ค่ายรถยนต์ประชันโฉมพรีเซนเตอร์ เฉพาะตลาดรถยนต์นั่ง มาสด้า-มิตซูบิชิ ดึงดาราคนดังสร้างภาพลักษณ์สะท้อนบุคลิกรถยนต์ หวังเจาะถึงกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะมาสด้าได้ทีเซกเมนต์รถยนต์นั่งซับคอมแพกต์ติดลมบนฉิว เปิดเกมฉีกตลาดซีดาน และแฮตช์แบ็ก ส่ง “ณเดชน์” ควง “เป้ อารักษ์” เป็นพรีเซนเตอร์มาสด้า ด้านมิตซูบิชิ ดึง “อนันดา” เป็นพรีเซนเตอร์คนแรกของแลนเซอร์ อีเอ็กซ์ ในเมืองไทย ช่วยสะท้อนตัวตนที่แท้จริงของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย

กลยุทธ์การตลาดของบรรดาบริษัทรถยนต์ ที่ใช้ศิลปินดารานักร้อง นักแสดงที่มีชื่อเสียง เป็นพรีเซนเตอร์กำลังร้อนแรงอย่างมาก หลังการใช้ “เป้ อารักษ์” มาเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับมาสด้า 2 ประสบความสำเร็จอย่างมาก ตลอดปี 2553 ที่ผ่านมา จนทำให้มาสด้าเซลส์ ประเทศไทย ต่อสัญญาเป็นพรีเซนเตอร์อีก 1 ปี และในเวลาเดียวกันก็เดินหมากซ้อน ด้วยการส่งศิลปินดาราน้องใหม่ที่มีกระแสนิยมมากที่สุดในเวลานี้อย่าง “ณเดชน์ คูกิมิยะ” มาเป็นพรีเซนเตอร์รถยนต์นั่งมาสด้า 2 รุ่นซีดาน 4 ประตู

มร.โชอิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) บอกว่า การเปิดตัวรถยนต์มาสด้า 2 พร้อมกับพรีเซนเตอร์คือ “เป้-อารักษ์ อมรศุภศิริ” ส่งผลให้รถยนต์มาสด้า 2 ได้รับความนิยมอย่างสูงและติดตลาดภายในเวลาอันรวดเร็ว โดยเฉพาะการใช้กลยุทธ์เรื่องสีในการเปิดตัว โดยใช้สีเขียวสร้างความแตกต่างที่โดดเด่นให้แก่ตลาดรถในเมืองไทย สะท้อนความ “ซูม-ซูม” ในแบบของมาสด้าอย่างชัดเจน และเป็นผู้นำรถยนต์รายแรกที่กล้านำเสนอสิ่งที่แตกต่างแก่ผู้บริโภครถยนต์ชาวไทย

ผนวกกับพรีเซนเตอร์ที่มีบุคลิกภาพเข้ากับรถมาสด้า 2 และ DNA ของแบรนด์ได้อย่างลงตัว ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์มาสด้า 2 ในปีที่ผ่านมาพุ่งเกือบ 23,000 คัน พร้อมกวาดยอดขายรวมทุกรุ่นทะลุ 35,000 คันในปี 2553 ปัจจัยสำคัญหลักที่ทำให้มาสด้า 2 ได้ยอดขายอย่างท่วมท้น นั่นคือสมรรถนะที่โดดเด่นตามที่ตัวสินค้าได้สื่อสาร

ด้าน สุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด บอกว่า จากผลการวิจัย-สำรวจตลาดและความต้องการของลูกค้าหลังจากที่เปิดตัวรถมาสด้า 2 ไปได้เกือบ 1 ปี ทำให้ทราบว่า ณ วันนี้ ผู้บริโภคมีการรับรู้ในรถมาสด้า 2 และในแบรนด์มาสด้าเป็นอย่างดีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเล็งเห็นถึงโอกาสเพิ่มความต้องการซื้อหรือดีมานด์ในตลาดได้ยิ่งขึ้นอีก ด้วยการขยายกลุ่มเป้าหมายให้กว้างขึ้นกว่าเดิมจากกลุ่มผู้ที่ถูกใจในรูปลักษณ์สปอร์ตทันสมัย ขยายออกไปสู่กลุ่มผู้ที่ถูกใจในความสามารถของรถ ผ่านการสร้างการรับรู้ถึงรายละเอียด คุณสมบัติ และฟังก์ชั่นต่างๆ ของรถ กล่าวอย่างง่ายคือ ทั้งสวย ทั้งฟังก์ชั่นครบ

การต่อยอดให้ไปถึงจุดนั้นจึงถูกนำเสนอผ่านพรีเซนเตอร์หนุ่ม “ณเดชน์ คูกิมิยะ” สุดฮอตคนใหม่ที่ก้าวขึ้นสู่แถวหน้าของวงการบันเทิงอย่างรวดเร็ว ซึ่งสามารถเป็นตัวแทนของลูกค้ามาสด้า 2 ซีดาน ซึ่งก็คือกลุ่มคนรุ่นใหม่ในยุคดิจิตอล เอจ (Digital Age) ได้เป็นอย่างดี ณเดชน์จะถูกเปิดตัวพร้อมคอนเซ็ปต์ใหม่ “ชีวิต...ที่ควบคุมได้ สไตล์ซูม-ซูม (Zoom-Zoom Life in Control)” โดยมีข้อความหลักในการสื่อสารว่า “หรูมีสไตล์... ดีไซน์ชีวิตได้อย่างใจ” กลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่วางไว้คือ กลุ่มลูกค้าที่โตขึ้นกว่าแฮตช์แบ็ก มีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่า แต่ยังเป็นคนหนุ่ม-สาวที่มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่โดดเด่น มีเอกลักษณ์ของตัวเองไม่ตามใคร และกล้าเปิดเผยความเป็นตัวตนของตัวเอง เป็นกลุ่มเริ่มต้นทำงานและมีประสบการณ์มาบ้างหลายปี และมีไฟ มีพลังที่จะสร้างความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน พร้อมเริ่มต้นสร้างชีวิตครอบครัว

ในการสื่อสารให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างรวดเร็วชัดเจน เกิดขึ้นด้วยการใช้ “ณเดชน์ คูกิมิยะ” ซึ่งเป็นลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น และเป็นศิลปินนักแสดงหนุ่มที่กำลังฮอตฮิตที่สุดในยุคนี้มาเป็นพรีเซนเตอร์ ซึ่ง ณเดชน์ มีบุคลิกและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่สามารถสะท้อนตัวตนของความเป็นมาสด้า 2 ซีดาน ะ"่มเป้าหมายอย่างรวดเร็วชัดเจน ย่างชัดเจน ผนวกกับได้อย่างชัดเจน และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ภายในเวลาอันอย่างรวดเร็ว ตรงกับคอนเซ็ปต์ใหม่ “ชีวิต...ที่ควบคุมได้ สไตล์ซูม-ซูม (Zoom-Zoom Life in Control)”

ส่วนรถยนต์มาสด้า 2 รุ่นแฮตช์แบ็ก 5 ประตู การสื่อสารการตลาดยังคงอยู่ภายใต้คอนเซ็ปต์ “เริ่มต้นชีวิต...สไตล์ซูม-ซูม (Zoom-Zoom Life Begins)” โดยข้อความหลักในการสื่อสาร คือ “สตาร์ทชีวิตท้าทาย...ไม่ใช่เด็กๆ” ซึ่งมาสด้าวางกลุ่มเป้าหมายลูกค้าที่หลงใหลความเป็นสปอร์ต เป็นกลุ่มคนหนุ่ม-สาวที่มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่โดดเด่น มีเอกลักษณ์ของตัวเอง และไม่ตามใคร เป็นกลุ่มนิสิต-นักศึกษา และผู้ที่เพิ่งเริ่มชีวิตการทำงาน โดยได้ต่อสัญญากับพรีเซนเตอร์ “เป้ อารักษ์” ซึ่งเป็นศิลปินนักร้อง-นักดนตรี และนักแสดงหนุ่มอีกคนที่กระแสความฮอตไม่มีตกในยุคนี้ และถือว่าเป็นพรีเซนเตอร์คนแรกของมาสด้าในประเทศไทยอีกด้วย เป้ อารักษ์ มีบุคลิกภาพที่สะท้อนแบรนด์ DNA ของมาสด้าได้อย่างดี และบอกความเป็นตัวตนของผู้ใช้มาสด้า 2 รุ่นแฮตช์แบ็ก 5 ประตูได้อย่างชัดเจน

ขณะที่ค่ายมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย นั้นก็คว้าเอา “อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม” ดารานักแสดงที่มีชื่อเสียงในอีกระดับหนึ่ง มาเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับรถยนต์มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ มร.โคจิ นากาฮาร่า กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด บอกว่า “อนันดา” ถือเป็นพรีเซนเตอร์คนแรกของรถรุ่นดังกล่าวในเมืองไทย มิตซูบิชิฯ เชื่อว่าพรีเซนเตอร์จะสามารถสะท้อนตัวตน และความมีเสน่ห์ที่เร้าใจของแลนเซอร์ อีเอ็กซ์ ใหม่ ได้ชัดเจนและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งตลอดระยะเวลา 1 ปีของการเป็นพรีเซนเตอร์นั้น นอกเหนือจากการเป็นพรีเซนเตอร์สำหรับภาพยนตร์โฆษณาและสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ แล้ว อนันดาจะได้ร่วมทำกิจกรรมของทางบริษัทฯ ในโอกาสต่างๆ อีกด้วย

ก่อนหน้านี้การปรับโฉมแบบไมเนอร์เชนจ์ของปิกอัพมิตซูบิชิ ไทรทัน ทางมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ก็เลือกใช้พรีเซนเตอร์ในการสื่อสารถึงกลุ่มเป้าหมายของตนเอง โดยเลือก “ตูน บอดี้สแลม” ในการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์

ทั้งนี้ “อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม” จะเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับมิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ ที่มีการปรับแต่งใหม่ ที่เน้นอุปกรณ์อัจฉริยะเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่นำสมัยของลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการติดตั้งระบบกุญแจอัจฉริยะ KOS ที่ช่วยให้สามารถล็อกหรือปลดล็อก ประตู และฝากระโปรงท้าย รวมไปถึงสตาร์ทหรือดับเครื่องยนต์ได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องใช้กุญแจ พร้อมระบบป้องกันการโจรกรรม “อิมโมบิไลเซอร์”

รวมถึงการเพิ่มอุปกรณ์และการตกแต่งภายในเน้นความสะดวกสบายในการใช้งาน และประโยชน์ใช้สอยมากยิ่งขึ้น เช่น มาตรวัดแบบ Hi-Contrast กระจกมองข้างที่พับและปรับได้ด้วยไฟฟ้า กระจกไฟฟ้าแบบอัตโนมัติพร้อมระบบความปลอดภัย และระบบไฟส่องสว่างอัตโนมัติเมื่อปลดล็อก รวมไปถึงระบบไฟนำทางหลังดับเครื่อง ซึ่งติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่น ในขณะที่พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่นพร้อมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น 1.8 GLS Ltd. เป็นต้นไป ส่วนในรุ่น GT นอกจากจะมาพร้อมจอภาพระบบสัมผัสแล้วยังมีการติดตั้งระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย และระบบนำทางอัตโนมัติอีกด้วย

ปัจจุบันกลยุทธ์การใช้ดาราเป็นพรีเซนเตอร์ในตลาดรถยนต์ เริ่มมีความสำคัญมากขึ้น ส่วนหนึ่งอาจเพราะศิลปินดาราเหล่านี้ สามารถสะท้อนภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์ได้ง่าย รวดเร็ว และรุนแรงกว่าการสื่อสารด้วยข้อความการตลาดที่เน้นคุณสมบัติของรถยนต์เพียงอย่างเดียว และคาดว่าในส่วนของมาสด้าเองที่กำลังจะเปิดตัวรถยนต์มาสด้า 3 ใหม่ ก็น่าจะมีการใช้พรีเซนเตอร์ในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายของรถยนต์รุ่นนี้อีกเช่นกัน