|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
บุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและทีมผู้บริหารใหม่กว่า 15 ชีวิต ร่วมเดินทางไปพร้อมกับสื่อมวลชนเพื่อสัมผัสบรรยากาศและการใช้ชีวิตของชาวบ้านกว่า 2,000 คนที่อาศัยอยู่กลางทะเล เกาะปันหยี จังหวัดพังงา
เสาปูนสลับกับเสาไม้ที่ปักลงไปใน ทะเลเพื่อยึดโยงให้บ้านที่ปลูกติดๆ กัน ดูแล้วไม่น่าเชื่อว่าจะแข็งแรงและมั่นคง ส่วนทางเดินลาดด้วยปูนและพื้นไม้บางส่วน ที่ลัดเลาะเข้าไปในบ้าน สามารถเดินได้สบายๆ แต่ไม่ถึงกับกว้างขวางพอที่จะให้ รถยนต์ หรือแม้กระทั่งรถจักรยานยนต์มาวิ่งกันได้ เพราะทุกคนที่นี่จะไป-มาหาสู่กันต้องใช้วิธี “เดินเท้า” เท่านั้น
รายได้ของชาวบ้านเกาะปันหยีมาจากขายของที่ระลึก อาหารทะเล พานักท่องเที่ยวเดินชมไม่เกิน 1 ชั่วโมง หรือจะพักค้างคืนก็มี แต่ที่นี่จะมีข้อจำกัดเรื่อง น้ำจืดและไฟฟ้า เพราะน้ำจืดต้องต่อท่อมาจากในเมือง ทำให้น้ำขาดแคลนในบางครั้ง ส่วนไฟฟ้าต้องปั่นใช้กันเอง ค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคจึงมีต้นทุนแพงกว่าบ้านบนบก
เกาะปันหยีแม้จะเป็นชุมชนขนาดเล็ก แต่ก็มีโรงเรียนเปิดสอนตั้งแต่ประถม 1-มัธยม 3 มีนักเรียนกว่า 200 คน และที่นี่คือที่มาของแรงบันดาลใจของธนาคาร ทีเอ็มบี
ชีวิตของเด็กนักเรียนโรงเรียนเกาะปันหยีจะแตกต่างจากเด็กบนบกตรง ที่ไม่มีสนามกว้างๆ ให้เล่นฟุตบอล แม้จะมีข้อจำกัดด้านสถานที่ แต่ความฝันของเด็กเหล่านี้ไกลเกินกว่าอุปสรรคที่มี
ความอยากเล่นฟุตบอลและฝันจะเป็นแชมป์ จนทำให้ผู้ใหญ่บางคนที่ได้ยินถึงกับหัวเราะเยาะใส่ และบอกว่า “ที่นี่คือทะเล มีไว้ให้ตกปลาหมึก”
แต่ดูเหมือนว่าโลกแห่งความเป็นจริง ไม่สามารถลบความฝันของเด็กน้อยเหล่านั้น พวกเขาเริ่มนำทุ่นน้ำมันมาต่อกัน สร้างเป็นแพพอให้สามารถเล่นฟุตบอลได้ แม้ว่าการเล่นฟุตบอลจะเป็นไปด้วยความยากลำบาก โดนตะปูตำเท้าบ้าง หรือต้อง ว่ายออกไปเก็บบอลที่ตกลงไปในน้ำ
เมื่อเวลาแข่งขันมาถึงแม้จะเข้ารอบทีมสุดท้าย แต่คู่แข่งที่น่ากลัว และฝนที่ตกหนัก ทำให้เด็กท้อแท้ต่ออุปสรรคเหล่านั้น โดยเฉพาะรองเท้าที่เต็มไปด้วยน้ำฝน สุดท้ายเด็กๆ ก็กลับมาเล่นฟุตบอล ด้วยเท้าเปล่า เป็นสิ่งที่คุ้นเคยและสามารถ หลบหลีกคู่แข่งได้เหมือนหลบหลีกตะปู ทำให้เล่นสนุกจนได้เปรียบคู่แข่งและชนะในที่สุด
โรงเรียนเกาะปันหยีจึงเป็นแชมป์ฟุตบอลติดต่อกันถึง 7 ปีซ้อน และเรื่องจริงเหล่านี้ได้บอกเล่าจากประสิทธิ์ (หรัด) เหมมินทร์ หนึ่งในนักฟุตบอลครั้งในสมัยเมื่อเขายังเป็นเด็ก และปัจจุบันเป็นหนึ่งใน สมาชิกของ อบต.เกาะปันหยี และลูกชาย ของเขาเป็นหนึ่งในตัวละครโฆษณาของธนาคารทีเอ็มบี
เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับนักฟุตบอลได้ถูกถ่ายทอดมาเป็นภาพยนตร์โฆษณาของธนาคารทีเอ็มบี ที่ใช้คำว่า Make THE Difference และเลือกวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2554 เป็นวันแรกในการออกโฆษณาผ่านโทรทัศน์
“เราเปรียบเหมือนเด็กๆ ในเกาะปันหยี เราต้องการเก่งและก้าวไปเป็นผู้นำ” เป็นคำบอกกล่าวของผู้บริหารรายหนึ่งที่ร่วมเดินทางในครั้งนี้กับ ผู้จัดการ 360 ํ
ตลอด 50 ปีของธนาคารที่ผ่านมา ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงแบรนด์ขององค์กร อย่างมีนัยสำคัญ แต่การลุกขึ้นมาสร้างแคมเปญและออกโฆษณาเพื่อสร้างภาพลักษณ์องค์กรใหม่ เพื่อต้องการสื่อความหมายให้ทั้งพนักงานร่วม 8 พันคน และคนไทยได้รู้จักและคุ้นเคยกับธนาคารให้มากขึ้น เพราะโฆษณาดังกล่าวต้องการบอกความเชื่อว่าทุกคนมีพลังของตนเอง สามารถเปลี่ยนโลกได้
บุญทักษ์บอกว่าคนเราในปัจจุบันใช้พลังในตัวเพียง 20% แต่เหลืออีก 80% ที่ยังไม่ได้นำมาใช้ หากนำพลังที่เหลือออก มา จะเปลี่ยนตัวเอง เปลี่ยนครอบครัว และเปลี่ยนองค์กรได้
ดูเหมือนว่าการนำพลังที่มีอยู่มาใช้ให้เต็มที่พร้อมกับความคิดแตกต่างได้เริ่ม จากตัวบุญทักษ์ก่อน เพราะหลังจากที่เขาเข้ามาบริหารงานในธนาคารทีเอ็มบีสองปีครึ่ง เขาได้ฉีกกฎเกณฑ์ของสถาบันการเงิน ที่มีกับลูกค้าในรูปแบบเดิมๆ อาทิ ยกเว้นค่าธรรมเนียมกดเงินสดผ่านตู้เอทีเอ็มให้สินเชื่อเอสเอ็มอี 3 เท่า รวมไปถึงการยกเว้น ค่าธรรมเนียมในระบบบริการซัปพลายเชนระหว่างลูกค้ากับธนาคาร
สิ่งที่บุญทักษ์ทำเป็นสิ่งที่เขาเคยบอก กับผู้จัดการ 360 ํ ว่า เราต้องก้าวไปสู่การเป็นผู้นำให้บริการด้านการเงิน หากเป็น ผู้ตามเราจะถูกชักจูงไปตามความต้องการของผู้นำ
การฉีกกฎของธนาคารเริ่มปรากฏชัดเมื่อธนาคารบางแห่งเริ่มเดินตามรอยธนาคารทีเอ็มบี เช่น ปล่อยสินเชื่อ 3 เท่าให้กับธุรกิจเอสเอ็มอี หรือฝาก-ถอน โดยไม่ต้องเขียนรายละเอียด
“และตอนนี้ผมก็ภูมิใจที่มีธนาคารใหญ่ๆ เริ่มทำตามเราบ้างแล้ว” บุญทักษ์พูดพร้อมกับเสียงหัวเราะอย่างมีความสุข การสร้างความแตกต่างจากสถาบันการเงิน อื่นๆ เป็นสิ่งที่จะเริ่มเห็นชัดเจนและจับต้อง ได้ขึ้นเรื่อยๆ แต่สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้อย่าง ต่อเนื่อง ต้องมาจากความเข้าใจจากภายใน หมายถึงพนักงานร่วม 8 พันคนต้องเข้าใจสิ่งที่ผู้บริหารสื่อสารออกไป
บุญทักษ์ร่วมฟังความคิดเห็นจากผู้บริหาร 200 คนจากทั่วประเทศ และ สื่อสารให้รับรู้มุมมองของผู้บริหาร สิ่งที่เขาต้องทำคือ การสร้างพลังความเชื่อ
ภาพยนตร์โฆษณาชิ้นนี้ หากสื่อสาร ตรงๆ ก็หมายถึงการสร้างแรงบันดาลใจให้ ทั้งพนักงานและคนทั่วไป แต่โฆษณาดูเหมือนว่าองค์กรแห่งนี้ได้ซ่อนความหมายอีกนัยหนึ่ง คือภาวะการเมืองในช่วงเวลานี้ หากสร้างสรรค์ก็จะไม่หลงทาง
การสร้างแบรนด์เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้กับองค์กรผ่านสื่อโฆษณาสร้างแรงบันดาลใจชิ้นนี้เริ่มต้นด้วยงบประมาณก้อนแรก 80-100 ล้านบาทจะคุ้มค่าเพียงใด ยังไม่อาจตอบได้ในตอนนี้ เวลาเท่านั้นจะช่วยพิสูจน์
|
|
|
|
|