|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นบุคคลที่ผู้อ่านนิตยสารผู้จัดการ 360 ํ และผู้บริหารระดับสูง คัดเลือกให้เป็นหนึ่งใน Role Model ปี 2553 ด้วยเหตุผลว่าเป็นคนมองการณ์ไกล
ประเสริฐ บุญสัมสัมพันธ์ วัย 58 ปี ร่วมงานกับบริษัท ปตท. ร่วม 10 ปี ปีนี้จะเป็นปีสุดท้ายของการทำงานในฐานะผู้บริหารสูงสุดของกลุ่ม ปตท. ซึ่งจะหมดวาระการทำงานในปลายปีนี้
ประเสริฐนั่งอยู่ในตำแหน่งผู้บริหาร กลุ่ม ปตท. 2 สมัย ในสมัยแรกเข้ารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบริษัท ปตท. ในปี 2546 และครบวาระทำงาน 4 ปี ต่อมาในปี 2551 เขาได้รับการแต่งตั้งจากคณะกรรมการให้ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ครั้งที่สอง ในปี 2551
การนั่งในตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของประเสริฐในครั้งที่สอง เขาเป็นคนยื่นสมัครด้วยตนเอง ในตอนนั้นไม่มีผู้บริหารรายอื่นเข้าแข่งขัน เขาจึงเป็นผู้บริหารคนเดียว และได้รับเลือกในที่สุด
ประเสริฐเป็นบุคคลที่มีบุคลิก “คิดเร็ว ทำเร็ว” และกำหนดเป้าหมายชัดเจน จึงทำให้ได้รับการยอมรับจากทั้งผู้บริหารและคณะกรรมการ แตกต่างจากที่ประเสริฐเข้ามาทำงานใน ปตท.ช่วงแรก เขาไม่ได้ฉายแววของผู้นำเท่าใดนัก และไม่คิดว่าเขาจะก้าวขึ้นมาสู่ผู้นำสูงสุดด้านพลังงาน แต่เมื่อได้รับโอกาสเขาก็พิสูจน์ฝีมือตัวเอง
ตลอดระยะเวลาการทำงาน 8 ปี ประเสริฐจึงถือเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง ขับเคลื่อนกลุ่ม ปตท. ที่มีอายุกว่า 30 ปี จากรัฐวิสาหกิจก้าวข้ามมาเป็นบริษัทพลังงานที่มีมูลค่าตลาดหลักทรัพย์กว่า 20 หรือ 910,661.29 ล้านบาท (ธันวาคม 2553) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ประเสริฐเป็นผู้บริหารคนแรกที่ก้าวขึ้นสู่ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หลังจากที่บริษัทได้ปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่แบ่งเป็นกลุ่มธุรกิจขั้นต้นและขั้นปลาย โดยให้ความสำคัญ 3 ธุรกิจหลักคือ ธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม, ธุรกิจปิโตรเคมี และธุรกิจโรงกลั่นนํ้ามัน ธุรกิจทั้งหมดจะอยู่ภายใต้การบริหารของบริษัทลูก ในขณะที่บริษัท ปตท.ได้วางบทบาทตนเองในฐานะบริษัทแม่เป็น Operating Holding ถือหุ้นอยู่ในบริษัทลูกทั้งหมด
สิ่งที่ท้าทายสำหรับประเสริฐในช่วงระยะ 1-2 ปี ไม่ว่าจะเป็นโครงการที่ถูกกรณีศาลปกครองกลาง มีคำสั่งเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2552 ให้หน่วยงานของรัฐสั่งระงับโครงการหรือกิจกรรมการลงทุนในพื้นที่มาบตาพุด จ.ระยอง ไว้เป็นการชั่วคราวทั้งสิ้น 76 โครงการ คิดเป็นมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 4 แสนล้านบาท และในตอนนั้นกลุ่ม ปตท.มีโครงการถูกระงับถึง 25 โครงการ
นอกจากนี้ราคาน้ำมันโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนมีผลต่อการดำเนินธุรกิจของ กลุ่ม ปตท. จนต้องจัดตั้งทีมหน่วยวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันขึ้น เพื่อมองแนวโน้มและทิศทางน้ำมันอย่างรอบด้านเพื่อวางแผนลงทุนในอนาคต
การปรับปรุงการบริหารงานเพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของประเสริฐ ได้วางเป้าหมายการดำเนินธุรกิจของกลุ่ม ปตท. โดยเฉพาะการขยายธุรกิจออกไปต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายชัดเจนเพื่อเป็นบริษัทพลังงานไทยข้ามชาติชั้นนำ (Thai Premier Multinational Energy Company)
นโยบายของประเสริฐในการขยายลงทุนในต่างประเทศ ล่าสุดได้แสดงให้เห็นผลเมื่อปลายปีที่ผ่านมา บริษัทได้ซื้อกิจการเหมืองถ่านหินของ บริษัท Straits Resources Limited (SRL) ในประเทศออสเตรเลีย ผ่านบริษัท PTT Mining Limited (PTTML) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ PTT International Limited (PTTI) มูลค่า 16,600 ล้านบาท เพราะการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้เป็นการลงทุนตามนโยบายในการขยายการลงทุนในธุรกิจเหมืองถ่านหินคุณภาพสูงและมีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต
กรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ และนายแบงก์ ธนาคารรายใหญ่ของประเทศไทย ได้เลือกให้ประเสริฐเป็น Role Model ปี 2552 โดยให้เหตุผลที่เลือกเขา เพราะมอง ว่าเขาเป็นผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล สามารถพัฒนาองค์กรให้ตอบสนองธุรกิจได้ดีและการนำบริษัทไปลงทุนในต่างประเทศจนประสบความสำเร็จ ไม่ใช่เรื่อง ง่ายในยุคที่มีการแข่งขันสูงในปัจจุบัน
|
|
|
|
|