คณะกรรมการบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค ประกาศแต่งตั้ง จอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ขึ้นเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่แทนทอเร่ จอห์นเซ่น มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2554 เป็นต้นไป

“คณะกรรมการบริษัทฯ มีความยินดีอย่างยิ่งในการแต่งตั้งจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ขึ้นเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ของดีแทค โดยจอนซึ่งมีความรู้และประสบการณ์ การทำงานจากหลายประเทศในเอเชีย จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อดีแทค เรามั่นใจว่าด้วยคุณสมบัติที่เหมาะสม จอนจะสามารถพัฒนาดีแทคให้ประสบความสำเร็จยิ่งขึ้นต่อไป” ซิคเว่ เบรคเก้ รองประธานบริหาร เทเลนอร์ กรุ๊ป และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เทเลนอร์ เอเชีย ระบุ

ปัจจุบัน จอนดำรงตำแหน่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เทเลนอร์ ปากีสถาน หนึ่งในผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ชั้นนำในประเทศปากีสถานซึ่งมีฐานลูกค้ากว่า 25 ล้านคน

จอนมีประสบการณ์การทำงานในอุตสาหกรรมโทร คมนาคมกว่า 20 ปี ทั้งกับบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์และผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ก่อนร่วมงานกับเทเลนอร์ ปากีสถาน จอนดำรงตำแหน่งรองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของบริษัท Maxis Telecommunications ในประเทศมาเลเซีย เคยเป็นรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยีของบริษัทดิจิ ซึ่งเป็น บริษัทในเครือเทเลนอร์ กรุ๊ป ในมาเลเซีย

จอนอายุ 44 ปี สมรสและมีทายาท 2 คน จบการศึกษา ระดับปริญญาตรีสาขาวิศวกรรมไฟฟ้าจากมหาวิทยาลัยมอนทานา ประเทศสหรัฐอเมริกา “ความสำเร็จของดีแทคตลอดหลาย ปีที่ผ่านมา เป็นผลมาจากการเป็นองค์กรที่มุ่งมั่นและทุ่มเท ดีแทค สามารถนำพลังเหล่านี้มาสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้บริโภค อีก ทั้งยังมีความตั้งใจในการให้บริการและมีการพัฒนาการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ผมหวังว่าด้วยการสนับสนุนจากทีมงาน เราจะสามารถผลักดันให้ดีแทคประสบความสำเร็จต่อไป” จอนกล่าว

จอนจะเข้าดำรงตำแหน่งแทนทอเร่ จอห์นเซ่น ผู้ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ของบริษัท กรามีนโฟน บริษัทในเครือเทเลนอร์ที่เป็นผู้นำตลาดในประเทศบังกลาเทศ

“คณะกรรมการบริษัทฯ ขอขอบคุณทอเร่สำหรับความทุ่มเทที่มีให้ดีแทค ภายใต้การบริหารของทอเร่ ดีแทคสามารถคงความเป็นผู้ให้บริการชั้นนำที่มีฐานลูกค้ากว่า 20 ล้านรายและมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่านายทอเร่จะประสบความสำเร็จในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทกรามีนโฟนต่อไป” ซิคเว่กล่าว

ขณะที่ทอเร่ระบุว่าพอใจกับความสำเร็จของดีแทคตลอดช่วง เวลาที่ทำงานที่นี่ ถึงแม้ว่าประเทศไทยจะมีความท้าทายเรื่องกฎระเบียบต่างๆ แต่ดีแทคก็สามารถรักษาตำแหน่งทางการตลาดที่แข็งแกร่ง อีกทั้งสร้างผลประกอบการที่ดีผ่านขบวนการบริหารค่าใช้ จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ

“ถึงแม้ว่าผมจะรู้สึกยินดีในการได้ร่วมงานกับกรามีนโฟน ผมก็เสียใจที่ต้องจากดีแทคไป แต่ผมมั่นใจว่าด้วยการเป็นบริษัทที่มีพนักงานที่มุ่งมั่นและมีความสามารถ อีกทั้งมีวัฒนธรรมที่สร้างแรงบันดาลใจและความตั้งใจในการให้บริการที่ดีแก่ลูกค้า ดีแทคอยู่ในฐานะที่พร้อมสำหรับการเติบโตต่อไปในอนาคต” ทอเร่กล่าว