Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์8 มีนาคม 2554
สงครามแป้งเย็น-น้ำดำ ระเบิดศึกรับซัมเมอร์             
 


   
search resources

อังกฤษตรางู (แอล.พี.), บจก.
โคคา โคลา (ประเทศไทย), บจก.
คอลเกต-ปาล์มโอลีฟ (ประเทศไทย), บจก.
เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง, บจก.
Soft Drink




สินค้าแห่เปิดศึกรับลมร้อน สมรภูมิแป้งเย็นเดือด “ตรางู” วางเกมรบสยบความเย็นคู่แข่งช่วงไฮซีซัน เท 200 ล้าน ย้ำกลยุทธ์ Brand Modernization จัดแคมเปญ “แป้งเย็นตรางู เย็นง่ายๆ ส่งต่อกันได้” พร้อมวาง “มาริโอ้ เมาเร่อ” ชน “โดม-ปกรณ์ ลัม” พรีเซนเตอร์คนล่าสุดของแชมป์ “โพรเทคส์” ด้านเวทีน้ำดำ ซัดกันเต็มเหนี่ยว “โค้ก” ทุ่ม 250 ล้าน ชูแพลตฟอร์ม “ดนตรี-กีฬา” ลุยรากหญ้าถึงระดับโลก ส่วน “เป๊ปซี่” จัดหนัก ส่งโปรโมชั่นชอปแหลกแจก 10 ล้าน

ด้วยอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงจนอากาศในบ้านเราเรียกได้ว่าเป็นฤดูร้อนตลอดทั้งปีนี่เอง ทำให้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ขายเรื่อง “ความเย็น” ดูคึกคักจนลืมความร้อนเลยทีเดียว เปิดฉากแรกกันที่ตลาด “แป้งเย็น” ที่แม้จะมีมูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท เล็กกว่าตลาดแป้งเด็กเกือบครึ่งก็ตาม แต่เมื่อวัดความฮอตของเกมการแข่งขันแล้ว วินาทีนี้คงต้องยกให้ตลาดแป้งเย็น เพราะนอกจากจะเป็นฤดูการขายหลักที่กินสัดส่วนมากกว่า 50% จากการขายทั้งปีแล้ว เซกเมนต์ดังกล่าวยังเต็มไปด้วยการต่อสู้แบบครบเครื่องจาก 2 ยักษ์ผู้นำอย่าง “ตรางู” และ “โพรเทคส์”

เข้าสู่พื้นที่การแข่งขัน “ตรางู” คือผู้เล่นรายล่าสุดที่ออกมากระแทกคู่แข่ง ด้วยการทุ่มงบ 200 ล้านบาท ตอกย้ำกลยุทธ์ Brand Modernization เพิ่มดีกรีความทันสมัยอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดส่งแคมเปญ “แป้งเย็นตรางู เย็นง่ายๆ ส่งต่อกันได้” โดยมี “มาริโอ้ เมาเร่อ” เป็นพรีเซนเตอร์ส่งต่อความเย็นแบบเย็นกริ๊ก...จับใจ พร้อมกับแป้งเย็นกลิ่นใหม่ “คูลพิ้งค์” (Cool Pink) ความหอมเย็นที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากดอกไม้ 5 ชนิด ออกมาสร้างสีสันในช่วงซัมเมอร์นี้ เพื่อเน้นสื่อไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะ ที่ในครั้งนี้จะเน้นใช้สื่อแบบครบวงจร ทั้งโฆษณาทางโทรทัศน์, สื่อ ณ จุดขาย, มีเดียออนไลน์ และกิจกรรมทางการตลาด ที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่

ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้บริโภคเห็นถึงภาพลักษณ์ที่ทันสมัยยิ่งขึ้น ตรางูได้มีการปรับดีไซน์ชื่อแบรนด์บนกระป๋องแป้งเย็น “SNAKE BRAND PRICKLY HEAT” และลวดลายดอกไม้เพื่อให้ดูง่ายชัดเจนและร่วมสมัยมากขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ยังคงเอกลักษณ์ของแบรนด์ตรางูเช่นเดิม และเพื่อเป็นทางเลือกมากขึ้น รองแชมป์รายนี้ยังออกแป้งเย็นตรางู “รุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น” ซึ่งเป็นการนำผลงานชนะเลิศ การประกวดการออกแบบบรรจุภัณฑ์ในโครงการ คูล เดอะเวิลด์ ดีไซน์ คอนเทสต์ ปี 2010 มาผลิตจริงด้วย

นอกจากตัวสินค้าที่ผู้เล่นรายนี้พยายามปรับให้ดูทันสมัยแล้ว พรีเซนเตอร์ก็เป็นอีกกลยุทธ์ที่ตรางูให้ความสำคัญ โดยปีนี้ มาริโอ้ เมาเร่อ คือ ผู้รับหน้าที่ดังกล่าว ต่อจาก บีม กวี และเชียร์ ทิฆัมพร แม้ปีนี้ตรางูจะลดพรีเซนเตอร์เหลือเพียง 1 คน แต่หากวัดความฮอตแล้ว เชื่อว่า มาริโอ้ กินขาด ที่สำคัญเมื่อต้องไปวางคู่ประกบกับแชมป์ “โพรเทคส์” ที่วันนี้ส่งหนุ่มหล่อขั้นเทพ “โดม-ปกรณ์ ลัม” มานั่งแท่นพรีเซนเตอร์ ก็ถือว่าจัดเป็นคู่แข่งที่สูสีกันทีเดียว โดยครั้งนี้ โพรเทคส์เลือกสูตร Protex Oxy Cool มาให้โดมช่วยส่ง message “ความเย็นแบบสุดขั้ว เหมือนสูดอากาศสดชื่น พร้อมปกป้องผิว” ขณะที่ มาริโอ้ จะเน้นสื่อถึงเรื่องการส่งต่อความเย็น ทั้งนี้ กฤษณ์ ฉมาภิสิษฐ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท อังกฤษตรางู (แอล.พี.) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแป้งเย็นตรางู (Snake Brand) บอกว่า การเปิดเกมรุกโต้กลับคู่แข่งแบบทันควันในครั้งนี้ มั่นใจยอดขายโตขึ้น 20% พร้อมจะคว้าส่วนแบ่งได้ 28% เพิ่มจากปีก่อนที่มีอยู่ 24% จากตลาดแป้งเย็นมูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นการขยับเข้าใกล้ผู้นำมากขึ้นด้วย

โค้ก-เป๊ปซี่แลกหมัด
ชิงยอดขายหน้าร้อน

ตลาดน้ำดำอีก 1 สมรภูมิที่ดีกรีการแข่งขันจะขึ้นไปถึงขีดสุดในช่วงหน้าร้อน ซึ่งแน่นอนว่า “โค้ก”-“เป๊ปซี่” คู่ปรับตลอดกาลของวงการนี้ ย่อมทุ่มสรรพกำลังอย่างเต็มที่ ชนิดที่ไม่มีใครยอมใคร โดยกลยุทธ์สุดฮิตที่ขาดไม่ได้ นั่นคือ มิวสิกมาร์เกตติ้ง ที่วันนี้ดูเหมือนว่าถูกผูกติดไปกับตัวสินค้าทั้ง 2 แบรนด์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เริ่มกันที่ ฝั่งโคคา-โคลา แบรนด์ที่ครองความเป็นแชมป์ตราสินค้าที่มีมูลค่าสูงสุดในโลกต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 ด้วยมูลค่าแบรนด์กว่า 2,113,560 ล้านบาท แม้วันนี้โคคา-โคลา ในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ “โค้ก” จะยังไม่สามารถประกาศศักดาในกลุ่มน้ำดำได้อย่างเต็มปาก ทว่า ในภาพรวมของน้ำอัดลม โค้กยังคงเป็นผู้นำ โดยไทยถือเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ 20 อันดับแรกของโคคา-โคลา

ฆอเฮ การ์ดูโน ผู้จัดการทั่วไป ประจำประเทศไทย บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตอนนี้น้ำอัดลมทั้งน้ำดำและน้ำสี มีมูลค่าราว 4,0000 ล้านบาท โคคา-โคลา ในประเทศไทย มีส่วนแบ่งมากกว่า 50% และเพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำ และเพื่อฉลองปีที่ 125 ของโคคา-โคลา ในปีนี้บริษัทจึงทุ่มงบ 250 ล้านบาท สำหรับการวางแพลตฟอร์ม ทั้ง “ดนตรี” และ “ฟุตบอล” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “เปิดโค้ก…เดินหน้าซ่าให้สุด” โดยมีเป้าหมายเพื่อขยับการเติบโตขึ้น 10% สูงกว่าตลาดรวมที่คาดว่าจะขยายตัวเพียง 5-6%

สำหรับการรุกของโค้กในปีนี้ พูดได้ว่าเข้มข้นตั้งแต่ระดับรากหญ้าไปถึงระดับโลก ภายใต้ 2 แนวทาง คือ ดนตรีและกีฬา กิจกรรมที่ช่วยให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าและได้การตอบรับที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้โค้กมีการวางแพลตฟอร์มที่ครบวงจรมากยิ่งขึ้น ไล่ตั้งแต่ระดับท้องถิ่น ประเทศ และระดับโลก หรือโกลบอล โดยทั้งหมดนี้จะอยู่ภายใต้แนวคิดเดียวกัน คือ “เปิดโค้ก...เดินหน้าซ่าให้สุด”

ทั้งนี้ ผู้จัดการทั่วไปค่ายโคคา-โคลา บอกว่า แพลตฟอร์มใหม่ของกิจกรรมฟุตบอลและดนตรีแบบครบวงจร จะขยายลงสู่ระดับท้องถิ่นให้มากขึ้น ก่อนจะเชื่อมโยงไปยังกิจกรรมระหว่างประเทศ และระดับโลกในที่สุด เช่น การสนับสนุนโครงการ “การแข่งขันฟุตบอลเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย โค้กคัพ” เพื่อพัฒนานักเตะเยาวชนไปสู่ทีมชาติ ขณะที่ระดับประเทศที่ผ่านมา โค้กเป็นผู้สนับสนุน “ไทยพรีเมียร์ลีก” ตั้งแต่ปี 2553 ส่วนระดับโลก ปีนี้ก็จะนำสโมสรฟุตบอลชั้นนำระดับโลกที่ชื่นชอบของคนไทยมาแข่งขันนัดพิเศษ “โค้ก ซุปเปอร์คัพ” กับทีมไทยพรีเมียร์ลีก ออลสตาร์ ในช่วงกลางปีนี้

ขณะที่กิจกรรมด้านดนตรีปีนี้ ซึ่งจัดภายใต้แนวคิด “โค้ก-มิวสิค ประสบการณ์พลังดนตรีเดินหน้าซ่าให้สุดขั้ว” ก็จะอยู่ในรูปแบบเดียวกับฟุตบอล โดยระดับท้องถิ่นเตรียมต่อยอดโค้ก มิวสิค อวอร์ดส โดยคัดเลือก 5 นักร้องเดี่ยว และ 5 วงสุดท้าย ขึ้นแสดงร่วมกับนักร้องและวงดนตรีชื่อดังของไทยและต่างประเทศใน “Bangkok Summer Festival by Coca-Cola” รวมถึงเดินทางไปอังกฤษ เพื่อดูการทำงานกับนักดนตรีวง Maroon 5 ด้วย ส่วนระดับประเทศ โค้กจับมือกับกรุงเทพมหานคร เพื่อจัดเทศกาลดนตรีฤดูร้อนในเดือนพฤษภาคมนี้ พร้อมส่งวงเดอะ ริชแมน ทอย เป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ หลังจากใช้แทททูคัลเลอร์มาแล้ว 2 ปี และในระดับโลก บริษัทจะนำวง Maroon 5 มาแสดงในงาน “โค้ก มิวสิค พรีเซนต์ส Maroon 5 ไลฟ์ อิน แบงค็อก” เดือนเมษายนนี้

ด้าน “เป็ปซี่” ก็ไม่น้อยหน้า โดยต่อยอดความสำเร็จจากการใช้ทั้ง 3 ศิลปินเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ ภายใต้แคมเปญ “เป๊ปซี่ ดนตรีเต็มที่ด้วยกันได้” เฉพาะหน้าร้อนปีนี้เป๊ปซี่จะใช้งบกว่า 80 ล้านบาท โดยดึง 3 นักร้องดัง บอดี้สแลม, ดา-เอ็นโดรฟิน และชิน-ชินวุฒ มาแสดงดนตรี แนว “เรกเก้-สกา” เพื่อเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ สร้างความแปลกใหม่และเหมาะกับสีสันในช่วงหน้าร้อน นอกจากนี้ ยังมีการจัดโปรโมชั่น “เป๊ปซี่ซ่า...ช้อปแหลกล้าน จัดหนักแจกทุกวัน รวม 10 ล้าน” ร่วมกับศูนย์การค้าเซ็นทรัล เพื่อชิงรางวัลซื้อสินค้าฟรี หลังจบกิจกรรมคาดว่าจะมียอดขายในช่วงหน้าร้อนเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ภายใต้นโยบาย Super Growth ของเป๊ปซี่ในปีนี้ คาดว่าจะทำให้ยอดขายทั้งปีเติบโตต่อเนื่องที่ 9%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us