|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ปี 2554 ถือเป็นปีที่ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้ามีการเคลื่อนไหวค่อนข้างมาก ทั้งแบรนด์จีน เกาหลี และญี่ปุ่น โหมโรงกันตั้งแต่ต้นปี ด้วยการนำเสนอนวัตกรรมสินค้าทั้งเทคโนโลยีอัจฉริยะ สุขภาพ และประหยัดไฟลงสู่ตลาด สำหรับแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้า “แอลจี” ก็ไม่น้อยหน้า แถมยังเดินเครื่องสร้างความชื่นชอบแบรนด์ต่อเนื่อง และกำลังโหมหนักขึ้น เพื่อพิชิตเป้าหมายสู่การสร้างความภักดีต่อแบรนด์แอลจีในใจลูกค้า
ปีนี้เป็นปีที่แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกค่ายต่างต้องการปักธงชัยสู่การเป็นเบอร์หนึ่งในทุกตลาด แอลจีก็เป็นแบรนด์หนึ่งที่วางเป้าหมายจะเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเมืองไทยเช่นกัน ซึ่งตลอดปี 2553 ที่ผ่านมา จะเห็นว่า แอลจีมีการขับเคลื่อนหลายสิ่งหลายอย่าง ทั้งในแง่ของการเข็นนวัตกรรมใหม่สู่ตลาด เรื่อยไปจนถึงการทำตลาดเชิงรุก ซึ่งต้องยอมรับว่า แอลจีประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง
ดังจะเห็นได้จากตัวเลขส่วนแบ่งการตลาดในตลาดพลาสม่าทีวี, โฮมเธียเตอร์ และเครื่องซักผ้า ที่แอลจีเป็นครองความผู้นำตลาดมาอย่างยาวนาน
เพราะฉะนั้น ก้าวย่างต่อไป แอลจีจึงหมายมั่นที่จะขึ้นเป็นที่ 1 ในตลาดสมาร์ททีวี เครื่องปรับอากาศ และตู้เย็นไซด์บายไซด์ให้ได้เช่นกัน
ชิน ฮัก (เจฟ) แช กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด บอกว่า กลยุทธ์ที่จะใช้เป็นตัวขับเคลื่อนของแอลจีสู่เป้าหมายนับจากนี้ จะประกอบด้วย 4 กลยุทธ์หลัก เริ่มตั้งแต่ตัวผลิตภัณฑ์ ซึ่งแน่นอนว่า ไม่ว่าสินค้าจะถูกพัฒนาหรือออกแบบมาในรูปแบบใดก็ตาม แต่สิ่งสำคัญก็คือ สินค้าต้องตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทุกวัย
ดังนั้น ปีนี้แอลจีจึงให้ความสำคัญกับการค้นคว้าวิจัยความต้องการของผู้บริโภคอย่างมาก เพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ตลาด ซึ่งจากการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันพบว่า ผู้บริโภคให้ความสนใจในเรื่องสุขภาพ ห่วงใยต่อสิ่งแวดล้อม และประหยัดพลังงาน รวมถึงตอบสนองต่อสื่อออนไลน์มากขึ้น
เพราะฉะนั้น นวัตกรรมสินค้าใหม่ที่แอลจีจะเข็นออกสู่ตลาดในปีนี้ จึงเน้นต้องตอบโจทย์ใน 3 เรื่องดังกล่าว โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่ม Smart Innovation, กลุ่ม Healthy Living & Environmental Care, และกลุ่ม Convenient Lifestyle
ขณะที่การตลาดและสร้างแบรนด์อย่างแตกต่าง แม้จะเป็นสิ่งที่แอลจีขับเคลื่อนมาตลอด แต่ปีนี้แอลจียังคงให้น้ำหนักกับการสร้างแบรนด์มากขึ้น เพื่อเพิ่มดีกรีจากการรับรู้ ไปสู่ความชื่นชอบในแบรนด์
“ไม่ใช่โจทย์ง่าย ต้องใช้เวลา แต่เชื่อว่าทำได้ และจะเติบโตควบคู่ไปกับส่วนแบ่งตลาด เพราะเมื่อผู้บริโภคใช้สินค้ามากขึ้น จะกลายมาเป็นชอบ และจากชอบจะพัฒนาสู่ความภักดีต่อแบรนด์”
ธันยเชษฐ์ เอกเวชวิท ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด บอก และว่า แนวทางการสร้างความชื่นชอบในแบรนด์ จะใช้ช่องทางออนไลน์เป็นเครื่องมือหลักผ่านแคมเปญให้ผู้บริโภคทดลองใช้ เพื่อให้เกิดพลังในการบอกต่อ
นอกจากนี้ อีกกลยุทธ์ที่แอลจีจะใช้ในการขยับตัวเองสู่เป้าหมาย ก็คือ การขยายโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ เพื่อสร้างการเติบโตเพิ่มขึ้น โดยแอลจีจะมีการนำเสนอ “Total Solutions” สู่ลูกค้ากลุ่มองค์กร ซึ่งประกอบด้วยระบบกล้องวงจรปิด, ระบบทีวีสำหรับโรงแรม, โซลูชั่น Digital Signage และเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ ซึ่งแอลจีเชื่อมั่นว่าการนำเสนอผลิตภัณฑ์อย่างครบวงจรนี้จะช่วยเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดของแอลจีในกลุ่มองค์กร
สำหรับกลยุทธ์สุดท้าย คือ การสร้างความเป็นเลิศด้านการจัดการ โดยแอลจีได้ลงทุนเพิ่มเติมอีก 300 ล้านบาทในสายการผลิตเครื่องซักผ้าฝาหน้า ซึ่งจะส่งผลให้สามารถเพิ่มกำลังการผลิตรวมได้ถึง 8.5 ล้านเครื่องต่อปี และยังเป็นการเสริมความแข็งแกร่งของแอลจี ประเทศไทย ในการเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการผลิตและส่งออกในภูมิภาคเอเชีย
ทั้งหมดนี้คือ กลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจแอลจีภายใต้การบริหารของเอ็มดีคนใหม่ ที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ เพื่อพิชิตเป้าหมายเบอร์ 1 ในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเมืองไทย
|
|
|
|
|