ตลาดอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์คึกคักตามตลาดรถยนต์ ล้อแม็กติดแบรนด์ เลนโซ่โหมตลาดผ่านกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ตเป็นหลัก แต่ปีนี้เพิ่มช่องทางเจาะกลุ่มลูกค้าขาซิ่งผ่าน โซเชียลเน็ตเวิร์ก สื่อรูปแบบใหม่ที่ตลาดล้อแม็กให้ความสนใจ โดยเฉพาะแม็กราคาถูกจากจีนที่กำลังรุกตลาดอย่างหนักในช่วงปีที่ผ่านมา

ปัจจุบัน เลนโซ่ วีล ประกาศตัวในตลาดล้อแม็กรถยนต์ว่าเป็นผู้นำตลาด โดยมูลค่าตลาดรวมสินค้าประเภทล้อแม็กปี 2553 อยู่ที่ประมาณ 2,000 ล้านบาท และแน่นอน ในปีนี้ตลาดล้อแม็ก อุปกรณ์ตกแต่งทั้งด้านความสวยงามและสมรรถนะ น่าจะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นตามตลาดรถยนต์ที่ประเมินกันว่าสูงกว่า 800,000 คัน ซึ่งที่ผ่านมานั้น เลนโซ่ วีล ผู้ผลิตและจำหน่ายล้อแม็กรายใหญ่ ภายใต้แบรนด์เลนโซ่ (Lenso) และแบรนด์ไรเด้น (Raiden) สามารถสร้างยอดขายได้ราว 2,000 ล้านบาท โดยเลนโซ่มีมูลค่า 1,500 ล้านบาท เฉลี่ยเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 30% ทั้งในส่วนของตลาดในประเทศ และต่างประเทศที่ส่งออกมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก

ในปีนี้ เลนโซ่ วีล จึงวางกลยุทธ์หลักการทำตลาดล้อแม็กในรูปแบบใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ด้วยการเน้นทำตลาดผ่านกิจกรรมการแข่งรถยนต์และกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ต ซึ่งที่ผ่านมาสามารถเจาะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรง พร้อมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่สู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง

โดยเฉพาะตัวผลิตภัณฑ์ใหม่นั้น เลนโซ่ฯ เริ่มทำตลาดจากแบรนด์ไรเด้นก่อน สรรชัย บุญทวีกิจ ผู้จัดการทั่วไปสายงานขายและการตลาด บริษัท เลนโซ่ วีล จำกัด บอกว่า บริษัทฯ เล็งเห็นว่าผู้บริโภคที่ใช้รถยนต์ส่วนใหญ่มีความต้องการความแตกต่างและความทันสมัย อีกทั้งยังใส่ใจในคุณภาพของอุปกรณ์ที่นำมาตกแต่งรถยนต์ เห็นได้จากการหาอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีความหลากหลายด้านดีไซน์ที่โดดเด่น อีกทั้งอุปกรณ์เหล่านั้นยังต้องสามารถเพิ่มสมรรถนะการขับขี่และช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่อีกด้วย และในปี 2554 นี้ บริษัทจึงส่งผลิตภัณฑ์ล้อแม็กใหม่ล่าสุดภายใต้รหัส “โปรเจค ดี วัน อาร์ อาร์ (Project D1RR Series)” รุ่นออกสู่ตลาดคือ Project D1RR; Raiden Project D: Spec B และ Project D: Spec C เพื่อรองรับความต้องการของรถสไตล์เรซซิ่ง (Racing style) และรถยนต์ประเภทคอมแพกต์ (Compact car)

ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเน้นจุดขายด้านดีไซน์ และมีน้ำหนักเบา เพราะปรกติล้อแม็กทั่วไปที่มีขนาดวงล้อ 17 นิ้วจะมีน้ำหนัก 7-8 กิโลกรัม ในขณะที่ล้อรุ่นใหม่นี้จะมีน้ำหนักเพียง 6.65 กิโลกรัม ส่วนล้อแม็กขนาดวงล้อ 18 นิ้วทั่วไปจะมีน้ำหนักถึง 8-9 กิโลกรัม แต่สำหรับล้อรุ่นใหม่ของไรเดนท์ จะมีน้ำหนักเพียง 7.5 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งล้อแม็กขนาด 18 นิ้วเป็นขนาดที่ได้รับความนิยมในรถยนต์รุ่น 1800 ซีซี. โดยคุณสมบัติของล้อที่มีน้ำหนักเบาจะส่งผลให้รถยนต์วิ่งได้เร็ว มีความคล่องตัวสูงในขณะเลี้ยว ลดภาระของเครื่องยนต์ลง ประหยัดน้ำมัน อีกทั้งยังช่วยลดภาระของช่วงล่างและระบบขับเคลื่อนให้มีอายุยืนยาวยิ่งขึ้นด้วย

สำหรับกลยุทธ์การตลาดในปีนี้ เลนโซ่ ตั้งงบประมาณไว้กว่า 50 ล้านบาท เพื่อสร้างกิจกรรมสื่อสารการตลาดให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคทั้งรูปแบบ Below the Line และ Above the Line เน้นการทำสื่อประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้จุดขายในด้านคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และมุ่งสร้างการจดจำแก่กลุ่มเป้าหมาย ผ่านกิจกรรมการตลาดต่างๆ อาทิ การออกบูท ประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ การเข้าร่วมสนับสนุนกิจกรรม Motor Sport รวมถึงการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อวิทยุ สื่อโทรทัศน์ โดยล่าสุดได้เปิดตัวโฆษณาชุด “True to yourself”

นอกจากนี้บริษัทฯ ได้ขยายช่องทางการสื่อสารการตลาดรูปแบบใหม่ผ่านโซเชียลมีเดีย (Social media) เช่น facebook, twitter และยังสามารถรับชมภาพยนตร์ของทางบริษัทได้ที่ Youtube อีกด้วย ซึ่งช่องทางดังกล่าวจะสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่มากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการสื่อสารรูปแบบใหม่ที่ได้รับการยอมรับและกำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน

สำหรับสื่อออนไลน์ประเภทโซเชียลมีเดียนั้น เป็นช่องทางสำคัญในการทำตลาดล้อแม็กในปัจจุบัน โดยวัดได้จากบรรดาเว็บไซต์ ทั้ง facebook และ twitter ของบรรดาร้านจำหน่ายล้อแม็กที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และเป็นช่องทางที่ผู้บริโภคเข้าถึงเพื่อหาข้อมูลด้านผลิตภัณฑ์ได้ง่าย รวมถึงต้นทุนการทำตลาดที่ต่ำกว่าการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งล้อแม็กนำเข้าราคาถูกจากประเทศจีน คู่แข่งสำคัญในตลาดของเลนโซ่ วีล นั่นเอง