|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
“เบียร์” ได้ชื่อว่าเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดแรกของโลกจากวันแรกที่มนุษย์ยุคเมโสโปเตเมียได้ลิ้มรสขมๆ ของเบียร์ จนปัจจุบันก็เป็นเวลากว่า 6 พันปี ถึงทุกวันนี้มนุษยชาติก็ยังคงติดใจการร่ำรสของเครื่องดื่มสีอำพันชนิดนี้ จึงไม่แปลกที่เบียร์กลายเป็นน้ำเมายอดนิยมที่สุดของโลก
เครื่องดื่มสีเหลืองทองฉาบด้วยละอองฟองละเอียดสีขาวนวล ส่งกลิ่นอ่อนๆ ของมอลต์และดอกฮอปส์มาแตะจมูก ไม่ทันที่ความเย็นจากแก้วจะสัมผัสทั่วทั้งฝ่ามือ ฟองเบียร์ก็ถูกละเลียดพร้อมกับน้ำสีอำพันที่ถูกกระดกเข้าปาก ความซาบซ่า พารสชาติขมปร่าของเบียร์ไหลไปถึงโคนลิ้น
เบียร์ถือเป็นเครื่องดื่มที่มีเสน่ห์เพราะดื่มได้ทุกโอกาส ไม่ว่าจะฉลองแบบเป็นทางการ สังสรรค์แบบกันเองกับเพื่อนฝูง หรือพักผ่อนเบาๆ อยู่กับตัวเอง เบียร์เป็นเครื่องดื่มที่ดื่มได้ง่าย ไม่ต้องการมิกเซอร์เหมือนเหล้า ไม่ต้องมีพิธีรีตองเหมือนไวน์ และเมื่อเทียบปริมาณ เบียร์ก็ไม่แพงเหมือนค็อกเทล
แม้หลายหน่วยงานได้พยายามรณรงค์ให้คนไทยลดละเลิกเหล้า แต่ข้อมูลจากศูนย์วิจัยปัญหาสุราระบุว่า คนไทยดื่มแอลกอฮอล์มากเป็นอันดับ 1 ของภาคพื้นเอเชีย และมากเป็นอันดับ 5 ของโลก ข้อมูลยังพบว่า กว่า 15 ล้านคน หรือ 1 ใน 4 ของคนไทยเป็นคอน้ำเมา โดยในบรรดาน้ำเมาทั้งหมดที่คนไทยดื่มกันเกือบครึ่งก็คือเบียร์
ทั้งที่คนไทยนิยมดื่มเบียร์กันมาก แต่ดูเหมือนส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกับเบียร์เพียงรสชาติเดียว คือรสขมเข้มสไตล์เบียร์ไทย ก่อนที่เราจะมีรสชาตินุ่มๆ เบาๆ ของเบียร์นำเข้าไม่กี่ยี่ห้อเข้ามาเป็นทางเลือก
ไม่เพียงรสขมและรสนุ่ม ในโลกใบนี้ ยังมีเบียร์รสจืด รสหวาน รสอมเปรี้ยวจากผลไม้ รสเผ็ดและฝาดจากสมุนไพร รสหนักแน่น และรส “มัน” ซึ่งมาจากความสมบูรณ์ของทั้งรสและบอดี้ของเบียร์ ไม่เพียงกลิ่นมอลต์และกลิ่นฮอปส์ มนุษยชาติ ยังมีเบียร์กลิ่นมะลิ กลิ่นซีตรัส (citrus) กลิ่นกาแฟ กลิ่นเชอรี่ กลิ่นแอปเปิลเขียว และยังมีกลิ่นผลไม้อีกหลายชนิด ให้ได้ลิ้มลอง...แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะหาชิมได้ง่ายๆ
นี่จึงเป็นที่มาของ “เบียร์วอลต์ (Beer Vault)” เบียร์บาร์แห่งใหม่ในซอยสุขุมวิท 15 ซึ่งเป็นซอยที่เต็มไปด้วยโรงแรม บูติกและร้านอาหารหรูดีไซน์เก๋
เบียร์วอลต์ ถือเป็นส่วนหนึ่งของโรงแรมโฟร์พอยท์ส บาย เชอราตันกรุงเทพฯ สุขุมวิท 15 ซึ่งเพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา อันเป็นโรงแรมภายใต้แบรนด์โฟร์พอยท์ส บาย เชอราตัน (Four Points By Sheraton) แห่งแรกในเมืองไทย ในปีนี้คาดว่าจะเปิดอีก 2 แห่ง ที่สาทรและภูเก็ต
ขณะที่เบียร์เป็นเครื่องดื่มที่ดื่มง่าย คอนเซ็ปต์ของแบรนด์โฟร์พอยท์สฯ เองก็เน้นบริการแบบเรียบง่าย แม้จะวางตัวเองเป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว นี่จึงเป็นเหตุผลที่โรงแรมแห่งนี้เลือกที่จะเปิดเบียร์บาร์ แทนที่จะให้บริการไวน์บาร์เหมือนโรงแรมหรูอื่น โดยเบียร์วอลต์ถือเป็นเบียร์บาร์แห่งแรกของเครือโฟร์พอยท์สฯ ในเอเชีย-แปซิฟิก
จุดขายของเบียร์วอลต์เน้นที่ความหลากหลายด้วยเบียร์จากทั้งในประเทศและนานาชาติ คัดสรรเป็นพิเศษภายใต้โปรแกรม “เบสท์ บริว (Best Brew)” การันตีมาตรฐานด้วยยี่ห้อของเครือสตาร์วู้ด (Starwood Hotels) ซึ่งสรรหารายชื่อพรีเมียมเบียร์มาให้บางส่วน อีกส่วนมาจาก การเสาะหาโดยสต๊าฟของโฟร์พอยท์สฯ กรุงเทพฯ สุขุมวิท 15 เอง
ปัจจุบันเบียร์วอลต์มีเบียร์สด 6 ชนิด และเบียร์ขวดอีก 48 ชนิด รวบรวมมาจาก 13 ประเทศทั่วโลก ได้แก่ ไทย ลาว ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย อังกฤษ ไอร์แลนด์ ฮอลแลนด์ เยอรมนี เบลเยียม อิตาลี และเม็กซิโก เพื่อตอบสนองความต้องการของคอเบียร์ในการแสวงหาเบียร์รสชาติใหม่ หรืออยากทดลอง ดื่มเบียร์ตัวเลือกใหม่ ทั้งนี้แค่ชิมให้ครบทุก ชนิดที่มี มาดื่มทุกวัน ก็ยังกินเวลาตั้งเกือบ 2 เดือน
อีกทั้ง เพื่อรองรับนักดื่มเบียร์บางรายที่ต้องการดื่มเบียร์สากลบางยี่ห้อ แต่หาจากที่อื่นไม่ได้หรือไม่รู้จะหาจากที่ไหน ซึ่งคอเบียร์หลายรายก็มาเจอกับเบียร์ที่ตามหามานาน ได้ที่นี่ ยกตัวอย่างเบียร์รสชาติดียี่ห้อหนึ่งซึ่งผลิตที่ภูเก็ต แต่คนไทยน้อยคนนักที่จะได้ชิมเบียร์ยี่ห้อนี้ เพราะเกือบทั้งหมดถูกส่งไปขายต่างประเทศ ทว่า ต่อไปก็มาหาดื่มได้ ที่เบียร์วอลต์
แม้การดื่มเบียร์จะไม่มีพิธีรีตองหรือขั้นตอนยุ่งยาก แต่หาใช่ว่าจะง่ายขนาดแค่รินใส่แก้วแล้วกระดกเข้าปาก เพราะสุนทรีย์แห่งการดื่มด่ำรสชาติเบียร์ก็ยังมีอยู่บ้าง โดยเฉพาะเบียร์สด นั่นก็คือการละเลียดฟองเบียร์ ดังนั้น การรินเบียร์ใส่แก้วให้ดีจะต้องมีฟอง
คอเบียร์ฝรั่งบางคนถึงกับพูดว่า “การรินเบียร์ใส่แก้ว แบบไม่มีฟอง คือการทำลายคุณค่าอารยธรรมการดื่มเบียร์โดยสิ้นเชิง” ดังนั้น นอกจากความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเบียร์ชนิดต่างๆ พนักงานที่นี่ยังต้องถูกอบรมเรื่องการรินเบียร์ให้ถูกต้อง ซึ่งจะว่าไปแล้วก็ดูคล้ายกับประเพณีปฏิบัติในการรินเบียร์ของเบลเยียม ชนชาติที่คลั่งไคล้การดื่มเบียร์มากที่สุดชาติหนึ่ง ไม่แพ้เยอรมนีและอังกฤษ
เริ่มจากการล้างแก้วด้วยน้ำเย็นจัดเพื่อทำให้แก้วเบียร์ เย็นได้ที่ เปิดฟองเบียร์ที่ไหลออกมาครั้งแรกทิ้งไปก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าทุกหยดของเบียร์สดใหม่ ถือแก้วทำมุมเอียง 45 ํ ขณะที่รินเบียร์ เพื่อให้ได้สัดส่วนที่เหมาะสมระหว่างเบียร์กับฟอง พอถึงส่วนหัวเบียร์ค่อยๆ เอียงแก้วให้ตรงและลดระดับแก้วลงก็จะได้ฟองเบียร์ ปิดการไหลของเบียร์แล้วจึงยกแก้วออกจากหัวฉีดเพื่อกันไม่ให้หยดเบียร์หล่นลงไป จากนั้นจึงค่อยๆ ใช้อุปกรณ์ปาดฟองเบียร์อย่างเบามือ ก่อนเสิร์ฟต้องเช็กดูว่า ความหนาของฟองเบียร์ได้ประมาณ 1 นิ้วหรือไม่
นอกจากเบียร์สด เบียร์ขวดบางชนิดก็มีความพิเศษ เช่น บางชนิดต้องเสิร์ฟพร้อมมะนาวฝานไว้ที่ปากขวด เพื่อทำให้รสชาติและดีกรีของเบียร์เข้มข้นขึ้น ขณะที่เบียร์หลายชนิดจำเป็นต้องใช้แก้ว ดีไซน์เฉพาะของตัวเอง อาทิ แก้วเบียร์ปากกว้างเพื่อที่จมูกจะได้รับกลิ่นหอมของเบียร์อย่างชัดเจน เวลาที่กำลังจิบเบียร์เข้าปาก แก้วลายดอกมะลิสำหรับเบียร์กลิ่นมะลิ หรือแก้วบางใบที่ดีไซน์พิเศษเพื่อความโก้เก๋ยามยกจิบ เป็นต้น
ความละเอียดอ่อนเหล่านี้ล้วนถือเป็นเสน่ห์ในการดื่มเบียร์ให้ได้รสชาติดีที่สุด ...ทว่า ไม่ว่าจะเป็นเบียร์ชนิดไหน เบียร์ไทยหรือเทศ ที่เบียร์วอลต์จะเสิร์ฟพร้อมของแกล้มเป็นแคบหมู ไม่เพียงเพื่อช่วยเพิ่ม อรรถรสให้กับเบียร์ ยังช่วยกระตุ้นยอดขายได้อีกด้วย เพราะแคบหมูจะทำให้กระหายน้ำเร็วขึ้น
อย่างไรก็ดี สุนทรีย์ในการดื่มด่ำเบียร์ให้ได้รสชาติดียิ่งขึ้น บรรยากาศที่ดีก็ถือเป็นอีกองค์ประกอบสำคัญ เหมือนกับคำกล่าวของ โกวเล้งที่ว่า “ข้าพเจ้ามิได้นิยมชมชอบในรสชาติของสุรา แต่ข้าพเจ้าชื่นชอบในบรรยากาศของการร่ำสุรา”
ภายในเบียร์วอลต์เน้นการตกแต่งเรียบง่าย สบายๆ และเป็นกันเอง มีทั้งที่นั่งแบบเคาน์เตอร์บาร์ เก้าอี้กึ่งโซฟา โต๊ะทรงสูง โต๊ะถังเบียร์ด้านนอกร้าน หรือจะนั่งหลบมุมบนชั้นลอย เพิ่มสีสันและลูกเล่นด้วยไฟ LED ที่เปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ เพื่อสร้างบรรยากาศสนุกสนานไปตามจังหวะเพลง
เบียร์วอลต์เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-24.00 น. โดยเวลา 17.30-19.30 น.ของทุกวันจะเป็นช่วง “Happy Hour” ซื้อ 1 แก้ว ฟรี 1 แก้ว (เฉพาะเบียร์ ไวน์ และค็อกเทลในลิสต์ ที่กำหนด) พร้อมของว่างฟรี
ด้วยความหลากหลายของเบียร์ ที่เบียร์วอลต์ ทำให้ “เบียร์หนึ่งแก้ว” ที่คุณสั่งอาจไม่ใช่เบียร์หนึ่งแก้วที่คุณเคยเห็น เคยดื่ม และเคยรู้สึกก็ได้ ...ฉะนั้น นอกจากคติพึงประจำใจ คอเบียร์ที่ว่า “ดื่มอย่างมีสติ” บางทีนักดื่มเบียร์มือใหม่ที่จะมาลองลิ้มเบียร์ที่นี่ อาจต้องเพิ่มข้อคิดอีกข้อคือ “สั่งอย่างมีสติ"
|
|
|
|
|