"ซูเปอร์สโตร์" ดูจะเป็นเครื่องมือทางการตลาดชิ้นสำคัญของยุคสมัยนี้
ที่ห้างสรรพสินค้ารายใหญ่นำมาใช้ห้ำหั่นกัน ในภาวะที่จะต้องดึงดูดใจให้ผู้ซื้อ
ซื้อเป็นแพ็กเกจหรือเหมายกโหลมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้เพื่อให้ได้รับยอดขายสูงสุด
ในขณะที่ต้นทุนทางการตลาดก็ต่ำด้วย แต่ความคิดเรื่องซูเปอร์สโตร์นี้ไม่ได้กระจุกตัวอยู่แต่เฉพาะห้างสรรพสินค้าเท่านั้น
ธุรกิจคอมแพคดิสก์หรือแผ่นซีดีและเทปเพลงก็เป็นอีกหนึ่งเครือข่ายที่กำลังถ่ายทอดความคิดนี้ไปใช้
เมื่อเอ่นถึงเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายแผ่นซีดีระดับโลกขณะนี้แล้ว "ทาวเวอร์
เรคคอร์ด" ถือเป็นหนึ่งในบรรดาผู้จัดจำหน่ายที่มีเครือข่ายสูงสุดแห่งหนึ่งในปี
2538 ด้วยเครือข่ายที่มีอยู่ทั่วโลกถึงเกือบ 150 สาขา ใน 10 ประเทศทั่วโลก
ซึ่งทำยอดขายให้กับบริษัทกว่า 600 ล้านเหรียญ ในเอเชียมีสาขาของทาวเวอร์
เรคคอร์ด ทั้งในสิงคโปร์ เกาหลี ไต้หวัน หรือญี่ปุ่นซึ่งมีอยู่ถึง 22 สาขา
ทาวเวอร์ เรคคอร์ด ได้เริ่มเปิดตัวในเมืองไทยแล้วโดยมอบหมายความมั่นใจให้
"กลุ่มนฤหล้า" ซึ่งดำเนินธุรกิจร้านอาหาร โครงการเชอราตันทาวเวอร์มาก่อนหน้าให้สานต่อความเป็น
"ซูเปอร์สโตร์" ทางด้านแผ่นซีดีและเทปเพลงอย่างสมบูรณ์แบบเป็นรายแรกในไทย
นรินทร์ นฤหล้า กรรมการผู้จัดการบริษัท ทาวเวอร์ เซ็นเตอร์ (ประเทศไทย) บริษัทผู้รับแฟรนไชส์ในการรังสรรค์
"ทาวเวอร์ เรคคอร์ด" ขึ้นในประเทศไทย อรรถาธิบายถึงลักษณะเฉพาะของซูเปอร์สโตร์ซีดีให้ฟังว่า
จะต้องเป็นไปเพื่อสนองความต้องการของลูกค้าทุกระดับที่ต้องการมีแผ่นซีดีให้เลือกหลากหลายที่สุด
รวมถึงบรรยากาศที่จะต้องเอาใจผู้ซื้อกลุ่มใหญ่ที่เป็นวัยรุ่น และเครื่องไม้เครื่องมือด้านเครื่องเสียงที่ต้องครบถ้วน
รวมถึงแสงสีที่ต้องพร่างพราว
ดังนั้น ทำเลที่เหมาะสมซึ่งจะบบรจุสิ่งทั้งหมดนี้ได้ และอยู่ในท่ามกลางลูกค้ากลุ่มวัยรุ่นที่มีกำลังซื้อมหาศาลนั้น
จึงเป็นจุดแรกที่ต้องพิจารณาและก็ได้ข้อสรุปที่ "ศูนย์การค้าสยาม"
บริเวณชั้น 4 ซึ่งเคยใช้เป็นโรงภาพยนตร์ว่าน่าจะเหมาะสมที่สุด เพราะมีความโอ่โถงถึง
900 ตร.ม. สามารถติดตั้งแสงและเครื่องเสียงได้อย่างเต็มรูปแบบ
ในส่วนของความพร้อมด้านแผ่นที่จะมีให้เลือกนั้น จะมีเพียบพร้อมทุกแนวเพลง
นับแต่ยุค 60-90 โดยมีจำนวนแผ่นให้เลือกมากกว่า 200,000 แผ่น และเทปเพลงซึ่งทาวเวอร์
เรคคอร์ด ก็มีเช่นกัน แต่ไม่ค่อยเน้นมากนัก พร้อมด้วยทีวีจำนวน 20 เครื่องเพื่อให้ลูกค้ามีอารมณ์ร่วมกับมิวสิกวิดีโอที่จะมีฉายตลอดเวลาและสิ่งที่ขาดไม่ได้คือเครื่องเล่นซีดีเพื่อลองเสียง
ซึ่งทาวเวอร์จัดทำเป็นกรณีพิเศษ ด้วยการจัดทำเป็นตู้ฟังได้ 6 แผ่นที่ไม่ซ้ำกันทั้งในตู้เดียวกัน
และทั้งใน 39 ตู้ซึ่งทั้งหมดนี้ ทาวเวอร์ เรคคอร์ด ใช้ทุนไปแล้วอย่างน้อย
60 ล้านบาท
เรื่องราคาดูจะเป็นปัจจัยที่จำเป็นสำหรับซูเปอร์สโตร์ ซูเปอร์สโตร์เช่นทาวเวอร์
เรคคอร์ด จึงต้องกำหนดราคาแผ่นซีดีให้ต่ำกว่าร้านอื่นอย่างน้อย 10-20% เป็นอย่างน้อย
ดังนั้น ด้วยปรัชญาทางการตลาดที่เชื่อมั่นว่าการซื้อและขายเป็นจำนวนมาก และด้วยต้นทุนทางการตลาดต่ำทำให้ทาวเวอร์
เรคคอร์ด มีความเชื่อมั่นว่าจะเป็นผู้นำด้านการจัดจำหน่ายซีดีในเมืองไทยในไม่ช้าหลังจากเปิดตัว
การเปิดตัวทาวเวอร์ เรคคอร์ด ที่สยามสแควร์นี้ถือเป็นการชิมลางก่อนเท่านั้น
เพราะในช่วงต่อไปนรินทร์ได้ตั้งเป้าไว้ว่าจะเปิดสาขาให้ครบ 5 แห่งภายใน 2
ปีข้างหน้านี้ โดยได้เริ่มเล็งทำเลใหญ๋ที่มีลูกค้าหลากประเภทแล้วเช่นลาดพร้าว
หรือปิ่นเกล้า ความเชื่อมั่นของนรินทร์ที่พร้อมจะขยายซูเปอร์สโตร์ซีดีอย่างเต็มที่นี้
ตั้งอยู่บนพื้นฐานการเติบโตของเครื่องเล่นซีดีและจำนวนขายแผ่นซีดีที่โตอย่างน่าตกใจ
โดยการสำรวจอัตราเติบโตของเครื่องมินิคอมโป และคอมโปเน้นท์ในปี 2536 แล้วพบว่ามียอดขายเพียง
200,000 เครื่องเท่านั้น แต่พอมาปี 2537 ก็เริ่มโตอย่างพรวดพราดขึ้นมาเป็น
700,000 เครื่องและในปีนี้ก็มีการคาดการณ์ถึงอัตราก้าวกระโดดอย่างน่าตกใจที่สุดว่าอัตราจะก้าวกระโดดไปเป็นถึง
10 ล้านเครื่อง ในขณะที่แผ่นซีดีก็จะมีอัตราเติบโตที่รวดเร็วเช่นกันจากปี
2536 ที่มีเพียง 2 ล้านแผ่นมาเป็น 9 ล้านแผ่นในปี 2537 และคาดว่าจะเป็น 10-12
ล้านแผ่นในปีนี้
นรินทร์เปิดเผยถึงเงื่อนไขของการเติบโตอย่างพรวดพราดนี้ว่า เป็นเพราะอำนาจการซื้อของชนชั้นกลางที่มีเพิ่มสูงขึ้นบวกกับการส่งเสริมการขายอย่างเต็มที่ของบริษัทผู้ผลิตเครื่องเสียง
รวมถึงอัตราภาษีนำเข้าแผ่นซีดีซึ่งลดลงเป็นอย่างมาก จาก 45% เมื่อปี 2537
ลงมาเหลือเพียง 30% ในปี 2538 และปี 2539 ก็จะละลงมาอีกเหลือเพียง 15% เท่านั้น
"ด้วยอัตราเติบโตของปัจจัยแวดล้อมของวงการซีดีเช่นนี้ นอกจากเราจะมีความมั่นใจในการทำตลาดมากกว่าเป็นมาแล้ว
เรายังเชื่อมั่นว่าซีดีผีและเทปผีที่สร้างความหวั่นหวาดให้กับเราในอดีตก็จะพลอยหดหายไปด้วย"
แม้ว่าตลาดจะดูค่อนข้างสวยหรูในแนวความคิดของทาวเวอร์ เรคคอร์ด กับการเปิดตัวครั้งแรกในไทย
แต่ต้องอย่าลืมว่าค่ายจำหน่ายซีดีเจ้าถิ่นในไทย ก็พลอยได้รับอานิสงส์จากปัจจัยแวดล้อมในวงการซีดีที่เอื้ออำนวยครั้งนี้ไปด้วย
และด้วยความเจนจัดในช่องทางการจำหน่ายที่เหนือกว่าผู้มาใหม่
คำประกาศของทาวเวอร์ เรคคอร์ด ที่หวังจะเป็นกระบี่มือหนึ่งในวงการก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเสียแล้ว