เหมือนอย่างที่เขาพูดกันว่า "NEVER A DULL MOMENT" กับธนาคารกรุงเทพ
ที่เพิ่งจะซาไปกับข่าวลือว่าแบงก์ล้มเมื่อกลางปีนี้เอง
เพียง 3 เดือนให้หลังมีใบปลิวออกมาให้อ่านกันอีกชุดหนึ่ง 3 หน้ากระดาษพิมพ์
พระเอกในงานนี้ก็เป็นชาตรี โสภณพนิช และธนาคารกรุงเทพอีกเช่นเคย
เพียงแต่ลักษณะการเขียนเป็นมวยมากขึ้น
ใบปลิวเริ่มด้วยการอ้างว่าคนเขียนเป็นคนเก่าของแบงก์ และไม่สบายใจที่เห็นธนาคารกรุงเทพโดยชาตรี
โสภณพนิช และพรรคพวกกักตุนเงินตราต่างประเทศในต้นปี 27 แล้วก็เกิดวิกฤตการณ์ในเดือนมิถุนายนอย่างที่รู้กันอยู่แล้ว
การลาออกจากตำแหน่งประธานกรรมการนั้นใบปลิวอ้างว่าเป็นการสละเรือที่ใกล้จะอับปางเพื่อรักษาชีวิต
ส่วนคนที่น่าสงสารที่ใบปลิวพูดถึงคือ "ดร.อำนวย วีรวรรณ และนายชาญชัย
ลี้ถาวร อดีตท่านทั้งสองเป็นข้าราชการมือสะอาดถูกชวนมาเป็นแพะรับบาป"
ใบปลิวก็โจมตีแต่ชาตรี โสภณพนิช ว่าเป็นคนจีนอยู่ซัวเถาหลบหนีเข้าประเทศไทย
ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และว่าชาตรีอย่างสาดเสียเทเสีย
คงเป็นตรงนี้กระมังที่ชาตรีออกมาพูดกับบรรดาผู้สื่อข่าวในงานเลี้ยงพบปะสังสรรค์ในระหว่างโครงการฝึกอบรมสื่อมวลชนของธนาคารกรุงเทพ
อย่างอัดอั้นตันใจว่าตัวเองเกิดที่โรงพยาบาลจุฬาฯ หาใช่ซัวเถาไม่ และหลักฐานการแจ้งเกิดก็ยังคงอยู่ไปดูได้
ยังมีอีกมากที่ใบปลิวนี้พูดถึงพฤติกรรมต่างๆ ของชาตรี โสภณพนิช ที่ฮ่องกงและอีกมาก
ลักษณะการเขียนมีการอ้างอิงตัวบุคคล สถานที่ ตัวเลขอย่างแน่ชัด และผู้เขียนรู้เรื่องภาวการณ์ต่างประเทศได้ดีพอสมควร
แต่ก็นั่นแหละ "ใบปลิว" ก็คือ "ใบปลิว"
ที่น่าสังเกตก็คงจะเป็นว่า "ใบปลิว" นี้คนเขียนดูเหมือนจะเป็นคนที่อย่างน้อยต้องเคยอยู่ฮ่องกงมาก่อน
หรือไม่อีกทีก็ต้องเป็นคนวงในของธนาคารกรุงเทพที่ใกล้ชิดผู้บริหารระดับสูงจริงๆ
ลักษณะของการพิมพ์ใบปลิวจากการสังเกตตัวพิมพ์ ปรากฏว่าใช้ตัวพิมพ์ดีดของโอลิมเปียรุ่น
BT ซึ่งเป็นพิมพ์ดีดอิเล็กทรอนิกส์รุ่นใหม่ (บังเอิญ "ผู้จัดการ"
ก็ใช้รุ่นนี้เหมือนกัน) ซึ่งพิมพ์ดีดพวกนี้เป็นอุปกรณ์ที่สำนักงานหรือห้องเลขาออฟฟิศใหญ่ๆ
ใช้กัน พิมพ์ออกมาชัด ความเข้มของหมึกสม่ำเสมอ และไม่มีตัวผิดเลย ทั้งนี้เพราะพิมพ์เข้าจอได้แล้วแก้ในตัว
ที่น่าคิดก็ตรงที่งานนี้คงจะเป็นงานตามล้างตามเช็ดกันไม่มีวันสิ้นสุด
บางคนบอกว่าวิกฤตการณ์ของธนาคารกรุงเทพเมื่อเดือนมิถุนายน 2527 ที่ผ่านมานี้
"เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ยังต้องมีมาอีกเรื่อยๆ"
ไม่ทราบว่าธนาคารกรุงเทพและชาตรี โสภณพนิช ไปเหยียบเท้าใครเข้า และไปทำความเจ็บแค้นให้ใครกันหนักหนาถึงต้องมี
"แค้นที่ต้องชำระ" กันเรื่อยไป
หรืออาจจะเป็นเพราะความใหญ่ของตัวเองก็เป็นเป้าให้คนจ้องได้ง่ายขึ้นและมากขึ้น
จะอย่างไรก็ตาม "ผู้จัดการ" ก็คิดว่า ใบปลิวที่เราได้รับชุดนี้คงจะไม่ใช่ชุดสุดท้ายแน่ๆ