Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา มีนาคม 2554
3 พันธกิจที่คนไทยต้องทำให้เป็นไปได้             
โดย ปิยาณี รุ่งรัตน์ธวัชชัย
 


   
search resources

Environment
อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา, ดร.
ศูนย์จัดการความรู้ด้านการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ




จากการที่ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำและการจัดการชายฝั่งจากเนเธอร์แลนด์จำนวน 6 คน เดินทางมารวบรวมปัญหาในพื้นที่ชายฝั่งอ่าวไทยตอนบน เพื่อเสนอแนวทางการดำเนินการระยะยาวในการจัดการและพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว โดยมีศูนย์จัดการความรู้ด้านการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ภายใต้ความร่วมมือระหว่างสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติและจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับสถาบันสิ่งแวดล้อมไทยและผู้เชี่ยวชาญต่างๆ ได้ข้อสังเกตและข้อเสนอแนะเบื้องต้น 3 ประเด็น ดังนี้

หนึ่ง-ไทยมีความตระหนักเรื่องปัญหาน้ำ ทั้งน้ำจืดและน้ำทะเลอย่างมาก โดยดูได้จากการมีหน่วยงานต่างๆ มากมาย แต่คณะผู้เชี่ยวชาญสังเกตเห็นอย่างชัดเจนว่าการดำเนินการที่มี ขาดเอกภาพและไม่สามารถบริหารจัดการที่ดินและน้ำในพื้นที่ชายฝั่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่ในอนาคตการเปลี่ยนแปลงต่างๆ จะยิ่งทำให้ปัญหาต่างๆ มีความรุนแรงมากขึ้น ทั้งจากสภาพภูมิอากาศ การขยายตัวของประชากรและการเติบโตทางเศรษฐกิจ คณะผู้เชี่ยวชาญฯ จึงเสนอแนะให้มีการจัดตั้งหน่วยงานเพื่อจัดการพื้นที่และทรัพยากรในพื้นที่วิกฤติแบบบูรณาการ โดยหน่วยงานดังกล่าวต้องสามารถรายงานตรงกับคณะรัฐมนตรีได้

สอง-การเปลี่ยนแปลงต่างๆ ทั้งทางกายภาพและทางสังคมที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จะเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องและน่าจะมีอัตราเร่งที่เพิ่มขึ้นในระยะยาว ดังนั้นกรอบเวลาของการวางแนวทางเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ต้องมองให้ยาวกว่าระยะ 20-50 ปี ซึ่งเป็นกรอบเวลาที่นิยมใช้กันสำหรับการวางแผนการดำเนินการในระดับปฏิบัติการ ซึ่งคณะผู้เชี่ยวชาญฯ ได้เสนอแนะให้ทำแผนระยะยาวในบริบทของการเปลี่ยนแปลงทางสังคม สิ่งแวดล้อมและภูมิอากาศที่ควรมีกรอบเวลาอย่างน้อย 100 ปี หรือนานกว่านั้น โดยใช้วิธีการคาดการณ์ภาพอนาคตที่หลากหลายและบูรณาการปัจจัยต่างๆ เข้าด้วยกัน เพื่อใช้เป็นพื้นฐานในการวิเคราะห์เชิงนโยบายของทางเลือกต่างๆ เพื่อการจัดการพื้นที่ชายฝั่งทะเลนี้

สาม-ระบบเพื่อป้องกันน้ำท่วมของเขตเมืองของกรุงเทพมหานครในปัจจุบัน ต้องออกแบบเพื่อยอมให้น้ำท่วมได้เพียง 1 ครั้งในรอบ 100 ปี (หรือคาบการเกิดซ้ำ 100 ปี) ซึ่งถือว่าเสี่ยงมากเมื่อเทียบกับเกณฑ์ที่ใช้ในเมืองใหญ่อื่นๆ ที่มีความสำคัญในระดับเดียวกัน เช่น ฮานอย ยอมให้เกิดน้ำท่วมได้ 1 ครั้งในรอบ 250 ปี นิวออร์ลีนส์ 1 ครั้งในรอบ 500 ปี ลอนดอน 1 ครั้งในรอบ 1,000 ปี และเขตชุมชนขนาดใหญ่ในเนเธอร์แลนด์ 1 ครั้งในรอบ 10,000 ปี ดังนั้นคณะผู้เชี่ยวชาญจึงเสนอให้มีการทบทวนแนวทางการออกแบบระบบป้องกันน้ำท่วมของพื้นที่เมืองที่มีความสำคัญอื่นๆ ด้วย ไม่ใช่เฉพาะกรุงเทพมหานคร   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us