|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เพราะเชื่อว่าเทคโนโลยี LED คืออนาคตของธุรกิจไลติ้ง ทิศทางธุรกิจอุปกรณ์แสงสว่างของฟิลิปส์ในปีกระต่ายจึงทุ่มน้ำหนักให้กับ LED สุดตัว โดยจะอาศัยจุดเด่นของ LED สร้างเทรนด์นวัตกรรมหลอดไฟใหม่ ที่เน้นบรรยากาศตกแต่งด้วยสี เป็นไม้เด็ดต่อกรกับคู่แข่ง
ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา การแข่งขันในตลาดหลอดไฟเป็นอีกหนึ่งสมรภูมิที่มีการแข่งขันรุนแรงจากการเข้ามาบุกตลาดของผู้เล่นในตลาดหลากหลายแบรนด์ และปีนี้มีการคาดการณ์กันว่า ตลาดน่าจะมีการแข่งขันรุนแรงต่อเนื่อง จากการขยายตัวในอัตราประมาณ 10% จากตลาดรวม 6,000 ล้านบาท โดยกลยุทธ์ที่นิยมใช้กัน คือ การห้ำหั่นด้วยสงครามราคา ตามด้วยการพัฒนานวัตกรรมสินค้าใหม่ให้เหนือคู่แข่ง
แต่สำหรับเจ้าตลาดหลอดไฟ “ฟิลิปส์” ขอเลือกที่จะเดินเกมต่าง โดยปีนี้เลือกใช้เทคโนโลยี LED เป็นหัวหอกในการขับเคลื่อนและสร้างนวัตกรรมแสงสว่างที่เหนือไปอีกชั้น ด้วยการหันมาเล่นในเรื่องการสร้างบรรยากาศตกแต่งบ้านด้วยสี ควบคู่ไปกับนวัตกรรมควบคุมการทำงานระบบแสงสว่างด้วยรีโมตคอนโทรล ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่
“ต่อไปหลอดไฟจะเป็นมากกว่าอุปกรณ์ให้แสงสว่าง แต่จะเป็นเหมือนเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่งในบ้าน”
ประกรณ์ เมฆจำเริญ ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิลิปส์อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด บอกถึงเทรนด์หลอดไฟ และชี้ว่าเป็นเพราะแนวโน้มของอุปกรณ์แสงสว่างกำลังเปลี่ยนจากหลอดผอม หลอดตะเกียบ มาสู่หลอด LED ซึ่งเป็นพัฒนาการอีกขั้นของกระแสไฟฟ้าจากที่วิ่งเข้าหลอดไฟแบบธรรมดาสู่สารเซมิคอนดักเตอร์ ที่นอกจากข้อดีตรงประหยัดพลังงานมากกว่าแล้ว ยังมีความสามารถในการตอบสนองต่ออารมณ์ของผู้บริโภคได้ดีกว่าหลอดประเภทอื่นในการปรับเปลี่ยนแสงสีต่างๆ ได้หลากหลาย
ยิ่งพิจารณาจากตัวเลขการเติบโตของหลอด LED ในอีก 5 ปี ที่จะเติบโตหลายเท่าตัว ยิ่งทำให้ฟิลิปส์มั่นใจในการรุกตลาดนี้มากขึ้น
ปีนี้ฟิลิปส์จะส่งนวัตกรรมหลอดไฟ LED ที่ช่วยสร้างบรรยากาศแปลกใหม่ภายในบ้านด้วยสี จำนวน 4,000 รุ่นออกตลาด ควบคู่ไปกับการส่งนวัตกรรมหลอดประหยัดไฟที่มาพร้อมรีโมตคอนโทรล ซึ่งสามารถใช้แทนหลอดไฟเดิมได้ทันที โดยไม่ต้องเดินระบบไฟใหม่ โดยรีโมตคอนโทรลจะครอบคลุมการทำงานของแสงสว่างในบ้านได้ถึง 50 จุด ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และการสร้างจินตนาการของคนรุ่นใหม่
นอกจากการส่งนวัตกรรม LED สร้างเทรนด์หลอดไฟในตลาดแล้ว ปีนี้ฟิลิปส์ยังให้ความสำคัญกับแผนปรับโฉมชอปใหม่
นอกจากนี้ ฟิลิปส์ยังมีแผนรีแบรนด์ชอป “ฟิลิปส์ ไลท์ สตูดิโอ” ใหม่ เป็น “ฟิลิปส์ แบรนเด็ด สโตร์” ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายไลน์สินค้าใหม่เข้ามามากขึ้น จึงต้องการให้โมเดลโชว์รูมมีความชัดเจนขึ้น โดยภาพลักษณ์ชอปใหม่จะเน้นเป็นร้านจำหน่ายอุปกรณ์แสงสว่าง แสดงให้เห็นดีไซน์ทันสมัย และประสิทธิภาพของเทคโนโลยีแสงสว่างต่างๆ ครอบคลุมทั้งภายในและภายนอกบ้าน โดยปีนี้ตั้งเป้าขยายฟิลิปส์ แบรนเด็ด สโตร์ในกรุงเทพฯ เพิ่มอีก 3 แห่ง จากปัจจุบันมี 1 แห่งที่ภูเก็ต รวมเป็น 4 แห่ง
นอกเหนือจากการเปิดตัวสินค้าและนวัตกรรมใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่องแล้ว ฟิลิปส์ยังให้ความสำคัญกับการขยายฐานลูกค้ากลุ่มบีทูบีมากขึ้น เนื่องจากเป็นตลาดใหม่ที่ยังไม่เคยทำมาก่อนและน่าจะช่วยสร้างการเติบโตให้กับฟิลิปส์ โดยจะมีการจัดโปรแกรมสนับสนุนที่มีชื่อว่า Green Switch Program คอนเซ็ปต์คือ ฟิลิปส์จะสนับสนุนลูกค้าที่มีแผนจะเปลี่ยนระบบแสงสว่างแบบเดิม มาเป็นโซลูชั่นแสงสว่างที่มีประสิทธิภาพให้กับลูกค้าก่อน โดยลูกค้าจะนำเอาส่วนประหยัดไฟมาผ่อนจ่ายคืนให้กับฟิลิปส์ใน 3 ปี
ธุรกิจ 3 ขา สร้างการเติบโต “ฟิลิปส์”
แม้ชื่อของ “ฟิลิปส์” จะเป็นที่รู้จักกันดีในความเป็นเจ้าแห่งแบรนด์อุปกรณ์แสงสว่างมาตลอดกาล แต่ปัจจุบัน ธุรกิจหลักที่ขับเคลื่อนรายได้ให้กับฟิลิปส์ ประกอบด้วย 3 กลุ่มหลัก คือ 1.กลุ่มไฟฟ้าและอุปกรณ์แสงสว่าง (lighting), 2.หมวดซีแอล (consumer lifestyle) ที่รวมสินค้าคอนซูเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์ ทั้งกลุ่มภาพ-เสียง และเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนเข้าด้วยกัน และ 3.กลุ่มเครื่องมือแพทย์ (health care)
ถ้าแบ่งสัดส่วนการเติบโตของแต่ละกลุ่มในปี 2553 ที่ผ่านมา “ปกรณ์” บอกว่า กลุ่มคอนซูเมอร์มีสัดส่วนเติบโตมากสุด 39% รองลงมาเป็นกลุ่มไฟฟ้าและแสงสว่าง มีสัดส่วน 37% และกลุ่มเครื่องมือแพทย์ มีสัดส่วน 24% ฟิลิปส์ตั้งเป้าในปี 2558 สัดส่วนรายได้ทั้ง 3 กลุ่มจะอยู่ในจุดสมดุลและสร้างความแข็งแกร่งและเติบโตให้กับฟิลิปส์ทั้งในไทยและระดับโลก
สำหรับกลยุทธ์หลักในปีนี้ ฟิลิปส์ยังคงมุ่งนำเสนอนวัตกรรมที่พัฒนาสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของผู้บริโภค โดยมีเป้าหมายที่จะเติบโตในตลาดที่มีการเติบโตสูง ได้แก่ จีน อินเดีย บราซิล และไทย พร้อมเร่งดำเนินงานตามแผนงานในแต่ละกลุ่มธุรกิจเพื่อให้มีการเติบโตอย่างยั่งยืนและแข็งแรงในทุกกลุ่มธุรกิจ
ในกลุ่มธุรกิจคอนซูเมอร์ไลฟ์สไตล์ ปีนี้ฟิลิปส์จะมีสินค้าใหม่ พร้อมโปรแกรมส่งเสริมการขายออกมาสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกิจกรรม ณ จุดขายและโรดโชว์ทั่วประเทศ เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีโอกาสสัมผัสประสบการณ์ตรง และนอกจากสินค้าหลักที่มีอยู่แล้ว อาทิ ทีวี, เครื่องเสียง ในปีนี้มีแผนรุกและทำตลาดสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าครัวเรือนชิ้นเล็ก โดยเน้นนวัตกรรมเพื่อสุขภาพ ได้แก่ หม้อทอดไฟฟ้า เครื่องชงกาแฟ
ส่วนกลุ่มธุรกิจเพื่อการแพทย์และการดูแลสุขภาพ ฟิลิปส์ยังคงมุ่งมั่นในการนำเสนอโซลูชั่นเพื่อการรักษาและการดูแลสุขภาพที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพให้กับโรงพยาบาล พร้อมจัดกิจกรรมเชิงวิชาการอย่างต่อเนื่อง
|
|
|
|
|