|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เปิดกลยุทธ์ปลุกปั้น เครื่องดื่มชูกำลังกระทิงแดง ลุยสร้างภาพลักษณ์ขยายคนรุ่นใหม่ ชี้ขนทีม F1 มาร์ค เว็บเบอร์ โปรโมตราชดำเนินพลิกโฉมแบรนด์ทันสมัย เท่ ส่วน ซุปเปอร์ลูกทุ่ง อัดจุดขายฟังก์ชันนัล มัดใจกลุ่มผู้ใช้แรงงาน ระบุตลาดชูกำลังอิ่ม พาเหรดผุดเซกเมนต์เทชันดันตลาดโต ลั่น 5 ปี กระทิงแดง โค่น M-150 รั้งบัลลังก์ผู้นำตลาด
นายสกล นครชัย รองกรรมการผู้จัดการบริหาร บริษัท คิว แอนด์ เอฟ แอดเวอร์ไทซิ่ง จำกัด ที่ปรึกษาด้านการตลาด เปิดเผยถึงกลยุทธ์การสร้างแบรนด์เครื่องดื่มชูกำลังกระทิงแดง ซุปเปอร์ลูกทุ่ง และ เรดดี้ ภายใต้บริษัทเครื่องดื่มกระทิงแดง จำกัด ว่า การทำตลาดเครื่องดื่มชูกำลังกระทิงแดงในขณะนี้ ต้องการสร้างภาพลักษณ์สินค้าให้มีความทันสมัย โดยใช้ความเป็นแบรนด์ระดับโลกของ “เรดบูล” สร้างทัศนคติว่าเป็นเครื่องดื่มที่ให้พลังงานมากกว่าการเป็นเครื่องดื่มสำหรับผู้ใช้แรงงาน ทั้งนี้ เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่เพิ่มขึ้น จากเดิมฐานลูกค้าเป็นกลุ่มผู้ใช้แรงงาน
สำหรับการสร้างแบรนด์ล่าสุด เมื่อปลายปีที่ผ่านมานี้ บริษัทได้ทุ่มงบมากกว่า 10 ล้านบาท นำทีมรถแข่งฟอร์มูล่าวัน RB6 ของ มาร์ค เว็บเบอร์ สุดยอดนักแข่งรถ มาโชว์ความแรงบนเส้นทางถนนราชดำเนินมุ่งสู่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์มีความทันสมัย ดูเท่ ในสายตากลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งนับว่าเป็นการพลิกโฉมแบรนด์กระทิงแดงครั้งใหญ่ จากเดิมถูกมองว่าเป็นเครื่องดื่มสำหรับผู้ใช้แรงงงาน ดังนั้นในปีนี้บริษัทกำลังเตรียมแคมเปญใหญ่อีกครั้ง ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา
“ในช่วงที่ผ่านมาเครื่องดื่มชูกำลังเรดบูล ซึ่งเป็นแบรนด์ระดับโลก ได้มีการสร้างแบรนด์ต่อเนื่องในเอเชีย โดยเฉพาะการเป็นสปอนเซอร์รถแข่งฟอร์มูล่าวันทั้งสนามญี่ปุ่น สิงคโปร์ เกาหลี ซึ่งในขณะนี้เรดบูลก็เป็นผู้นำตลาดเอเชียหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็น จีน เวียดนาม และอินโดนีเซีย และคาดว่าจากการทำตลาดเชิงรุกในประเทศไทย กระทิงแดงก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดในอนาคต”
ก่อนหน้านี้ นายเรืองยศ วิทวัสการเวช ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เครื่องดื่มกระทิงแดง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลังกระทิงแดง กล่าวว่า เป้าหมายในอีก 5 ปีข้างหน้านี้ หรือนับตั้งแต่ 2553-2557 กระทิงแดงต้องการขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดแทนที่ M-150 ซึ่งมีส่วนแบ่ง 55% ด้วยการครองส่วนแบ่งเพิ่มจาก 30% เป็น 50% หลังจากก่อนหน้านี้ กระทิงแดงสูญเสียแชมป์ให้กับ M-150 เมื่อปี 2543 โดยในช่วง 5 ปีนี้ บริษัททุ่มงบ 2,000-2,500 ล้านบาท หรือ 500 ล้านบาทต่อปีในการทำตลาด
***ชูกำลังไทยผุดเซกเมนต์เทชัน**
นายสกล กล่าวว่า สภาพตลาดเครื่องดื่มชูกำลังมูลค่า 1.6 หมื่นล้านบาท เริ่มมีเซกเมนต์เทชันเพิ่มขึ้น หลังจากที่ตลาดเริ่มอิ่มตัวในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นอกจากนี้พบว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคเริ่มมองหาเครื่องดื่มชูกำลังที่มีฟังก์ชันนัลมากขึ้น ดังนั้น บริษัทจึงได้รีลอนช์เครื่องดื่มชูกำลัง ซุปเปอร์ลูกทุ่ง โดยวางตำแหน่งเป็นเครื่องดื่มชูกำลังที่มีฟังก์ชันนัลและราคาที่สอดคล้องกับกำลังการซื้อของกลุ่มเป้าหมายผู้ใช้แรงงาน ซึ่งบริษัทได้สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าโดยมีวิตามินบี 12
ล่าสุดได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา โดยนำ “หม่ำ จ๊กมก” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง ซึ่งในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการปรับเปลี่ยนเนื้อหาโฆษณาใหม่ เนื่องจาก อย.ห้ามใช้ข้อความ “วิตามินบี 12 มีส่วนช่วยบำรุงระบบประสาทและการทำงานของสมอง” ซึ่งบริษัทได้แก้ไขเนื้อหาโฆษณาใหม่แล้ว คาดว่า จะออกอากาศได้ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ นี้
นายสกล กล่าวว่า กลยุทธ์การตลาดเครื่องดื่มชูกำลังสำหรับกระทิงแดง เน้นการสร้างภาพลักษณ์ เพื่อขยายฐานลูกค้าคนรุ่นใหม่ ขณะที่เครื่องดื่มชูกำลังซุปเปอร์ ลูกทุ่ง เน้นสร้างมูลเพิ่มสินค้า หรือฟังก์ชันนัลที่ได้รับจากการดื่ม ส่วนเครื่องดื่มน้องใหม่เรดดี้ ซึ่งวางตำแหน่งเป็นเครื่องดื่มชูกำลังสไตล์เทรนด์ดี้ เนื่องจากนโยบายของบริษัทเครื่องดื่มกระทิงแดง ต้องการสร้างตลาดใหม่ๆ มากกว่าจะรอให้ตลาดเกิด คือ วิชันใหม่ และก้าวใหม่ของเครื่องดื่มชูกำลังกระทิงแดง
|
|
|
|
|