่ายคดีชั่วคราวไว้มีจำนวน 15,372 คดี หรือร้อยละ 51.33 ของคดีที่เสร็จสิ้นทั้งหมด
ซึ่งคดีที่เสร็จสิ้นชั่วคราวเหล่านี้ ถ้าติดตามจับกุมจำเลยมาได้เมื่อใด ศาลจะต้องดำเนินกาพิจารณาต่อไป
สำหรับในปี 2527 มีคดีเช็คเกิดขึ้นถึง 22,210 คดี คิดเป็นร้อยละ 69.40
ของคดีที่เกิดใหม่ในรอบปี ฉะนั้นคดีคงค้างของปีเก่าบวกคดีของปีใหม่ ผลลัพธ์ออกมาเป็นอย่างไรก็ฝากไปคิดด้วยแล้วกัน
แต่ที่นำตัวเลขสถิติทั้งหลายมาลง ณ ที่นี้ เพื่อต้องการให้เห็นสภาพเศรษฐกิจของสังคมไทยเราทุกวันนี้ว่าเป็นอย่างไร
และเพื่อความชัดเจนยิ่งขึ้นจึงได้นำสถิติการรวบรวมคดีเช็คเด้งของศาลทั่วประเทศนับตั้งแต่ปี
2523 จนถึงเดือนตุลาคม 2527 มาให้ท่านได้พิจารณาดู
จากปี 2523 ถึง 2524 คดีเช็คลดลง 248 ราย
จากปี 2524 ถึง 2525 คดีเช็คเพิ่มขึ้น 8,589 ราย
จากปี 2525 ถึง 2526 คดีเช็คเพิ่มขึ้น 2,906 ราย
จากปี 2526 ถึงตุลาคม 2527 คดีเช็คเพิ่มขึ้น 31,380 ราย
นับแต่ปี 2524 เป็นต้นมา คดีเช็คได้เพิ่มขึ้นทุกๆ ปี จวบจนกระทั่งในปี
2527 ตัวเลขได้เพิ่มสูงขึ้นจนน่ากลัวทั้งที่ยังไม่รวมถึงเดือน พ.ย. และ ธ.ค.
2527 ซึ่งมีการปรับค่าเงินบาทตามที่เห็นเป็นข่าวกัน แต่ตัวเลขที่ได้มาถึงเดือนตุลาคม
2527 ก็ทำให้มองเห็นเศรษฐกิจไทยในรอบปีที่ผ่านมา นับแต่มาตรการสินเชื่อ 18%
ที่ทำให้เกิดภาวะเงินตึงตัว การเงินของประชาชนไหลออกนอกระบบสู่มือแม่ชม้อย
, แม่นกแก้วและแม่อะไรต่อแม่อะไรอีกมากมาย นับว่าปี 2527 เราได้เข้าสู่ยุควิกฤตการณ์ทางการเงินที่รุนแรงเข้าแล้ว
แม้ว่า "เช็ค" จะเป็นเพียงกระดาษสี่เหลี่ยมจัตุรัสบางๆ แต่มันก็สามารถนำมาเป็นเครื่องชี้ถึงเศรษฐกิจในปีนั้นๆ
ได้ดีว่ายามใดที่มันสะพัดติดสปริงขึ้นมา สถานการณ์ในบ้านนั้นเมืองนั้นเป็นอย่างใด
ประชาชนต้องสวมวิญญาณ "ขวานฟ้าหน้าดำ" เพื่อสู้ศึกเศรษฐกิจให้อยู่รอด
ดังนั้นอัตราการเพิ่มขึ้นของคดีเช็คดีเช็คเด้งในปี 2527 ก็พอจะทำให้มองเห็นเหตุการณ์ที่จะเกิดตามมาในปี
2528 ได้ดียิ่งขึ้น ส่วนจะเกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินระลอก 2 หรือไม่ คงต้องติดตามดูกันต่อไป