การประกาศแผนเดินหน้ารุกตลาดเต็มสูบของไทยพาณิชย์อย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อขยับขึ้นเป็น 1 ใน 3 ของผู้นำตลาดสินเชื่อเอสเอ็มอีให้ได้ภายใน 3-5 ปี มีส่วนทำให้สมรภูมิการแข่งขันในตลาดปีนี้ร้อนแรงขึ้นไปอีก เห็นได้จากแคมเปญผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัว ซึ่งสะท้อนว่าไทยพาณิชย์ยังคงบุกหนักขึ้นและแรงขึ้นเพื่อเร่งขยายกลุ่มธุรกิจสินเชื่อเอสเอ็มอีให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง

หลังจากไทยพาณิชย์ได้ปรับโครงสร้างการบริหารของกลุ่มในช่วงกลางปีที่แล้ว ทำให้ธุรกิจเอสเอ็มอีมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2553 มียอดสินเชื่อรวม 157,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25,000 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 19% จากปี 2552 ที่มียอดสินเชื่อคงค้าง 132,000 ล้านบาท โดยพอร์ตลูกค้าเอสเอ็มอีขนาดย่อม (Small Business) เป็นกลุ่มที่มีการเติบโตมากที่สุด และมีรายได้ค่าธรรมเนียมเติบโตขึ้น 51% ปัจจุบันสินเชื่อเอสเอ็มอีมีสัดส่วนคิดเป็น 15% ของพอร์ตสินเชื่อรวมของธนาคาร มีสัดส่วนหนี้เสีย 1.8% โดยจะรักษาระดับไม่ให้เกินกว่า 2%

ศิริชัย สมบัติศิริ รองผู้จัดการใหญ่ กลุ่มลูกค้าธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า “ปีนี้การแข่งขันในตลาดจะรุนแรงมากขึ้น เพราะคนที่เป็นแชมป์ก็ต้องรักษาแชมป์ไว้ให้ได้ ปัจจุบันไทยพาณิชย์ยังมีมาร์เก็ตแชร์ในตลาดเอสเอ็มอีอยู่น้อย อยู่ในอันดับ 5 ในขณะที่สินเชื่อเอสเอ็มอีทั้งตลาดมีมูลค่ากว่า 1.4 ล้านล้านบาท หมายความว่าปลายังมีให้จับอีกเยอะ นั่นคือยังมีโอกาสที่ธนาคารจะโตในตลาดนี้ได้อีกมาก ภายใน 2 ปี เราตั้งเป้าจะโตให้ได้ถึง 300,000 ล้านบาท”

ศิริชัยกล่าวว่า จากกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ที่ธนาคารเน้นหนักในปีที่ผ่านมา โดยมีจุดเด่นทำให้ธนาคารได้ฐานลูกค้าใหม่จำนวนมากที่รีไฟแนนซ์มาจากที่อื่นกว่า 40% ของพอร์ต และคาดว่าปีนี้จะเพิ่มเป็น 60% ของพอร์ต โดยมาจากการออกแคมเปญที่ดึงดูดใจตลอดทั้งปี แผนของไทยพาณิชย์ในธุรกิจเอสเอ็มอีจะไม่เน้นการเจาะกลุ่มธุรกิจใดๆ เป็นพิเศษ แต่จะเน้นที่ตัวผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมที่แตกต่างเป็นหลัก ปีนี้จะมีการเปิดตัวประมาณ 4 ผลิตภัณฑ์ มีแคมเปญการตลาดตลอดทั้งปี เช่น ชิงโชคทุกไตรมาส ของขวัญและบริการพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่ คะแนนพิเศษสำหรับลูกค้าเก่าที่แนะนำลูกค้าใหม่เข้ามา เป็นต้น ปัจจุบันมีฐานลูกค้ารวม 30,000-40,000 ราย โดยเป็นธุรกิจขนาดย่อมมากกว่าขนาดกลาง สำหรับในปีนี้ธนาคารตั้งเป้าสินเชื่อคงค้างของกลุ่มเอสเอ็มอีอยู่ที่ 200,000 ล้านบาท เป็นสินเชื่อปล่อยใหม่ 43,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 27%

สำหรับแคมเปญที่ไทยพาณิชย์ส่งลงมาชิงตลาดเป็นแคมเปญแรกของปีนี้ ได้แก่ “สินเชื่อ SCB กล้าให้” เจาะกลุ่มลูกค้าขนาดย่อมที่มียอดขาย 10-75 ล้านบาทต่อปี โดยให้วงเงินสินเชื่อ 2 เท่าของมูลค่าหลักประกัน ให้ส่วนลดดอกเบี้ยสูงสุด 0.50% หากลูกค้าผ่อนชำระตรงตามเงื่อนไข และกำหนดระยะเวลาผ่อนชำระนานสูงสุด 7 ปี ลดความกังวลเรื่องวงเงินที่ไม่เพียงพอ ลดภาระเรื่องค่าธรรมเนียม และระยะเวลาในการผ่อนชำระ และ “สินเชื่อ SCB ก้าวไกล” เจาะกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอีขนาดกลางที่มียอดขาย 75-500 ล้านบาทต่อปี ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อกลุ่มนี้ 5,000 ล้านบาท โดยให้วงเงินสินเชื่อสูงสุดถึง 300 ล้านบาท เลือกระยะเวลาผ่อนชำระได้สูงสุด 10 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่หรือลอยตัว ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อกลุ่มนี้ 10,000 ล้านบาท ทั้งนี้ธนาคารยังเน้นการสื่อสารแบบแมสผ่านโฆษณาทางโทรทัศน์เช่นเดิม ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับที่ดี โดยใช้งบการตลาด 30-40 ล้านบาทต่อแคมเปญ และในปีนี้มีแผนจะเพิ่มสำนักงานธุรกิจขนาดย่อม เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าครอบคลุมมากขึ้น จาก 51 แห่งเป็น 75 แห่งทั่วประเทศ