Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์24 กุมภาพันธ์ 2554
นัมเบอร์วันเท่านั้น โจทย์ใหญ่ “มิตซูบิชิ”             
 


   
search resources

มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา, บจก.
Electric




แม้ “มิตซูบิชิ อีเล็คทริค” จะเป็นผู้นำในหลายตลาด ทั้งเครื่องปรับอากาศขนาดเล็ก พัดลม ปั๊มน้ำ แต่นั่นยังไม่เพียงพอ เพราะเป้าหมายสำคัญของมิตซูบิชิ ต้องการได้ส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ในทุกตลาด จึงกลายเป็นโจทย์ใหญ่ที่ท้าทายแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าแดนปลาดิบที่จะต้องก้าวไปให้ได้ในปี 2554

“ปัจจุบันเราเป็นที่ 1 ในตลาดเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ ปั๊มน้ำ และพัดลม ส่วนตลาดตู้เย็นอยู่ในท็อปทรี ขณะที่เครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่มีส่วนแบ่งตลาด 10% จากตลาดรวม 1 ล้านเครื่อง”

อนันต์ บรรเจิดธรรม กรรมการและผู้จัดการทั่วไป ส่วนการตลาดและการขาย บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด บอกถึงความท้าทายของมิตซูบิชิในปีนี้ และเป็นผลให้ปีนี้มิตซูบิชิจึงเน้นให้ความสำคัญกับการทำตลาดเครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่และตู้เย็นเป็นสินค้าหลัก เพื่อเป็นอันดับหนึ่งในตลาดให้ได้

“ที่เครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่ของเราไม่ได้เป็นอันดับ 1 เพราะก่อนหน้านี้เรานำสินค้าเข้ามาทำตลาด ทำให้ราคาสูงเมื่อเทียบกับคู่แข่งประมาณ 2-3 เท่า”

เกมใหม่ของมิตซูบิชิ ในการไดรฟ์ตลาดเครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่ จึงเน้นใช้กลยุทธ์ราคาที่ต่ำลงกว่าเดิม 50% เป็นตัวขับเคลื่อน ซึ่ง อนันต์ บอกว่า เนื่องจากบริษัทได้มีการย้ายฐานการผลิตเครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่มาที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะแทนการนำเข้าเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง และส่งผลให้มิตซูบิชิฯ สามารถปรับลดราคาขายลง 50% และหลังจากเริ่มผลิตสินค้าออกทำตลาดจำนวน 3,000 เครื่อง ยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 200%

นอกจากกลยุทธ์ราคาแล้ว เทคโนโลยีในเครื่องปรับอากาศ เป็นอีกปัจจัยที่มิตซูบิชิ พยายามนำมาใช้เพื่อสร้างความต่างกับคู่แข่ง โดยผสมผสาน 2 เทคโนโลยีประหยัดพลังงานที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของมิตซูบิชิ Super Invertor และ Move Eye เซ็นเซอร์อัจฉริยะ ช่วยให้ประสิทธิภาพในการทำความเย็นสูงถึง 16.13 ประหยัดพลังงานได้มากกว่า




ไม่เพียงเท่านั้นมิตซูบิชิ ยังมีการขยายช่องทางการทำตลาดเครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นในกลุ่มโปรเจกต์อสังหาริมทรัพย์ ร้านสะดวกซื้อ และห้างสรรพสินค้า เนื่องจากเป็นตลาดที่มีการเติบโต โดยล่าสุดได้เจรจากับกลุ่มควอลิตี้เฮ้าส์ที่จะนำเอาเครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่ไปติดตั้งในโครงการ

“ราคาที่ปรับลงมาจนไม่แตกต่างจากคู่แข่ง รวมกับคุณภาพสินค้า และแบรนด์ที่เป็นที่ยอมรับ จะทำให้เราสามารถขึ้นเป็นผู้นำตลาดเครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่ได้ใน 2 ปี”

ส่วนแนวทางการทำตลาดพัดลม จะเน้นทำตลาดแบบเจาะจงสินค้า ในลักษณะของ Select & Focus ด้วยการนำเอากลยุทธ์ คัลเลอร์ มาร์เกตติ้ง และดีไซน์ มาใช้สร้างความแตกต่างจากสินค้าที่มีราคาถูก และเจาะกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่และให้ความสำคัญกับคุณภาพมากกว่าราคา พร้อมชูจุดขายของเทคโนโลยีการออกแบบมอเตอร์ ช่วยระบายความร้อนได้ดีขึ้น

อนันต์ บอกด้วยว่า ในปีนี้ มิตซูบิชิยังได้มีการปรับโฉมชอปใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ Modern & Luxury โดยชอปใหม่จะแบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ ชอปสำหรับเครื่องปรับอากาศ และชอปที่รวมสินค้าภายใต้แบรนด์มิตซูบิชิ ซึ่งปีนี้จะดำเนินการปรับใหม่ทั้งหมด 30 ชอป เพื่อสร้างภาพลักษณ์แบรนด์มิตซูบิชิให้เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคในวงกว้างมากขึ้น   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us