Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ ธันวาคม 2527








 
นิตยสารผู้จัดการ ธันวาคม 2527
จรัส ชูโต ผู้จัดการแห่งปี             
 


   
www resources

โฮมเพจ เครือซิเมนต์ไทย

   
search resources

เครือซิเมนต์ไทย
Cement
จรัส ชูโต




จรัส ชูโต เป็น "ผู้จัดการ"

คนไทยตัวอย่างที่สามารถจะผสมผสานความเป็นไทยให้สัมพันธ์กับศาสตร์การจัดการที่ทันสมัยของต่างชาติอย่างกลมกลืน แล้วก่อให้เกิดวัฒนธรรมขององค์กรที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง

บางคนคิดว่าจรัส ชูโตเป็นคนโชคดีที่เข้ามาเครือซิเมนต์ไทยเมื่อ 16 ปีที่แล้วเพราะ "คุณจรัสมาจากองค์กรต่างชาติเช่นเอสโซ่ ซึ่งทำงานอย่างมีระบบแล้วมาเข้าปูนซิเมนต์ไทยในสมัย 16 ปีที่แล้วที่ไม่มีระบบ มีวัฒนธรรมของศักดินาและผูกขาดเอามากๆ ฉะนั้นใครก็ตามที่เข้ามาในช่วงนั้นก็ต้องประสบความสำเร็จ " คนที่รู้จักจรัสดีพอสมควรพูดขึ้น

จรัส ชูโตเป็นพี่ชายของ ดร. สมศักดิ์ ชูโต อดีตอธิการบดีนิด้า และอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ในสมัยรัฐบาลพลเอกเปรมชุดแรก

จรัสเรียนเซนต์คาเบรียลรุ่นเดียวกับ "กระแช่" หรือ ประสาน มีเฟื่องศาสตร์ และมาจบวิศวกรรมศาสตร์สาขาเหมืองแร่จากจุฬา ฯ เมื่ออายุเพียง 21 ปี

งานชิ้นแรกที่จรัสได้รับผิดชอบ คือเป็นผู้จัดการเหมืองแร่ของบริษัทแร่ยางไทย เมื่ออายุเพียง 21 ปีเท่านั้น!

เขาอยู่เหมืองจนอายุได้ 26 ก็เข้าเอสโซ่ จนในที่สุดได้เลื่อนตำเหน่งเป็น ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ (operations manager) มีหน้าที่จัดเส้นทางลำเลียงน้ำมันของรถน้ำมัน

ในปี พ.ศ. 2501 อายุส อิศรเสนา ซึ่งอยู่เครือซิเมนต์ไทยได้ชวนจรัสมาเป็นหัวหน้าแผนกปฏิบัติของบริษัทค้าวัสดุก่อสร้าง

จรัสใช้เวลา 9 ปีขึ้นมาเป็นผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการบริษัทค้าวัสดุก่อสร้าง และอีก 2 ปี เป็นรองผู้จัดการบริษัทผลิตภัณฑ์และวัสดุก่อสร้าง จำกัด

ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2519 จนถึงกุมภาพันธ์ 2523 จรัสได้ผ่านงานในตำแหน่งต่างๆ ตั้งแต่กรรมการผู้จัดการบริษัทผลิตภัณฑ์และวัสดุก่อสร้าง ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ซิเมนต์และวัสดุทนไฟ รักษาการผู้อำนวยการฝ่ายผลิต จนถึงรองผู้จัดการใหญ่

19 กุมภาพันธ์ 2523 คือวันที่จรัส ชูโต ได้มานั่งเก้าอี้ของผู้จัดการใหญ่บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด

ในความหมายของ "ผุ้จัดการแห่งปี"

จรัส ชูโตเป็น professional manager ซึ่งมีทุกอย่างเท่าที่ผู้จัดการมืออาชีพจะพึงมี

เริ่มด้วยความรู้ในกิจการที่จรัสทำอยู่นั้น จากการที่จรัสเริ่มจากฝ่ายปฏิบัติการทำให้จรัส อยู่ในสภาวะที่ชาวบ้านเรียกว่า "เท้าติดดิน" อยู่ตลอดเวลา

ไม่ว่าจะมองจรัสในรูปลักษณะของ "พฤติกรรมผู้จัดการ" หรือ "ลักษณะของผู้จัดการ"หรือ"ผู้จัดการตามแต่สถานการณ์" จรัส ชูโตสวมได้ทุกบทบาท

การมองการณ์ไกล

การมองการณ์ไกลของจรัส ชูโต นั้นมองมานานแล้วนับตั้งแต่การที่เขาเห็นว่าเครือซิเมนต์ไทยนั้นเป็นบริษัทประเภท production oriented ฉะนั้นการที่จะละเลยบทบาทของนายช่างนั้นเป็นเรื่องที่ไม่สมควร

ในยุคที่ก่อนจรัสจะขึ้นมาเป็นผู้จัดการใหญ่นั้น ระบบของเครือซิเมนต์ไทยเป็นไปในทางที่ทุกฝ่ายจะผลิตแล้วส่งให้บริษัทขายกลางเป็นคนขาย ซึ่งปัญหาของการขาดความเข้าใจระหว่างการตลาดในแง่ของการประเมินปริมาณการขายกับฝ่ายผลิต ในแง่ของการคาดคะเนกำลังผิดมักจะเกิดข้อขัดแย้งเสมอ

และที่สำคัญที่สุดคือการที่จะเอา marketing นำหน้า production นั้นเป็นเรื่องที่คุกรุ่นในหมู่พนักงานเครือซิเมนต์ไทย ซึ่งฐานของเครือซิเมนต์ไทยก็คือฐานของนายช่าง

จรัสเป็นคนที่ไม่ยอมเอาผลประโยชน์ระยะสั้นแล้วสูญเสียผลประโยชน์ระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องเกี่ยวพันกับลูกค้าบริษัท

"ผมจำได้ว่าครั้งหนึ่งมีการประชุมการทำงานในระดับผู้จัดการในสมัยที่คุณสมหมายเป็นผู้จัดการใหญ่อยู่ เวลานั้น ปูนขาดตลาด และมีการเสนอให้ลูกค้าถ้าต้องการปูนก็ให้มาขนเองที่โรงงาน แต่คุณจรัสค้านหัวชนฝา โดยเขาต้องการให้ปูนบริการลูกค้าอย่างเต็มที่ถึงแม้ว่าปูนจะอยู่ใน position ที่สามารถ dictate term ได้ " คนนอกที่ใกล้ชิดจรัส ชูโต และได้มีโอกาสไปนั่งเสนองานในครั้งนั้นเล่าให้ฟัง

การมองการณ์ไกลของจรัสนั้นรวมไปถึง corporate strategy หลายอย่างที่เริ่มในยุคจรัสเริ่มเป็นผู้จัดการใหญ่และมาเห็นผลในระยะหลังนี้ ซึ่งก็มีหลายประการ ตั้งแต่การพัฒนาคนไปจนกระทั่งการแบ่งกลุ่มบริษัทและการdiversify ธุรกิจออกไปในลักษณะ satellite

การมองอะไรในระยะยาวอาจจะเป็นเพราะจรัส ชูโตเป็นนักอุตสาหกรรม (industrialist) ในความหมายของมันอย่างเต็มที่

การเป็น industrialist ของจรัสทำให้เขามองทุกอย่างระยะยาวหมด และเขาก็จะไม่ตกอกตกใจถ้าเกิดมีวิกฤตการณ์ขึ้นมา

แม้กระทั่งในระยะที่มีการควบคุมราคาปูน มีผู้บริหารรวมทั้งกรรมการหลายคนต้องการจะให้ปูนใช้สายสัมพันธ์ที่มีกับกลุ่มต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาการที่ปูนต้องถูกคุมราคาสินค้า

แต่จรัสเองกลับมองปัญหานี้ว่าเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่มันต้องเกิดขึ้น เขาเคยพูดว่าเมื่อรัฐบาลประสบปัญหา ปูนซิเมนต์ไทยก็จำต้องยอมขมขื่นไปด้วย

CONSIDERATE และแคร์คนมาก มีจิตวิทยาการใช้คนสูง

ในตำแหน่งหน้าที่ของจรัสซึ่งมีอำนาจมาก จรัส ชูโตวางตัวได้ดีเลิศ

เขาเป็นคนสนใจในรายละเอียดและจดจำสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ของคนได้ดีมาก จนคนที่เข้าพบเขาซึ่งระดับต่ำกว่าเขามากจะรู้สึกแปลกใจว่า ไม่น่าเชื่อที่คนระดับจรัส ชูโต จะสนใจเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ได้

บางครั้งเมื่อเขาพูดกับคนภายนอกแล้วพาดพิงไปถึงเด็กหนุ่มที่ทำงานปูนหลายคนจรัสจะสามารถพูดถึงชื่อเด็กหนุ่มคนนั้น พร้อมทั้งอธิบายให้ละเอียดว่าคนนั้นทำงานก้ววหน้าหรือถอยหลังไปแค่ไหนอย่างไร

"จรัสเป็นคนมี common sense สูง ถกเถียงอะไรกับเขาลำบากมาก เพราะจรัสจะพูดทุกอย่างจากข้อเท็จจริงทั้งหมด" เพื่อนรุ่นน้องจรัสเล่าให้ฟัง

จรัสรู้จักใช้คนและเขาไม่เคยสั่งใคร แต่ "เขาจะมีวิธีการพูดที่ไม่ใช่สั่ง แต่คนที่พูดกับเขาจะรู้เลยว่านี่คือสิ่งที่จรัสต้องการ และความเห็นของจรัสที่แสดงออกมาจะเป็นความเห็นที่แฝงด้วย AUTHORITY"

จรัสจะเป็นกันเองกับทุกคนและเป็นผู้จัดการใหญ่ที่ไม่มีฟอร์มอะไรมากมาย หลายครั้งหลายคราวในห้องอาหารของพนักงานปูนที่ทุกระดับมานั่งเหมือนกันหมด จะเจอจรัสเดินถือถาดอาหารพยายามแวะนั่งตามโต๊ะเพื่อคุยกับพนักงานและหลายครั้งที่ไม่มีที่ให้นั่งจรัสจะต้องเลี่ยงไปนั่งคนเดียว

ในการประชุมหลายครั้ง จรัสจะนั่งฟังทุกคนพูดโดยไม่ออกความเห็น เมื่อจบแล้วพอจรัสพูดทุกคนก็จะรู้ทันทีเลยว่าจรัสจะมีความคิดเป็นของตนเองที่ทุกคนจะต้องยอมรับ

นอกจากนั้นแล้วถ้าใครไม่ผิดแต่อาจจะทำให้ผู้ใหญ่ระดับ BOARD ไม่พอใจ จรัสจะบอกผู้อยู่ใต้บังคับบัญชานั้นว่าเขาจะแก้ปัญหาให้เอง

เขาเป็นคนที่มีความทะเยอทะยานแต่เป็นลักษณะ QUIET AMBITION ซึ่งพอดีเหมาะสมกับ NORM ของปูน

"เมื่อสัก6-7 ปีที่แล้วไม่เคยมีใครคิดว่าจรัสจะขึ้นมาขนาดนี้ เพราะเห็นได้ชัดเลยว่าเวลาประชุมอะไรกันแทบทุกคนจะข้ามแกไปหมด บางคนแค่เปิดประตูห้องประชุมมาก็พ่นภาษาอังกฤษเป็นน้ำ แต่แกจะนั่งเฉยๆ ใจเย็นๆ และแกจะโต้แย้งจากข้อเท็จจริง เพราะแกเป็น OPERATIONS MAN มาก่อน แกรู้ปัญหาดี และนี่เป็น STRENGTH ของแก"

ถ้าจะพูดถึง STRENGTH ของจรัส ชูโต แล้ว ก็ต้องยอมรับว่าในด้านการพัฒนาคนนั้นเขาเด่นที่สุดในวงการธุรกิจเมืองไทย

จรัสจะพูดอยู่เสมอว่าเขาได้เรียนรู้จากงานและการฝึกอบรมของเอสโซ่มาตลอด และจากการที่เป็นคนสนใจศาสตร์ของการบริหารถึงแม้จะจบวิศวกรรมศาสตร์ ซึ่งคนรุ่นจรัสที่จบทางช่างแทบจะไม่มีใครให้ความสนใจในด้าน MODERN MANAGEMENT เลย

แต่จรัสสนใจที่จะศึกษาและต้องการจะพัฒนาคนอื่นด้วย!

จรัส ชูโตเป็นหนึ่งในบรรดาผู้ก่อตั้งสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (THAILAND MANAGEMENT ASSOCIATION) หรือ TMA

ในบรรดาผู้ที่ทำงานร่วมกับจรัสใน TMA จำได้ว่า จรัสเป็นคนเอาจริงเอาจัง "พี่รัสเป็นคน DEDICATED และมี COMMITMENT ที่สูงมาก TMA ที่มาได้ขนาดนี้ส่วนหนึ่งเป็น เพราะพี่รัสเอาจริงเอาจังกับสมาคมและแกเป็นคนเชื่อมากในเรื่องหลักการบริหารอย่างทันสมัย" ชัยณรงค์ อินทรมีทรัพย์ อดีตกรรมการคนหนึ่งของ TMA เล่าให้ฟัง

สำหรับในเครือซิเมนต์ไทยเอง จากประสบการณ์ของจรัสที่เคยทำด้านปฏิบัติการมาก่อนได้เห็นความขัดแย้งระหว่างสายช่างกับสายการตลาดมาตลอด คงจะทำให้จรัสคิดว่าไหนๆ เครือซิเมนต์ไทยก็เป็น PRODUCTION ORIENTED แล้ว ถ้าปรับปรุงและพัฒนาพนักงานซึ่งส่วนใหญ่จะมาจากสายช่างให้รู้มากกว่าการเป็นช่าง แต่ให้รู้ถึง BUSINESS CONCEPT ให้ดีแล้วค่อยเรียนโปรแกรมที่สูงขึ้นเช่นโครงการ MDP (อ่านรายละเอียดเรื่องนี้ในผู้จัดการฉบับที่ 14 เดือนตุลาคม หน้า 22-40) เพื่อพัฒนาตนเองไปในระดับบริหารชั้นสูงขึ้น นอกจากจะเป็นการปรับปรุงคุณภาพบุคลากรแล้วยังเป็นการสร้างคนจากภายในเพื่อเตรียมไว้รองรับการขยายงานของเครือซิเมนต์ไทยอีก

พอจะเรียกได้ว่ายุคของจรัส ชูโต เป็นยุคที่เครือซิเมนต์ไทยมีการพัฒนาคนอย่างจริงจัง และได้มีการลงทุนในโครงการนี้อย่างไม่เสียดายเงิน (โครงการ MDP เพียงโครงการเดียว จัดแต่ละครั้งต้องใช้เงินตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไป)

ชื่อเสียงของจรัส ชูโตในด้านการพัฒนาคนโด่งดังมาก จรัส ชูโตยังได้รับพระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากจุฬาลงกรณ์ฯ ในปี 2526 สาขาบริหารธุรกิจ

นอกจากนั้นแล้วในเดือนมกราคมหลังจากที่จรัส ชูโต เกษียณอายุจากเครือซิเมนต์ไทยแล้ว จรัส ชูโต จะเป็นคนจากภาคเอกชนคนแรกที่ดำรงตำแหน่งนายกสภาสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(NIDA)

ก็ต้องนับว่าเป็นโชคอย่างที่สุดของ NIDA ที่ได้คนอย่างจรัส ชูโต เข้าไปวางนโยบายโครงการปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจของ NIDAคงจะคึกคักขึ้นอีกมากหลังจากที่ซบเซามานานพอสมควร

เป็น FAMILY MAN ใกล้ชิดกันทั้งครอบครัว

ชีวิตครอบครัวของจรัส ชูโต ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งที่แสดงว่าจรัส ชูโต เป็นคนประเภทใด

จรัส ชูโตมีภรรยาเป็นแพทย์ ชื่อ ประไพ ซึ่งทำงานอยู่สภากาชาดไทย มีบุตรและธิดาอย่างละคน คนโตเป็นผู้หญิงชื่อพวงรัตน์ ทำงานอยู่บริษัทจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน คนเล็กเป็นผู้ชายทำงานอยู่ CITI BANK

ครอบครัวจรัส ชูโตเป็นครอบครัวตัวอย่างที่ชอบทำกิจกรรมร่วมกัน บางครั้งพ่อแม่ลูกก็จะไปตีกอล์ฟด้วยกัน

ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้จัดการใหญ่เครือซิเมนต์ไทยเป็นชีวิตความเป็นอยู่ที่สมถะอย่างมากๆ ทีเดียว

บ้านที่อยู่แถวๆ ดุสิตเป็นบ้านเล็กๆ ซึ่งแทบไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นบ้านของผู้จัดการใหญ่เครือซิเมนต์ไทย บางครั้งถ้ามีการทานข้าวกันเกิน 10 คนก็ต้องขนเก้าอี้ออกมานั่งหน้าสนามหญ้าเล็กๆ และลูกๆ ยังต้องช่วยกันเสิร์ฟอาหาร

จรัสเป็นคน LOW PROFILE มากๆ ถ้าจะให้จรัสไปออกงานใดเป็นพิเศษแล้ว เขาจะอึดอัดและไม่ต้องการเป็นข่าว

แต่ถ้าจะให้เขาไปกินเหล้า JOHNNY BLACK ที่เขาชอบกับเอเย่นต์ขายสินค้าปูนแล้วเขาพร้อมที่จะไปเสมอ

การกินอาหารของจรัสก็เป็นแบบง่ายๆ อาหารไทยคืออาหารหลักที่เขาชอบ น้ำพริกปลาทู ผัดสะตอ อาหารใต้ คือสิ่งที่จรัสโปรดมากๆ

จรัสเป็นคนแต่งตัวเรียบร้อยแต่ไม่แคร์ว่าต้องประดับยี่ห้ออะไรที่ดัง ๆ ไว้กับตัว

คนเราจะเป็นผู้นำที่ดีและมีคนนับถือได้อย่างเต็มที่นั้น นอกจากจะต้องมีความสามารถในการทำงานเป็นพื้นฐานมีความเข้าใจในธุรกิจเป็นหลักแล้วยังต้องมีชีวิตส่วนตัวที่เป็นแบบอย่างได้ด้วย

เพราะพฤติกรรมของผู้จัดการบางครั้งมันก็สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมขององค์กรเหมือนกัน และมันก็เป็นเช่นกันในมุมกลับ

จรัส ชูโตเป็นคนไม่มีศัตรู และเป็นคนที่สามารถจะคุยกับคนทุกระดับได้รู้เรื่อง

นอกเหนือจากการที่เป็นคนเก่งในการบริหารธุรกิจ ซึ่งพิสูจน์ได้จากฐานที่มั่นคงและการเจริญเติบโตของเครือซิเมนต์ไทยแล้ว

จากการที่องค์กรเช่นเครือซิเมนต์ไทยมีความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างสูง บางทีสิ่งนี้ก็อาจจะสะท้อนให้เห็นว่า จรัส ชูโต คิดอย่างไรกับสังคมบ้าง

เพราะก็ได้มีการพิสูจน์และวิจัยกันมาแล้วมิใช่หรือว่า พฤติกรรมของผู้จัดการมักจะเป็นส่วนหนึ่งที่องค์กรนั้นแสดงออกต่อสังคมเช่นนั้น

ขอแสดงความยินดีกับการเป็น "ผู้จัดการแห่งปี" ที่เราให้จรัส ชูโต มาเป็นอันดับที่หนึ่งของ 3 คน

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us