Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์21 มีนาคม 2554
“ลอรีอัล” วาง 3 ยุทธศาสตร์ เพิ่มฐาน 10 ล้านคนใน 5 ปี             
 


   
search resources

Cosmetics
ลอรีอัล (ประเทศไทย), บจก.




ลอรีอัลบุกหนักตลาดความงาม เปิดทีมผู้บริหารชุดใหม่ วาง 3 ยุทธศาสตร์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Faster-Wider-Better” พร้อมอัดงบ 4 เท่า ทุ่มใช้สื่อดิจิตอลสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย ตั้งเป้าสยายปีกเพิ่มฐานลูกค้าคนไทยอีก 10 ล้านคน และขยายการเติบโตมากกว่าตลาดอย่างน้อย 3 เท่า พร้อมครองส่วนแบ่งเพิ่มจาก 10 เป็น 15% ภายใน 5 ปีนับจากนี้

สมรภูมิผลิตภัณฑ์เพื่อความงามร้อนทะลักจุดเดือด เมื่อยักษ์ “ลอรีอัล” เปิดเกมรุกบุกทุกตารางพื้นที่ความงาม ล่าสุดประกาศ 3 แนวทาง ภายใต้คอนเซ็ปต์ Faster-Wider-Better หลังเปิดตัวผู้บริหารชุดใหม่อย่างเป็นทางการเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นทีมผู้บริหารชุดแรกที่มีคนไทยมากถึง 5 คน โดยมีเป้าหมายครั้งใหญ่นั่นคือ การขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นอีก 10 ล้านคน ภายในปี 2558 จากตอนนี้ที่ลอรีอัลในเมืองไทยมีฐานลูกค้าอยู่ราว 5 ล้านคน ซึ่งถือเป็น 1 ในนโยบายจากลอรีอัลในฝรั่งเศสที่มุ่งเพิ่มฐานลูกค้าทั่วโลกเพิ่มขึ้นอีก 1,000 ล้านคนด้วย โดยไทยถือเป็น 1 ใน 15 ประเทศที่ถูกคัดเลือกจากบริษัทแม่ว่ามีผลต่อการเติบโตของลอรีอัลทั้งหมด

สำหรับ 3 กลยุทธ์ เริ่มกันที่ “Faster” หรือ “ความรวดเร็ว” หมายถึงการมุ่งผลักดันนวัตกรรมให้กับสินค้าทั้ง 19 แบรนด์ของลอรีอัลในเมืองไทย ที่แบ่งออกเป็น 4 แผนก ดังนี้ แผนกอุปโภค เช่น แบรนด์การ์นิเย่, แบรนด์เมย์เบลลีน แผนกความงามชั้นสูง เช่น แบรนด์ลังโคม ไบโอเธิร์ม แผนกผลิตภัณฑ์ช่างผมมืออาชีพ เช่น แบรนด์ลอรีอัล โปรเฟสชันนัล แบรนด์เคเรสตาส แบรนด์แมทริกซ์ และแผนกผลิตภัณฑ์เวชสำอาง ได้แก่ แบรนด์วิชี่ และแบรนด์ลาโรช-โพเซย์ โดยปัจจุบัน 2 แผนกแรกทำรายได้ 69% 15% ตามลำดับ ส่วน 2 แผนกหลังทำรายได้รวมกัน 16%

ทั้งนี้ มร.ฌอง ฟรองซัวส์ คูเว่ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด บอกว่า การพัฒนานวัตกรรมสินค้านั้น นอกจากต้องผลักดันออกมาให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในแต่ละกลุ่มแล้ว นวัตกรรมดังกล่าวจะต้องถูกผลักดันออกมาพร้อมกับราคาที่เหมาะสมกับผู้บริโภค ซึ่งเป็นไปตามแนวทาง “Trading Right” ด้วย เช่น แชมพูลอรีอัล ปารีส ก็มีจำหน่ายในราคา 20 บาท

ตามมาด้วยกลยุทธ์ที่ 2 “Wider” ที่มีเป้าหมายเพื่อขยายฐานลูกค้าของลอรีอัลให้กว้างขึ้นอีกอย่างน้อย 10 ล้านคน จากตอนนี้ที่มีฐานลูกค้าคนไทยอยู่ประมาณ 5 ล้านคน รวมไปถึงการเพิ่มส่วนแบ่งจาก 10% เป็น 15% ภายในปี 2558 ด้วย โดยยักษ์ความงามรายนี้จะมุ่งขยายช่องทางการจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อทำความรู้จักและสร้างความเข้าใจให้ผู้บริโภคอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์ ที่ปีนี้มีการแต่งตั้งตำแหน่ง “ดิจิตอล มีเดีย แมเนเจอร์” ขึ้นมา เพื่อสร้างสัมพันธภาพกับผู้บริโภคผ่านโลกดิจิตอล ซึ่งคาดว่าจะมีผู้บริโภคในเฟซบุ๊กเข้าเป็นแฟนเพจของลอรีอัลประมาณ 2% โดยแบรนด์ “วิชี่” ถือเป็นแบรนด์แรกที่โดดมาใช้สื่อดิจิตอลแบบเต็มตัว 100% เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายหลักจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นและคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ใช้สื่อดิจิตอลตลอดเวลา

“ปีนี้บริษัทหันมาให้ความสำคัญกับสื่อดิจิตอลมากขึ้น โดยมีการเพิ่มงบประมาณขึ้นอีก 4 เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อนสำหรับการใช้สื่อตัวนี้โดยเฉพาะ ทั้งนี้ ลอรีอัลก็จะผลักดันทุกแบรนด์ให้ใช้สื่อดังกล่าวมากขึ้นด้วย” เป็นคำกล่าวของกรรมการผู้จัดการ บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด

นอกจากนี้ เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึง ทางลอรีอัลก็มีการจัดทีมพนักงานออกไปหาลูกค้าในต่างจังหวัดทุกเดือน เพื่อให้ทราบถึงพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าในแต่ละพี้นที่ เช่น การเยี่ยมชมร้านซาลอนทั้งที่เป็นลูกค้าและที่ยังไม่ได้เป็น เพื่อขยายกลุ่มเป้าหมายออกไปให้มากขึ้น โดยปัจจุบันแบรนด์แมทริกซ์สามารถเข้าสู่ร้านซาลอนได้กว่า 5,000 แห่งแล้ว นับจากเปิดตัวเมื่อ 2 ปีก่อนที่เข้าสู่ร้านซาลอนได้เพียง 1,000 ร้าน

สำหรับกลยุทธ์สุดท้าย “Better” ซึ่งหมายถึง การมุ่งเป็นองค์กรที่ดีนั้น มนัสฤดี สุวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) บอกว่า การเป็นองค์กรที่มุ่งเน้นความรวดเร็วทั้งในด้านผลิตภัณฑ์และการทำงาน ส่งผลให้บริษัทเน้นไปที่การมุ่งเป็นองค์กรที่น่าทำงานสำหรับพนักงาน ด้วยกระบวนการคัดสรรบุคลากรที่มีประสิทธิภาพและกว้างขวางยิ่งขึ้น (Better Recruitment) เพื่อดึงดูดผู้สมัครที่มีความสามารถและหลากหลาย ทั้งจากมหาวิทยาลัยที่มีสัมพันธภาพที่ดีต่อกันอยู่แล้ว และการขยายไปในมหาวิทยาลัยในต่างจังหวัดในปีนี้อย่าง ขอนแก่น เชียงใหม่ ในการคัดเลือกพนักงานเพื่อมาร่วมงาน เพื่อให้เกิดความหลากหลายขึ้นในองค์กร นอกจากนี้ สำหรับบุคลากรภายในองค์กร ลอรีอัลยังมีการมอบโปรแกรมการฝึกอบรมที่ทันสมัยและโอกาสความก้าวหน้าในการทำงานให้แก่พนักงานทั้งในระดับประเทศและภูมิภาค อีกทั้งบริษัทยังมุ่งให้ความสำคัญในการสร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงานและการดูแลพนักงานด้วยหัวใจ

และนี่คือ 3 แนวทางที่ลอรีอัลจะใช้บุกตลาดความงาม ที่ไม่เพียงต้องการขยายฐานผู้ใช้และคว้าส่วนแบ่งตลาดให้ได้ตามเป้าหมายเท่านั้น ดูเหมือนว่าลอรีอัลยังมองไกลถึงการเป็นผู้นำความงามในทุกแผนกด้วย โดยปัจจุบันตลาดผลิตภัณฑ์ความงามมีมูลค่า 57,000 ล้านบาท แบ่งเป็น กลุ่มอุปโภค 33,000 ล้านบาท กลุ่มความงามชั้นสูง 5,800 ล้านบาท กลุ่มซาลอน 2,400 ล้านบาท และ กลุ่มเวชสำอาง 1,800 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us