หลังจากจุดสูงสุดของการจัดอันดับธุรกิจโรงแรม คือโรงแรม 5 ดาว หลายแห่งพยายามผลักดันตัวเองให้เป็นโรงแรม 5 ดาวให้ได้ เพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการให้มากที่สุด จนทำให้เกิดวิกฤต 5 ดาวเกลื่อนเมือง ส่งผลให้โรงแรมเปิดใหม่หลายแห่งต้องกระเถิบตัวเองเพื่อยกระดับให้แตกต่าง

จนทำให้คำว่า “โรงแรม 6 ดาว” เกิดขึ้น แต่ในมุมมองของ ประกิต ชินอมรพงษ์ นายกสมาคมโรงแรมไทย กลับมองว่าทั่วโลกและไทยไม่มีโรงแรม 6 ดาว มีแต่ที่พูดกันไปเองว่าเป็นโรงแรม 6 ดาว เพราะลงทุนไปสูง แต่บริการใช้ไม่ได้ก็มี อย่างตะวันออกกลางเขาบอกว่าเป็น 7 ดาวด้วยซ้ำ เพราะเขาลงทุนสูงมาก พรมก็อย่างหนา ใช้ผ้าใหม่ในการตกแต่ง

“การจะแบ่งว่าเขาเป็นโรงแรมระดับใด ต้องดูที่ข้าวของเครื่องใช้ และการบริหารงานบริการอันนี้สำคัญมาก อย่างการบุกกิ้งห้องพัก การบริการ สิ่งเหล่านี้เราใช้ในการประเมินว่าเขาควรเป็นกี่ดาว โรงแรม 5 ดาวของเราก็ถือว่าตกแต่งใช้ได้แล้ว ยุโรปยังต้องมาดูแบบของเราเลย เขาสู้เราไม่ได้”

ทั้งนี้ โรงแรมเปิดใหม่ “เดอะ เรสซิเดนเซส แอท เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ” ที่บอกว่าตัวเองเป็น 6 ดาว ประกิต มองว่า เขาสร้างใหม่ทุกอย่างก็ต้องดูใหม่ แต่ต้องมาดูกันที่การบริการอีกทีหนึ่ง

ขณะที่โรงแรมน้องใหม่ อย่าง “เดอะ เรสซิเดนเซส แอท เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ” ของเครือ “สตาร์วูด โฮเทลส์ แอนด์ รีสอร์ทส์” มองว่าตัวเองคือโรงแรม 6 ดาวจริงๆ โดยจุดที่ให้ “เซนต์ รีจิส” แตกต่างจากโรงแรม 5 ดาวทั่วไป คือ ห้องพักที่ใหญ่กว่า ของใช้ในห้องพักที่ดีกว่า และยังมีบัตเลอร์ที่จะเข้าไปดูแลความต้องการของลูกค้า และช่วยทำอาหารให้กับลูกค้าทุกชั้นซึ่งตรงนี้ถือเป็นสิ่งที่สร้างความเป็นส่วนตัวให้กับลูกค้าอย่างมาก และเป็นสิ่งที่โรงแรมอื่นยังไม่มี

เมื่อห้องพักมีความแตกต่างแล้วราคาก็ต้องแตกต่างไปด้วย ซึ่ง “เซนต์ รีจิส” วางราคาห้องพัก 6 ดาวของตัวเองเริ่มต้นที่ 7,000 บาท ซึ่งแพงกว่าโรงแรม 5 ดาว 20-30%

โดยกลุ่มเป้าหมายที่ “เซนต์ รีจิส” มองว่าจะเป็นกลุ่มต่างชาติก่อน เนื่องจากแบรนด์นี้เป็นแบรนด์ที่ต่างชาติรู้จักเป็นอย่างดี ทำให้การทำตลาดไม่ใช่เรื่องยาก ทั้งนี้ “เซนต์ รีจิส” จะแบ่งชั้น 24-26 เป็นเรสซิเดนซ์มีทั้งหมด 53 ห้อง ส่วนชั้น 25-1 จะเป็นโรงแรมมี 227 ห้อง

“เรสซิเดนซ์ของเราก็จะได้รับการบริการเหมือนกับโรงแรม 6 ดาวเช่นกัน” วิลเลี่ยม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าว

สำหรับรายได้ของกลุ่มฯ จะมาจากธุรกิจโรงแรม 40% ธุรกิจอาหาร 60% โดยหลังจากเปิด “เซนต์ รีจิส” ในวันที่ 1 เมษายนแล้วจะทำให้สัดส่วนรายได้ของโรงแรมเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังมองว่าปีนี้รายได้ของธุรกิจโรงแรมน่าจะดีกว่าปีที่ผ่านมาเนื่องจากสถานการณ์ดีขึ้น

“ไฮเน็คกี้” มองการแข่งขันของธุรกิจโรงแรม 6 ดาวว่าน้อยมาก เพราะขณะนี้ทุกคนยังตามหลังกลุ่มฯ อยู่ นอกจากนี้ การเปิดโรงแรม 6 ดาวในบางประเทศเขาไม่ได้ให้เปิดง่ายๆ เขาจำกัดจำนวนโรงแรม ดังนั้น การแข่งขันกับกลุ่มฯ จึงทำได้ยาก

แม้ว่านายกสมาคมโรงแรมไทยจะชี้ชัดแล้วว่าโรงแรม 6 ดาวไม่มีในไทยและในโลก แต่จากการสำรวจของ ผู้จัดการ 360 องศา รายสัปดาห์ นอกจาก “เซนต์ รีจิส” แล้ว โรงแรมหรือเชนโรงแรมไทยที่วางตัวเองเป็น 6 ดาวก็มีอยู่ไม่น้อย

อย่าง บริษัท ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้บริหารแบรนด์และโรงแรมในเครือดุสิตธานี ที่ผ่านมาก็มีการจะเพิ่มแบรนด์ “ดุสิต เทวารัณย์” ซึ่งวางไว้เป็นโรงแรมมาตรฐาน 6 ดาว โดยไปลงทุนในดูไบ

หรือ “สันติบุรี กอล์ฟ รีสอร์ท แอนด์ สปา” ธุรกิจของกลุ่ม “บุญรอดบริวเวอรี่” ก็เปิดโรงแรมในสไตล์รีสอร์ตหรูระดับ 6 ดาว บนพื้นที่ประมาณ 100 ไร่ ในโครงการสนามกอล์ฟสันติบุรี สมุย ที่มีเนื้อที่รวม 2,500 ไร่ อีกหนึ่งโครงการ

โดยจะทำเป็นรีสอร์ตหรู ภายใต้ชื่อ “สันติบุรี เรสซิเด้นท์” จำนวน 14-15 หลัง แต่ละหลังมีขนาด 300 ตร.ม. ราคาห้องพักคืนละ 40,000 บาท โดยจะดึงมือบริหารระดับโลกมาร่วม

ด้าน บริษัท ไมด้า แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) ได้ลงทุนใน บริษัท ภูเก็ต เพนนินซูลา จำกัด ประกอบกิจการโรงแรม 5-6 ดาว ซึ่งต่อไปจะเปลี่ยนชื่อเป็น “โรงแรมไฮแอท ภูเก็ต” ตั้งอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต บริเวณชายหาดไนยาง พื้นที่รวม 9 ไร่ จำนวนห้องพัก 161 ห้อง

รวมทั้งลงทุนในบริษัท ฮอทสปริง จำกัด ประกอบกิจการโรงแรม 6 ดาว ชื่อ “พาร์ค ไฮแอท เชียงใหม่” ตั้งอยู่ที่ กิ่งอำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ พื้นที่รวม 33 ไร่ จำนวนห้องพัก 125 Park suits และ 20 วิลล่า ภายใต้การบริหารของ Hyatt

หลักเกณฑ์โรงแรม 6 ดาว

ปัจจุบันโรงแรมทั่วโลกต่างแข่งขันกันพัฒนาบริการ และสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ProfessionalTravelGuide.com แหล่งข้อมูลด้านการท่องเที่ยวที่ครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุดในโลกอินเทอร์เน็ต จึงตัดสินใจเขย่าอุตสาหกรรมการโรงแรมด้วยการจัดอันดับ “โรงแรม 6 ดาว” เป็นครั้งแรก

โดย ProfessionalTravelGuide.com เจาะลึกเข้าไปยังฐานข้อมูลของโรงแรมอย่างละเอียด ก่อนที่จะทำการคัดเลือกโรงแรมที่จะได้รับ 6 ดาว

ทั้งนี้ ตัวอย่างบรรทัดฐานที่จะนำมาพิจารณาประกอบด้วย 1.สัดส่วนขั้นต่ำระหว่างพนักงานโรงแรมต่อการบริการแขก 2.บริการต้องไม่มีข้อจำกัดและไม่ก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวของแขก 3.ความเป็นส่วนตัวของแขกในพื้นที่สาธารณะ ในห้องอาหาร ฯลฯ 4.สถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของโรงแรม และ 5.สถานที่ตั้งของโรงแรมที่เป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น