|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
สีสันการตลาดสำหรับโอเปอเรเตอร์ เริ่มมีให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ และล่าสุดสองค่ายใหญ่ต่างงัดกลยุทธ์ โดยดีแทคนำมิวสิกมาร์เกตติ้งมาใช้เพื่อเจาะตลาดพื้นที่อีสาน ส่วนเอไอเอสจับมือกับโรงพยาบาลบีเอ็นเอชและไทยประกันชีวิตเปิดบริการ “เสียงแรกแห่งรัก” ครั้งแรกในตลาด
คิงออฟวอยซ์
เป้าหมายดีแทคแฮปปี้
การใช้ดนตรีเป็นสื่อกิจกรรมทางการตลาด หรือ Music Marketing กำลังจะกลายเป็นเครื่องมือการตลาดอันทรงพลังในการแก้เกมการทำตลาดมือถือระบบเติมเงินของแบรนด์ตามอย่างดีแทค ในสถานการณ์ที่ถูกบีบคั้นอย่างรุนแรงรอบด้าน โดยเชื่อว่า การทำตลาดผ่านดนตรีจะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และช่วยเชื่อมผลิตภัณฑ์ดีแทคเข้าถึงตัวลูกค้าแบบอยู่หมัด
จริงอยู่ที่การใช้ดนตรีเป็นสื่อทางการตลาดไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับวงการโทรคมนาคม และก็ไม่ใช่เรื่องใหม่แกะกล่องสำหรับดีแทค เพราะดีแทคเคยใช้ Music Marketing ในการทำแคมเปญมาแล้ว กับซิมพม่า ปรากฏว่าผลตอบรับดีมาก ลูกค้าชื่นชอบอย่างมาก จึงทำให้ดีแทคคิดนำกลยุทธ์ Music Marketing มาใช้กับตลาดมือถือระบบเติมเงินภาคอีสานอีกครั้ง
เหตุที่ดีแทคสนใจตลาดภาคอีสาน เพราะอีสานถือเป็นพื้นที่ใหญ่ หากดูจำนวนประชากรมีอยู่ถึง 21 ล้านคน ในขณะที่มีประชากรผู้ใช้บริการมือถือระบบพรีเพดของดีแทคเพียง 19% อีกทั้งยังเป็นภาคที่มีอัตราการโทร.เฉลี่ยต่ำสุด ย่อมทำให้ดีแทคมีโอกาสที่จะเข้าถึงและสร้างส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นได้อีกมาก
ไม่เพียงแต่ดีแทคเท่านั้นที่มองเห็นโอกาสและต้องการปักธงชัยในพื้นที่นี้ ความใหญ่ของพื้นที่และขนาดประชากร ทำให้ผู้ให้บริการมือถือทุกรายต้องการเข้าไปช่วงชิงตลาดนี้มาเป็นของตนเองให้ได้ทั้งสิ้น
ดร.เกษชญง สกาวรัตนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโส กลุ่มการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คแซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) ยอมรับว่า ตลาดในพื้นที่ภาคอีสานนี้มีพี่เบิ้มอย่างเอไอเอสครองตลาดอย่างแข็งแกร่ง มีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 50-60% โดยมีซิมสวัสดีอีสานเป็นโปรดักส์หลักในการเจาะตลาด และที่ผ่านมามักนิยมใช้สงครามราคาโทร.โปรโมชั่นราคาถูกอัดใส่กันอย่างดุเดือดมาอย่างต่อเนื่อง
แต่มาปีนี้ ดีแทคเริ่มคิดนอกกรอบ เพราะจากข้อมูลการศึกษาพฤติกรรมลูกค้าชาวอีสานที่ดีแทคค้นพบใหม่ ก็คือ ลูกค้ามีความต้องการในสิ่งที่ถูกใจนอกเหนือจากราคาค่าโทร.ที่ถูก เช่น บริการ และกิจกรรมที่สอดรับกับวิถีการดำเนินชีวิต
หากย้อนกลับมาดูพฤติกรรมของชาวอีสาน จะพบว่านิยมความบันเทิง รื่นเริง สม่ำเสมอ ขณะที่พฤติกรรมการโทรศัพท์จะเน้นการโทรม.ากในช่วงเทศกาลและนิยมใช้มือถือเป็นสื่อในการโทร.หาคนรัก ทั้งคนที่บ้านและคู่รัก
เพราะฉะนั้น ดีแทคจึงจับพฤติกรรมดังกล่าว มาปรับรูปแบบการทำตลาดธุรกิจระบบพรีเพดใหม่ ด้วยการเลือกหยิบดนตรีมาเป็นตัวจัดกิจกรรมทางการตลาดแบบเจาะลึก กับซิมใหม่ที่มีชื่อว่า “ซิมม่วนซื่นทั้งปี”
“แบรนด์แฮปปี้ไม่มีปัญหา แต่ปัญหาอยู่ที่การเข้าถึง เราจึงเลือกที่จะเอาความรื่นเริงผ่านดนตรี และใช้ดารานักร้องที่ชื่นชอบมาเป็นเครื่องมือในการเข้าถึง”
ดร.เกษชญง บอกว่า ถือเป็นการปรับเกมการทำตลาดใหม่ของดีแทค ด้วยการทำตลาดแบบเข้าถึงตัว ซึ่งแม้ว่าจะมีส่วนคล้ายคลึงกับแบรนด์คู่แข่งที่เคยใช้กลยุทธ์ในลักษณะเดียวกัน แต่ดีแทคได้มีการเพิ่มเติมในส่วนบริการเพื่อให้มีจุดเด่นที่เหนือกว่าคู่แข่งขัน นั่นคือ บริการใจดีแปลให้ ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถพูดภาษาอีสาน โดยจะมีล่ามคอยแปลเป็นภาษาอังกฤษให้แก่คู่สนทนา การดาวน์โหลดเพลงราคาพิเศษ และเด็ดสุดกับกิจกรรมทัวร์คอนเสิร์ตในภาคอีสาน 5 แห่ง
“ที่เลือกคอนเสิร์ต เพราะพฤติกรรมคนอีสานชื่นชอบความรื่นเริง และการจัดคอนเสิร์ตครั้งหนึ่ง มีคนดูเป็นหมื่น อย่างน้อยย่อมทำให้เกิดการบอกต่อปากต่อปาก และคิดว่าจะทำให้เราเข้าถึงลูกค้าได้ด้วย”
โปรโมชั่นของซิมม่วนซื่นทั้งปี จะให้สิทธิ์ลูกค้าโทร.หากันเมื่อใดก็ได้ อัตราค่าโทร.นาทีละ 50 สตางค์ ระหว่างตี 5-5 โมงเย็น เมื่อโทร.หาเบอร์ดีแทคที่เปิดในภาคอีสานด้วยกัน ทุกครั้งที่โทร.ออกหรือเติมเงิน จะได้รับการใช้งานเพิ่มทันที 1,000 ชั่วโมง
ทั้งยังมอบสิทธิพิเศษโทร.ฟรี 5 เทศกาลวันหยุด เทศกาลละ 100 นาที ใช้ได้นาน 3 วัน ในเบอร์ดีแทค ตลอด 24 ชั่วโมง ได้แก่ วันสงกรานต์, วันแรงงาน, วันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา, วันแม่ และวันพ่อ
สำหรับเป้าหมายการรุกตลาดภาคอีสาน ด้วยการใช้ซิมม่วนซื่นทั้งปีรุกตลาดอีสานในครั้งนี้ ดีแทคตั้งเป้าหมายที่จะได้ลูกค้าใหม่ 20% จากการมีลูกค้าซื้อซิม 70,000 ซิมต่อเดือน เป็น 90,000 ซิมต่อเดือน และมีส่วนแบ่งการตลาดภาคนี้ประมาณ 25% จากที่ปัจจุบันดีแทคมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพียง 19%
งานนี้ต้องติดตามความเคลื่อนไหวของ “ซิมม่วนซื่นทั้งปี” ต่อไปว่าจะโดนใจคนภาคอีสานมากน้อยเพียงไร เพราะหากกลยุทธ์นี้โดนใจลูกค้า ดีแทคมีแผนจะบุกตลาดพรีเพดในภาคอื่นๆ ภายใต้แนวคิดของซิมม่วนซื่นทั้งปี เป็นพื้นฐานในการสร้างบริการและเข้าถึงลูกค้าในภูมิภาคอื่นๆ ต่อไป
ไม่เท่านั้น ยังถือเป็นก้าวแรกที่จะตอบโจทย์การนำแฮปปี้ขึ้นเป็น King of Voice ในตลาดมือถือแบบเติมเงิน ที่ดีแทคเคยประกาศเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาในเร็ววันอีกด้วย
|
|
|
|
|