Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ มีนาคม 2538








 
นิตยสารผู้จัดการ มีนาคม 2538
ขั้นตอนการดำเนินคดีหลัง พ.ร.บ.ใหม่บังคับใช้             
โดย ไพเราะ เลิศวิราม
 

 
Charts & Figures

ประเภทซอฟท์แวร์ที่ได้รับผลกระทบหลังจากกฎหมายลิขสิทธ์ฉบับใหม่ประกาศใช้


   
search resources

Software
Law




เมื่อพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ประกาศใช้ ขั้นตอนในการดำเนินคดีกับผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์คงจะต้องเปลี่ยนแปลงตามลักษณะกฎหมายที่มีการคลุมถึงซอฟต์แวร์อย่างชัดเจน

ยรรยง พวงราช รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวกับ "ผู้จัดการ" ถึงขั้นตอนในการดำเนินคดีว่า ผู้เสียหายซึ่งจะต้องเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์หรือตัวแทนทางกฎหมาย สามารถดำเนินการได้ 2 วิธี

วิธีแรก ยื่นฟ้องศาลเองซึ่งจะยากลำบากต่อการหาหลักฐาน เพราะผู้เสียหายจะต้องหาหลักฐานเอง

วิธีที่สอง แจ้งความไปยังสถานีตำรวจทุกแห่งรวมทั้งกองกำกับการคดีสืบสวนสอบสวนทางเศรษฐกิจซึ่งหน่วยงานเหล่านี้ดำเนินคดีต่อไป

ทั้งนี้กฎหมายใหม่นี้เอื้ออำนวยในเรื่องของการจัดตั้งเจ้าหน้าที่ในการตรวจค้นหาหลักฐานและยึดของกลางได้ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่เจ้าหน้าที่เหล่านี้ไม่มีอำนาจในการจับกุม ดังนั้นหากจะให้สมบูรณ์ควรจะไปพร้อมกับเจ้าหน้าตำรวจซึ่งกรมทรัพย์สินทางปัญญาจะเป็นผู้ประสานงานกับตำรวจให้

โดยรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์จะมีอำนาจในการแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่เหล่านี้ซึ่งจะแต่งตั้งจากเจ้าหน้าที่ของกรมทรัพย์สินทางปัญหา และกระทรวงพาณิชย์ เช่น กรมการค้าภายใน สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค

"ขณะนี้กรมเสนอเรื่องไปยังรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์แล้วแต่ต้องรอให้กฎหมายบังคับใช้ก่อนจึงมีการแต่งตั้งได้เพราะประกาศออกตามกฎหมาย" ยรรยงกล่าว

หน่วยงานที่จะเป็นผู้พิจารณาคดีในระหว่างที่รอการจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาจะตกเป็นหน้าที่ของศาลแพ่งและศาลอาญา จะเป็นผู้รับผิดชอบในการพิจารณาคดี

โดยการจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาอยู่ระหว่างการร่างกฎหมายเพื่อเสนอรัฐมนตรีอนุมัติ ซึ่งใช้เวลามาแล้ว 2 ปีกว่าแต่คงจะใช้เวลาไม่เกิน 4 ปี

ศาลทรัพย์สินทางปัญญามีความจำเป็นมาก เพราะจะมีความถูกต้องและทำให้ระยะเวลาในการพิจารณารวดเร็วขึ้น เนื่องจากจะเป็นศาลที่พิจารณาในเรื่องเหล่านี้โดยเฉพาะซึ่งแต่เดิมการพิจารณาอาจจะต้องใช้เวลา 2-3 ปี

จัดทำตัวอย่างสัญญาซื้อขายไม่ให้ผู้ผลิตเอาเปรียบผู้ซื้อ

แม้การมี พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ฉบับใหม่ที่จะให้ความคุ้มครองผู้พัฒนาซอฟต์แวร์มากขึ้น แต่อาจจะเกิดผลในทางตรงกันข้ามเพราะผู้ผลิตอาจจำกฎหมายไปใช้เอารัดเอาเปรียบผู้ซื้อ

เพื่อไม่ให้เป็นปัญหากรมทรัพย์สินทางปัญญาจึงได้จัดทำร่างอนุสัญญาตัวอย่างในการอนุญาตให้ใช้ซอฟต์แวร์โดยร่วมกับเจ้าของลิขสิทธิ์ สมาคมคอมพิวเตอร์ นักวิชาการ นักธุรกิจ

ยรรยงให้เหตุผลว่ากฎหมายทุกฉบับต้องกำหนดไว้กว้างๆ ไม่สามารถเขียนให้ละเอียดได้ จึงต้องหาแนวทางปฏิบัติอาจจะเกิดปัญหาผู้ผลิตเอารัดเอาเปรียบผู้ใช้ขึ้น เพราะในอนาคตหากมีการใช้อำนาจการเกินขอบเขตหรือมากไป

ร่างสัญญาตัวอย่างการอนุญาตใช้ซอฟต์แวร์จะมี 2 ประเภท ตามลักษณะการใช้งาน คือ 1. ร่างสัญญาอนุญาตใช้โปรแกรมสำหรับการซื้อขายซอฟต์แวร์เพื่อใช้งานคนเดียวกับ 2. ร่างสัญญาอนุญาตให้ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำหรับผู้ใช้หลายคน

ทั้งนี้ ร่างสัญญาจะยึดบรรทัดฐานของ พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์เป็นหลักจะประกอบไปด้วยส่วนหลักๆ คือ 1. การอนุญาตใช้โปรแกรมซึ่งจะระบุชื่อเจ้าของซอฟต์แวร์และจำนวนผู้ใช้

2. สิทธิของคู่สัญญาที่จะกำหนดไว้ว่าผู้รับอนุญาตจะไม่นำซอฟต์แวร์ไปให้เช่าหรือทำซ้ำ ดัดแปลง โดยไม่ได้รับค่วามยินยอมจากผู้อนุญาต หรือผู้รับอนุญาตมีสิทธิทำสำเนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ได้ 1 ชุด เพื่อป้องกันการสูญหายในการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ดังกล่าวเท่านั้น เว้นแต่ทำสำเนามากกว่า 1 ชุด จะได้รับความยินยอมจากผู้อนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร เป็นต้น

3. ข้อจำกัดการรับผิดและการรับประกัน จะระบุถึงการรับประกันการใช้ซอฟต์แวร์ ซึ่งหากมีปัญหาผู้อนุญาตจะต้องรับผิดชอบ อาทิ การคืนเงินให้ผู้รับอนุญาตหรือเปลี่ยนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ชำรุดบกพร่อง

4. การรักษาความลับทางการค้า ซึ่งจะระบุว่าผู้รับอนุญาตจะไม่เปิดเผยข้อมูลหรือเทคนิคเกี่ยวกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์อันเป็นความลับทางการค้าที่จะเกิดความเสียหายแก่ผู้อนุญาต

5. การต่อสู้คดีในกรณีที่มีบุคคลอื่นฟ้องร้องหรือใช้สิทธิฟ้องร้องผู้อนุญาตจะต้องแจ้งให้ผู้รับอนุญาตทราบภายใน 10 วัน นับตั้งแต่วันที่ผู้รับอนุญาตทราบ เป็นต้น

สำหรับสัญญาอนุญาตใช้คอมพิวเตอร์กับระบบเครือข่ายจะมีคล้ายคลึงกับสัญญาอนุญาตใช้งานเพียงคนเดียว แต่จะเพิ่มเติมรายละเอียดในเรื่องของจำนวนเครื่องที่จะใช้กับซอฟต์แวร์และรายละเอียดของค่าตอบแทน

รวมทั้งยังระบุถึงการที่ผู้อนุญาตจะต้องแสดงซอฟต์แวร์ที่ได้รับการแก้ไขให้ดีขึ้น จากรากฐานโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวพันกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์เดิมแก่ผู้รับอนุญาตด้วย โดยมีการตกลงค่าตอบแทนใหม่

หรือผู้รับอนุญาตจะมีสิทธิที่จะใช้ หรือโอนโปรแกรมคอมพิวเตอร์เฉพาะส่วนที่พัฒนา และมีหน้าที่ต้องเสนองานโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นจากรากฐานโปรแกรมตามสัญญาแก่ผู้อนุญาต โดยผู้อนุญาตจะต้องจ่ายค่าตอบแทนให้ผู้รับอนุญาตตามที่ตกลง

ยรรยงกล่าวว่า ร่างสัญญาตัวอย่างเหล่านี้จะไม่มีการบังคับใช้ แต่กรมทรัพย์สินทางปัญญาหวังว่าในระยะยาวจะมีการนำไปใช้เป็นบรรทัดฐานในการทำสัญญาซื้อขายเพราะส่วนหนึ่งของการละเมิดลิขสิทธิ์ คือ 1. หาตัวเจ้าของลิขสิทธิ์ไม่เจอ 2. สัญญามีขั้นตอนมาก

เป็นที่คาดหวังไว้ว่าการมีร่างสัญญาตัวอย่างจะไม่ทำให้เกิดการได้เปรียบหรือเสียเปรียบกันอีกต่อไปและจะช่วยลดปัญหาการดำเนินคดีลงได้

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us