Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์24 กุมภาพันธ์ 2554
วี-คูลรุกดับเบิลแบรนด์ ท้า 3 ปีชิงเบอร์ 1 ฟิล์มฯรถยนต์             
 


   
search resources

Automotive
วี-คูล คอร์ปอเรชั่น, บจก.




ตลาดฟิล์มติดรถยนต์ปะทุตามการเติบโตของตลาดรถยนต์ วี-คูล พลิกเกมรุกเปิดแบรนด์ที่สอง พร้อมบริษัทใหม่ เจาะกลุ่ม Mass Premium ใจเด็ดประกาศโค่นแชมป์ฟิล์มจากลามิน่าในอีก 3 ปี ขณะที่ปัจจุบันครองส่วนแบ่งตลาด 10%

ทั้งนี้ ค่ายฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์วี-คูล เพิ่งสรุปยอดขายในปี 2553 ที่ผ่านมาว่า มีอัตราการเติบโตจากปี 2552 ถึง 50% ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของตลาดรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง และในปีนี้ วี-คูล ประเมินว่า ตลาดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ก็น่าจะเติบโตไปในทิศทางเดียวกันกับ ตลาดรถยนต์เมืองไทยด้วยเช่นกัน โดยจากตัวเลขที่ประเมินกันน่าจะสูงกว่า 800,000 คัน

แผนการรุกตลาด และการตั้งเป้าจะครองตำแหน่งผู้นำตลาดฟิล์มกรองแสงในเมืองไทยนั้น วี-คูลจะใช้กลยุทธ์ที่เรียกว่า แผนปฏิบัติการ “One World” ประกอบด้วย 3 ส่วนหลักคือ Customer Care คือการให้ความรู้และประสบการณ์เชิงลึกในแบรนด์วี-คูลแก่ลูกค้า พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง, Partner Care การรุกตลาดโรงงานประกอบรถยนต์ในประเทศไทยเพื่อให้ตัวแทนจำหน่ายวี-คูลสามารถเพิ่มยอดขายได้เท่าตัว และ Environ Care การสร้างจิตสำนึกด้านการบริหารสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับการบริหารธุรกิจ

กนต์ธร จตุรภัทรพนิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี-คูล คอร์ปอเรชั่น จำกัด บอกว่า แผนการรุกตลาดครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจาก วี-คูล อินเตอร์เนชั่นแนล โดยได้กำหนดแผนดำเนินการสร้างแบรนด์วี-คูลให้เป็นฟิล์มกรองแสงรถยนต์ที่มียอดขายเป็นอันดับหนึ่งในตลาดทั้งในส่วนของยอดขายและส่วนแบ่งการตลาด

นอกจากแบรนด์วี-คูลแล้ว ทางวี-คูล คอร์ปอเรชั่น ยังเดินเกมด้วยการเปิดฟิล์มกรองแสงแบรนด์ที่ 2 ในการทำตลาดแข่งกับผู้นำในปัจจุบันคือ ลามิน่า โดยได้เปิดตัวฟิล์มกรองแสงในชื่อ ฮิวเปอร์ ออปติก พร้อมตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาดำเนินการชื่อ ฮิวเปอร์ ออปติก คอร์ปอเรชั่น จำกัด เพื่อรับผิดชอบฟิล์มกรองแสง ฮิวเปอร์ ออปติก ในประเทศไทย ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หนึ่งในกลุ่ม วี-คูล อินเตอร์เนชั่นแนล สัญชาติเยอรมัน

“ผมมีความเชื่อมั่นมากในด้านการจัดจำหน่ายและการตลาดของ ฮิวเปอร์ ออปติก ในตลาดประเทศไทยมาก เพราะความเป็นเยอรมันที่ได้รับการยอมรับในด้านคุณภาพและความน่าเชื่อถือ ฮิวเปอร์ ออปติก นั้นได้พัฒนาเทคโนโลยีฟิล์มกรองแสงขั้นสูงของตัวเอง ซึ่งใช้นาโนเซรามิกเทคโนโลยี” กนต์ธร กล่าว

โดย ฮิวเปอร์ ออปติก นี้ถือเป็นสินค้าในระดับ “Mass Premium” เพื่อตอบสนองความต้องการของเจ้าของรถระดับกลางขึ้นไป ซึ่งเป็นตลาดที่มีการเติบโตและถือเป็นตลาดใหม่สำหรับบริษัทด้วย

วิลสัน ลิม ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โนโวแม็ททริกซ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของบริษัท วี-คูล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และบริษัท ฮิวเปอร์ ออปติก อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า การแต่งตั้งกลุ่มวี-คูล คอร์ปอเรชั่น เป็นตัวแทนจำหน่ายเพียงผู้เดียวในประเทศไทยเพราะความเชื่อมั่นในประสบการณ์ด้านการตลาดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ของคณะผู้บริหารที่มีร่วม 20 ปี นี่คือเหตุผลหลักของการแต่งตั้งครั้งนี้

“หัวใจหลักของการแนะนำผลิตภัณฑ์ฮิวเปอร์ ออปติกทั่วโลกคือ 3Xs ซึ่งได้แก่ Xcite, Xcell และ Xceed โดยความหมายก็คือเราต้องการสร้างความตื่นเต้นในตลาดด้วยผลิตภัณฑ์สัญชาติเยอรมัน และเราเชื่อมั่นว่าผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นของเราจะสร้างความพึงพอใจเกินความคาดหมายของลูกค้า” กนต์ธร กล่าว

ทั้งนี้ ฮิวเปอร์ ออปติก คอร์ปอเรชั่น จะแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายกว่า 100 รายเพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ และเป็นส่วนหนึ่งของแผนการขึ้นเป็นผู้นำตลาดฟิล์มกรองแสงในประเทศไทยภายใน 3 ปี จากปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของวี-คูลที่จำหน่ายในประเทศไทยนั้น มีเพียง 10% ของผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของวี-คูล   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us