หากกล่าวถึงสถาบันการเงินที่ช่วงชิงบทบาทนำในการเป็นผู้นำสินเชื่อยานยนต์ครบวงจร เชื่อว่าชื่อของกรุงศรี ออโต้ที่มีฐานลูกค้าที่มีมากกว่า 8 แสนรายรวมเป็นเงินสินเชื่อกว่า 1 แสนล้านบาท คงเป็นชื่อที่ผู้คนในวงกว้างคุ้นเคยไม่น้อยเลย

ไพโรจน์ ชื่นครุฑ กรรมการผู้จัดการ ใหญ่ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) หรือกรุงศรี ออโต้ ระบุถึงผลการดำเนินงานในปี 2553 ว่า กรุงศรี ออโต มียอดสินเชื่อคงค้างรวม 119,000 ล้าน บาท เพิ่มขึ้นจากปี 2552 ถึง 20% ซึ่งเป็นยอดสินเชื่อใหม่จำนวน 74,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และเมื่อพิจารณาในรายผลิตภัณฑ์พบว่า กรุงศรี ออโต้มีอัตราการ เติบโตของยอดสินเชื่อสูงกว่าอัตราการเติบโตของตลาดในทุกตลาด

โดยกรุงศรี นิว คาร์มีการเติบโต 73% สูงกว่าตลาดรถยนต์ ใหม่ที่มีการเติบโต 46% กรุงศรี ยูสด์ คาร์ และกรุงศรี คาร์ ฟอร์ แคชมีการเติบโต 30% สูงกว่าตลาดรถยนต์ใช้แล้วและรีไฟแนนซ์ ที่เติบโต 13% และกรุงศรี มอเตอร์ไซค์มีการเติบโต 35% สูงกว่า ตลาดรถจักรยานยนต์ที่มีการเติบโต 20%

“ผลประกอบการที่ดีขึ้นเนื่องจากภาวะตลาดรถยนต์ที่มีการเติบโตต่อเนื่องตลอดปี 2553 รวมถึงจากการดำเนินกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ เพื่อกระตุ้นยอดสินเชื่อที่เราได้วางแผนไว้ตาม กลยุทธ์ Smart Growth ไม่ว่าจะเป็นการตอกย้ำแบรนด์กรุงศรี ออโต้ ให้เป็นที่รู้จักและสร้างการจดจำให้กับผู้บริโภค รวมถึงการเพิ่มช่องทางจำหน่ายให้ครอบคลุมและเข้าถึงผู้บริโภคได้มาก ยิ่งขึ้น”

ช่องทางการจำหน่ายของกรุงศรี ออโต้ในด้านหนึ่งประกอบด้วยสาขาของธนาคารกรุงศรีอยุธยาที่มีมากกว่า 580 สาขาทั่วประเทศ การเปิดตัวบริการใหม่ในฐานะผู้กำหนดทิศทาง ตลาด เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค เช่น “บริการทำสัญญาและอนุมัติสินเชื่อได้ทั้ง 7 วันไม่เว้นเสาร์-อาทิตย์” ซึ่งได้รับการตอบรับจากตลาดเป็นอย่างมาก และยกระดับการให้บริการทั้งในด้านความรวดเร็ว เป็นกันเองและเข้าถึง ง่ายของสาขาของกรุงศรี ออโต้ ทั้ง 34 สาขา และกรุงศรี ออโต้ คอลเซ็นเตอร์ สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าเป็นอย่างดี

ไพโรจน์ระบุว่า สำหรับตลาดสินเชื่อยานยนต์ในปี 2554 คาดว่าจะมีการขยายตัวขึ้น 7-10% ในฐานะผู้นำสินเชื่อยานยนต์ครบวงจรที่กำหนดทิศทางตลาดและได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า ดีลเลอร์ รวมถึงพันธมิตรธุรกิจมาโดยตลอด

นโยบายสร้างการเติบโตในทุกตลาดของกรุงศรี ออโต้ ในปีนี้จะมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจใน 4 ด้านหลัก คือ 1. การตอกย้ำ ความเป็นแบรนด์ผู้นำด้วยการสร้างจุดเด่นและความแตกต่างในด้านการตลาดและการบริการ 2. การผสานบริการร่วมกับกรุงศรีกรุ๊ป เพื่อขยายช่องทางจำหน่ายเข้าถึงผู้บริโภคทั่วประเทศให้มาก ยิ่งขึ้น 3. การขยายตลาดรถใหม่อย่างต่อเนื่องและครองความเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ใช้แล้วผ่านผลิตภัณฑ์ กรุงศรี คาร์ ฟอร์ แคช และกรุงศรี ยูสด์ คาร์ และ 4. การเพิ่มผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มากขึ้น

“นอกเหนือจากนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการมากกว่า 3 ประเภทที่จะเปิดตัวสู่ตลาดแล้ว ในปี 2554 บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นในการดำเนินธุรกิจตามนโยบายการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบ และการยกระดับการให้บริการที่โดดเด่น เพื่อสร้างความประทับใจ ให้กับลูกค้าของกรุงศรี ออโต้ ในปีนี้ เราตั้งเป้ายอดสินเชื่อคงค้าง เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 20% และยอดสินเชื่อใหม่เพิ่มขึ้น 19% เชื่อมั่นว่า ด้วยกลยุทธ์และทิศทางการดำเนินธุรกิจที่เราได้วางแผนไว้จะสนับสนุนให้กรุงศรี ออโต้ให้บริการลูกค้าได้ตามเป้าหมายอย่างแน่นอน” นายไพโรจน์กล่าวทิ้งท้าย