เมื่อตอนเริ่มขายพื้นที่ใหม่ๆ ผู้บริหารอัมรินทร์พลาซาเห็นว่าถ้าหันหน้าเข้าหาด้านหน้า
ของพลาซาแล้ว พื้นที่ตรงมุมขวาจะเป็นพื้นที่ทองที่ดีที่สุด
"เราคิดอยู่เสมอว่าพื้นที่ตรงนั้นประมาณเกือบ 500 ตารางเมตร จะทำอะไรดี
เพราะพื้นที่ตรงนั้นเป็นจุดเด่นที่สุด ทุกคนที่จะเข้าไปชอปปิ้งด้านหน้าจะต้องผ่านและคนที่จะเข้าไป
อาคารสำนักงานโดยเข้าไปด้านข้างก็ต้องผ่าน เคยมีร้านเพชรติดต่อพร้อมที่จะขอเซ้ง
ในราคาตารางเมตรละแสนกว่าบาท แต่เราไม่ให้เพราะคิดว่าพื้นที่ตรงนี้จะต้องเป็นประโยชน์
ให้กับบริเวณชอปปิ้งให้มากที่สุด และในขณะเดียวกันก็ต้องสามารถจะกลมกลืนกับภาพลักษณ์
ของพลาซาได้ดีด้วย" ผู้บริหารโครงการท่านหนึ่งเล่าให้ "ผู้จัดการ"
ฟัง
ก็เป็นจังหวะพอดีกับแมคโดนัลด์ต้องการจะเข้ามาเริ่มตั้งรกรากในประเทศไทย
โดยนักธุรกิจหนุ่มที่ชื่อเดช บุลสุข เป็นผู้ได้สิทธิประเทศไทยมา และก็มาติดต่อ
"เดิมทีเราไม่อยากได้ กรรมการเองก็ไม่อยากได้ร้านอาหารตรงมุมนี้ เพราะลักษณะของร้าน
ประเภทของลูกค้าที่เข้า และคุณภาพของอาหารที่อาจจะไม่ได้มาตรฐานในระยะยาว ทั้งหมดนี้
อาจจะมีส่วนทำให้อมรินทร์พลาซาตกต่ำในอนาคต" ผู้บริหารคนเดิมกล่าวต่อ
แต่ชื่อเสียงของแม็คโดนัลด์ก็เป็นชื่อเสียงที่ไม่ใช่ fast food ประเภทที่จะมาทำเล่น
"เลยต้องตั้งเงื่อนไขบางประการ เช่น สถานที่จะต้องดูแลดี กิจการต้องเป็นประโยชน์กับคนผ่าน
การควบคุมคุณภาพอาหารก็จะต้องดีและคงเส้นคงวา นอกจากนี้ ก็ยังมีปัญหาปลีกย่อยเช่น
ต้องป้องกันไม่ให้เป็นแหล่งที่วัยรุ่นจะมานั่งมั่วสุมกัน"
แมคโดนัลด์ก็ดูเหมือนจะผ่านหมดทุกข้อ เพราะการทำงานของแมคโดนัลด์นั้นเป็นการเตรียมงานแบบมืออาชีพจริงๆ เช่น จะมีทีมงานด้านการตลาดเข้ามา อีกทีมจะชำนาญด้านการจัดสถานที่ ฯลฯ
"เขาเอา manual การทำงานมาให้เราดู เอารายการอาหารมาแสดงว่าเขาขายตั้งแต่
อาหารเช้าไปจนถึงอาหารเย็นรวมทั้ง snack มิหนำซ้ำยังเอาระบบการทำงานมาแสดง"
และในที่สุดแม็คโดนัลด์ก็ได้เนื้อที่ 460 ตารางเมตรไป ในราคาที่ต่ำกว่าแสนต่อตารางเมตร
รวมเงินลงทุนทั้งหมดร่วม 50 ล้านบาท
อาจจะเป็น fast food ที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุด ยกเว้น food center และแพงที่สุด
ในเมืองไทย(460 ตารางเมตรก็ประมาณห้องแถว 4 ชั้น ขนาด 4 เมตร คูณ 12
เมตร ประมาณ 10 คูหา เพื่อขายฟาสต์ฟู้ด)
สำหรับคนจัดทำโครงการอมรินทร์พลาซาแล้ว ถึงแม้เงินที่ได้จจาการเซ้งที่ให้แมคโดนัลด์
จะได้น้อยกว่าเซ้งให้ร้านเพชรหลายล้านบาท แต่ "เรามองตรงที่ว่าถึงแม้ว่าหน้าที่เราในฐานะเป็น
developer จะหมดแล้วก็ตามการแข่งขันกันขายของก็ต้องมีต่อไป และเราก็ต้องหาทางที่จะทำหน้าที่เหมือนเครื่องปั่นไฟที่จะทำให้ไฟเดิน"
ไฟในที่นี้ก็ย่อมหมายถึงลูกค้าของแมคโดนัลด์ ซึ่งจะต้องเข้ามาใช้บริการตั้งแต่
5,000 คน ขึ้นไปต่อวัน ถึงจะอยู่ได้ และก็หวังว่าลูกค้าบางส่วนของแมคโดนัลด์
นี่แหละจะเป็นลูกค้าของคนทำมาค้าขายในอมรินทร์ด้วย
"แมคโดนัลด์นั้นเราศึกษาประวัติศาสตร์เขา เห็นว่าทุกๆ ประเทศที่เขาไปเปิดสาขาเป็นแห่งแรกนั้นเขาทุ่มสุดตัว
เพราะสาขาแรกจะต้องสำเร็จให้ดีมากๆ เพื่อสร้างต่อไปให้สาขาที่ 2/3/4 และต่อๆ ไป ฉะนั้นการขาดทุนสำหรับเขานั้นไม่สำคัญ ที่สำคัญคือต้องทำให้ขึ้น"
ก็เป็นอันว่าอัมรินทร์เองก็ต้องเชื่อว่า แมคโดนัลด์ต้องทำขึ้น และแมคโดนัลด์เองทำไม่ขึ้น
ก็ไม่ได้ เพราะชื่อเสียงของตัวเองเป็นเดิมพัน
ปัจจุบัน นี้แมคโดนัลด์ในสิงคโปร์กำลังขายได้ยอดขายที่ดีที่สุดในโลก"
เขาเพิ่งเปิดที่ไต้หวัน และวันหนึ่งขายได้ประมาณ 700,000 กว่าบาท ปีละสองร้อยล้านบาทก็มากสำหรับการขายอาหาร"
ไม่ทราบว่าแมคโดนัลด์แลนด์จะขายดีขนาดไหน? แต่วงการภายในแมคไทยเล่าให้ฟังว่า
เดช บุลสุข เชื่อว่าจะต้องขายดีกว่าสิงคโปร์แน่ๆ และได้มีการเดิมพันเล็กๆ
น้อยๆ ติดตามไปด้วย
แต่ที่แน่ๆ เจอแมคโดนัลด์ได้ธันวาคมนี้ที่อัมรินทร์พลาซา(ความเดิมเรื่องแมคโดนัลด์หาอ่านได้ใน
"ผู้จัดการ" ฉบับที่ 5 เดือนธันวาคม 2527)