|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
แม้ว่าปีนี้บุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ จะมีอายุ 74 ปีแล้วก็ตาม แต่ผู้อ่านและซีอีโอยังเลือกให้เขาเป็น Role Model ตลอดกาล
เหตุผลนานัปการที่ทำให้บุณยสิทธิ์ได้รับเลือกให้เป็น Role Model เพราะเขาคือต้นแบบของผู้บริหารทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่พยายามเรียกร้องอยู่ในทุกวันนี้ สิ่งนั้นคือ ฝีมือการบริหารเก่งฉกาจ แต่แฝงด้วยคุณธรรม
บุคลิกของบุณยสิทธิ์ถูกหล่อหลอมด้วยปรัชญาการทำงานที่ถ่ายทอดมาตั้งแต่สมัย รุ่นพ่อ เทียม โชควัฒนา ด้วยอักษร 4 คำ คือ เร็ว ช้า หนัก เบา
การทำธุรกิจต้องอาศัยจังหวะและโอกาสอยู่สม่ำเสมอ จึงไม่น่าแปลกใจที่ปัจจุบันเครือสหพัฒน์จะมีบริษัทอยู่กว่า 300 แห่ง และมีพนักงานกว่า 1 แสนคน
ด้วยพนักงานและผู้บริหารจำนวนมาก ทำให้บุณยสิทธิ์มีศิลปะครองใจคนในระดับ ผู้บริหาร เขาจะไม่เข้าไปกุมอำนาจและความคิด แต่จะปล่อยให้บริหารอย่างอิสระ ส่วนพนักงานทั่วไป ในยามที่บริษัทในเครือต้องปิดกิจการ บริษัทจะให้สวัสดิการอย่างเต็มที่ และให้รับพนักงานตกงานเกือบทั้งหมดเข้าไปอยู่ในบริษัทในเครืออีกครั้ง
เพราะบุญยสิทธิ์ตระหนักอยู่เสมอว่า บุคลากรเป็นหัวใจและกำลังสำคัญของการขับเคลื่อนธุรกิจ ทุกครั้งที่บริษัทในเครือประสบปัญหาหรือไม่มีปัญหาก็ตาม เขาจะบอกกับผู้บริหารทุกคนเสมอว่า ให้ดูแลพนักงานอย่างดี
สไตล์การทำงานของเขามีบุคลิกความเป็นพ่อค้า จึงทำให้เขาเป็นคนพูดตรงไปตรงมา ทว่ามีความประนีประนอมในการเจรจาธุรกิจ
แต่หากบริษัทได้รับผลกระทบจากนโยบายภาครัฐ บุณยสิทธิ์ก็พร้อมจะแสดงความคิดเห็นและวิพากษ์ได้เช่นเดียวกัน ดังเช่นค่าเงินบาทที่แข็งอยู่ทุกวันนี้ เขาเคยพูดไว้ล่วงหน้ามา 3 ปี และยังทำนายว่าอาจเป็นไปได้ที่จะเกิดต้มยำกุ้งรอบ 2 และเลวร้ายกว่ารอบแรก แต่เครือสหพัฒน์เหมือนรู้ตัวล่วงหน้าและได้กำหนดแผนธุรกิจทางหนีทีไล่ไว้แล้ว แต่เศรษฐกิจไทยจะลำบาก
แต่ในบางมุมหากบุณยสิทธิ์ประสบปัญหาธุรกิจ เขาจะไม่แสดงออกแต่จะรับมือด้วยการ “นิ่ง” เพราะไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าคิดอะไรอยู่
บทบาทของบุณยสิทธิ์ในปัจจุบันเขายังร่วมบริหารกับผู้บริหารในเครือสหพัฒน์และอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของธุรกิจมาโดยตลอด แม้ว่าในปัจจุบันจะเห็นเขาน้อยลงเหลือเพียงปีละ 1 ครั้ง ในงานเปิดตัวจำหน่ายสินค้าประจำปีของเครือสหพัฒน์
แม้ว่ากำลังกายจะเสื่อมถอยไปตามกาลเวลา แต่ดูเหมือนว่ากำลังใจของเขายังมีอยู่เต็มร้อย และบุณยสิทธิ์ก็ได้ลดบทบาทการทำงานน้อยลงและเปิดทางให้ผู้บริหารรุ่นใหม่ ขึ้นมาแสดงความสามารถและสนับสนุนการทำงาน ในขณะเดียวกันก็พร้อมถ่ายทอดความรู้ และประสบการณ์ที่บ่มเพาะมาตลอดชีวิต
ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าเครือสหพัฒน์ในอีก 10 หรือ 20 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร เพราะยุคธุรกิจอุตสาหกรรมกำลังก้าวผ่านไปสู่ยุคการเรียนรู้ แต่การปูรากฐานอย่างมั่นคงของบุณยสิทธิ์ ในฐานะผู้นำคนปัจจุบัน เขาเชื่อว่าสหพัฒน์จะเติบโตต่อไปและยั่งยืน
|
|
|
|
|