ศึกไอศกรีมปะทุหน้าร้อน หวังดันยอดขึ้นอีก 15% ช่วงหน้าขาย ชี้วัตถุดิบขึ้น 15% ทำใจไม่ปรับราคา สเวนเซ่นส์หันหัวรบแฟรนไชส์เน้นภูธร พร้อมรุกต่างประเทศ ด้านโคลด์สโตนรุกเพิ่มสาขานอกห้างเซ็นทรัล ส่วนแบรนด์มาร์เวลลัสสบช่องรุกหน้าร้อน

นายวิทยา สินทราพรรณทร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท สเวนเซ่นส์ (ไทย)จำกัด ในเครือไมเนอร์กรุ๊ป กล่าวว่า ในช่วงหน้าร้อนนี้ตลาดไอศกรีมจะคึกคักอยู่แล้ว มีสัดส่วนยอดขายมากกว่าช่วงอื่น และคาดว่าตลาดรวมจะมียอดขายเพิ่มขึ้น 15% ทุกค่ายจะเปิตัวเมนูใหม่และทำการตลาดมากขึ้น ขณะที่ต้นทุนการผลิตก็สูงขึ้นโดยเฉพาะนมเพิ่มขึ้นกว่า 15% แต่คงไม่สามารถปรับราคาในช่วงนี้ได้ เพราะไอศกรีมไม่ใช้สิ่งจำเป็น หากขึ้นราคาจะกระทบกับผู้บริโภค

สเวนเซ่นส์เน้นแฟรนไชส์รุกภูธร

นายปีเตอร์ คิง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท สเวนเซ่นส์ (ไทย) จำกัด เปิดเผยว่า แผนลงทุนจากนี้ของสเวนเซ่นส์จะมุ่งเน้นการขยายสาขาในต่างจังหวัดแบบแฟรนไชส์มากขึ้น เพราะในกรุงเทพฯเริ่มอิ่มตัวแล้ว ขณะเดียวกันก็รุกตลาดต่างประเทศเต็มที่หลังจากที่ล่าสุดนี้ได้รับสิทธิ์ในการลงทุนเพิ่มเป็น 40 ประเทศแล้ว

ทั้งนี้ตลาดในประเทศ จะเปิดสาขาปีนี้อีก 15 แห่ง (แบ่งเป็นของบริษัทฯ 5 สาขา และแฟรนไชส์ 10 สาขา) จากปัจจุบันมีสาขารวมทั้งสิ้น 230 สาขา แบ่งเป็น ของบริษัทฯ 115 สาขา และแฟรนไชส์ 115 สาขา หลังจากทำตลาดในไทยมา 25 ปี ใช้งบลงทุนเฉลี่ย 5-6 ล้านบาทต่อสาขา ขณะที่ปีที่แล้วเปิดได้ 20 สาขา

ขณะที่แผนการตลาดปีนี้จะหันมาเพิ่มยอดขายจากสาขาเดิมแทน ตั้งเป้าหมายเพิ่มอีก 10% โดยต้องเพิ่มความถี่ในการเข้าร้าน และการทำตลาดทุกรูปแบบทั้งโปรโมชั่น ซีอาร์เอ็ม เป็นต้น ปัจจุบันลูกค้าเข้าร้านเฉลี่ย อาทิตย์ละครั้ง มีค่าใช้จ่ายที่ 200 บาทต่อคนต่อบิล เพิ่มขึ้น 10% จากปีที่แล้ว

สำหรับตลาดต่างประเทศ ปีที่แล้วมีเปิดไปหลายแห่งเช่นที่ ลาว 2 สาขา,อินเดีย 14 สาขา เขมร 3 สาขา และเวียดนาม เป็นต้น ส่วนปีนี้จะเปิดเพิ่มอีกหลายประเทศเช่นที่ บังคลาเทศ ศรีลังกา ฟิลิปปินส์ อียิปต์ โดยเป็นการขายมาสเตอร์แฟรนไชส์ทั้งหมด

ปัจจุบันสาขาในต่างประเทศมีรวม 30 แห่ง ตั้งเป้าหมายสิ้นปีนี้รวมเป็น 60 แห่ง ขณะที่เป้าหมายระยะยาวในปี 2015 จะต้องมีสาขาต่างประเทศมากกว่าในไทยซึ่งขณะนั้นคาดว่าในไทยจะมีประมาณ 300 สาขา มั่นใจทำได้เพราะมีหลายประเศส และมีตลาดใหญ่เช่นอินเดียต้องใช้ 4 มาสเตอร์แฟรนไชส์รวมกัน โดยปีนี้ตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ที่ 3,000 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้ว 20% ที่ทำได้ 2,500 ล้านบาท ล่าสุดเปิดตัวไอศกรีมมะม่วงซันเดย์ต้อนรับหน้าร้อนนี้

โคลด์สโตนรุกนอกเซ็นทรัล

นางสาววชิราภรณ์ วานิชชัย ผู้จัดการทั่วไป แบรดน์ โคลด์สดตน ครีมเมอรี่ โดยบริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือซีอาร์จี เปิดเผยว่า ตลาดรวมไอศกรีมซูเปอร์พรีเมียมและพรีเมียมปีนี้คาดว่าจะเติบโตดีจากผู้ประกอบการที่เข้ามาทำตลาดกันมากขึ้น ไม่ต่ำกว่า 20% ขณะที่แบรดนด์โคลด์สโตนจัดอยู่ในกลุ่มซูเปอร์พรีเมียมที่มีมูลค่ามากกว่า 260 ล้านบาท หรือประมาณ 2% ของตลาดรวม

อย่างไรก็ตาม ตลาดรวมไอศกรีมคาดว่าจะมีมูลค่า 13,000 ล้านบาท ขณะที่กลุ่มตลาดพรีเมียมมีมูลค่าประมาณ 4,000 ล้านบาท ซึ่งทุกเซกเมนต์ยังมีการเติบโตต่อเนื่อง


ปีนี้บริษัทฯจะขยายสาขาเพิ่มอีกเพื่อให้สิ้นปีนี้มีสาขารวม 10 แห่ง ซึ่งปัจจุบันเปิดไปแล้ว 5 สาขาที่ เซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลบางนา อาคารสยามกิจตรงข้ามโรงแรมโนโวเทลสยามสแควร์ และเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ และเตรียมจะเปิดที่เซ็นทรัลปิ่นเกล้าเดือนเมษายนนี้ ซึ่งสาขาใหม่จะมีในห้างกลุ่มเซ็นทรัลทุกแห่งแน่นอน และนอกเซ็นทรัลด้วย

โดยปีนี้ตั้งเป้าหมายรายได้รวมไว้ที่ 70 ล้านบาท ปีที่แล้วเปิดบริการเป็นปีแรกแต่ก็ไม่เต็มที่นักโดยเฉพาะสาขาที่เซ็นทรัลเวิลด์ที่ต้องปิดเพราะศูนย์การค้าไฟไหม้ไปหลายเดือน แต่โดยรวมแล้วรายได้สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ที่ 20% และคาดว่าปีนี้จะเติบโต 20-30% ด้วยงบตลาดรวม 10 ล้านบาท ปัจจุบันครองส่วนแบ่ง 30% ในกลุ่มซูเปอร์พรีเมียม

ล่าสุดได้เปิดตัวไอศกรีมเค้กและไอศกรีมคัพเค้ก ซึ่งมีจำหน่ายอยู่แล้วในโคลด์สโตนต่างประเทศ แต่เมืองไทยเพิ่งเริ่มจำหน่ายเมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา โดยจะเป็นจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งที่จะรุกตลาดช่วงหน้าร้อนนี้

มาร์เวลลัสเปิดตัวหน้าร้อน

ด้านแบรนด์มาร์เวลลัสจากญี่ปุ่นก็รุกตลาดกลุ่มพรีเมียมเมืองไทยหน้าร้อนนี้จากการซื้อสิทิ์แฟรนไชส์ของกลุ่มทุนอสังหาริมทรัยพ์ไทย โดยวางแผนเปิดสาขารวม 3 แห่งในปีนี้ เริ่มที่สาขาแรกสยามพารากอน งบลงทุน 3-5 ล้านบาทต่อสาขา โดยชูจุดเด่นไอศกรีมวาฟเฟิล ไอศกรีมผัดเทปันยากิ และไอศกรีมาชั้น โดยจะขยายสาขาเองในช่วงแรก ก่อนขายแฟรนไชส์ในอนาคต โดยคาดหวังสัดส่วนตลาด 3% จากตลาดพรีเมียม 5,000 ล้านบาท