|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
“สิ่งดีๆ หลายอย่างเกิดจากสัญชาตญาณความเป็นแม่”
Elizabeth May เป็นนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมานานถึง 40 ปี May ผู้เป็นทั้งทนายความหญิง นักเขียน และเป็นคุณย่าของหลานๆ เคยดำรงตำแหน่งผู้อำนายการบริหาร Sierra Club of Canada มานานถึง 17 ปี (1989-2006) ก่อนที่จะกลายมาเป็นผู้นำพรรคอนุรักษ์ Green Party ของแคนาดา May จะกล่าวถึงบทบาทของผู้หญิงกับการเมือง “สีเขียว”
คุณเริ่มต้นการเป็นนักอนุรักษ์ ด้วยการต่อต้านการฉีดพ่นยาฆ่าแมลงใน Nova Scotia ตั้งแต่เมื่อทศวรรษ 1970 การได้รับความสนใจในฐานะนักอนุรักษ์ที่เป็นผู้หญิงในสมัยนั้นเป็นอย่างไรบ้าง
ฉันรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจนัก เพราะรู้ดีว่า การที่ฉันเป็นผู้หญิงและอายุยังน้อย จะไม่ค่อยได้รับความเชื่อถือจากใครๆ เท่าใดนัก ฉันจึงเก็บตัวอยู่เบื้องหลังมากกว่า และไม่พยายามจะออกมายืนข้างหน้าเลย แต่หลายต่อหลายปีหลังจากเราประสบชัยชนะติดต่อกันมาตลอด จนกระทั่งปี 1987 ฉันจึงถูกเปิดตัวโดยสื่อมวลชนผู้หญิงถูกต่อต้านมากแค่ไหนในแวดวงการเมือง
ฉันไม่เคยรู้สึกว่าถูกกีดกันทางเพศเลยในช่วงทศวรรษ 80-90 แต่ในปัจจุบัน กลับมีการปฏิบัติต่อผู้หญิงที่แตกต่างไป โดยสื่อมวลชน ที่อาจเข้าข่ายกีดกันทางเพศ ซึ่งฉันคิดว่าเป็นเพราะการที่ใครๆ ก็สามารถโพสต์ข้อความบนอินเทอร์เน็ตได้ โดยที่ไม่ต้องเปิดเผยตัวว่าเป็นใคร ทำให้มีข้อความที่น่ารังเกียจ น่าขยะแขยงมากมายบนโลกออนไลน์
แม้ฉันจะเห็นว่าการเล่นการเมืองแบบ Sarah Palin เป็นเรื่องที่น่าตำหนิ แต่ฉันก็คิดว่า เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ที่สื่อจะลากเอาเรื่องความเป็นแม่ของเธอมาเล่น เพราะก็ไม่เคยมีใครเคยถามถึงคุณภาพความเป็นพ่อของ George Bush หรือ John McCain เช่นกัน แม้ว่าการเมืองที่ถูกขับดันด้วยฮอร์โมนเพศชายซึ่งกระหายสงคราม อาจไม่ใช่สภาพแวดล้อมทางการเมืองที่ผู้หญิงจะมีความสุข แต่ฉันยังคงเรียกร้องขอให้คนหนุ่มสาว โดยเฉพาะผู้หญิงเข้าสู่การเมือง
อะไรคือปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ใหญ่ที่สุดสำหรับผู้หญิงทั่วโลก
เมื่อองค์พระเยซูเจ้าประสูตินั้น ประชากรโลกมีเพียง 200 ล้านคน และกว่าจะเพิ่มอีกเท่าตัวเป็น 400 ล้านคน ก็ต้องใช้เวลานานถึง 1,200 ปี แต่ในช่วงชีวิตของฉัน กลับได้เห็นการก้าวกระโดดเพิ่มขึ้นของประชากรโลก จาก 3,000 ล้านเป็น 6,000 ล้านคน ซึ่งทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อโลกอย่างรวดเร็ว มากกว่าที่เคยเป็นมาในยุคสหัสวรรษที่แล้วอย่างมาก
แต่ไม่ว่าเราจะวิตกเกี่ยวกับปัญหาประชากรล้นโลกมากเพียงใด ก็ไม่อาจละเมิดสิทธิพื้นฐานที่สุดของคน นั่นคือการมีบุตรได้ ดังนั้น สิ่งที่พอจะทำได้ก็คือ ช่วยให้ผู้หญิงสามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาล การวางแผนครอบครัว การรู้หนังสือ และการเพิ่มอำนาจทางการเมืองให้แก่ผู้หญิง
ดูเหมือนว่าผู้หญิงดูจะเป็นผู้นำในด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้ดีกว่าผู้ชาย
ฉันไม่เคยเห็นด้วยกับการเปรียบเทียบว่าผู้หญิงหรือผู้ชายดีกว่ากัน แต่คงจะไม่ถูกต้องนัก หากฉันจะละเลยความจริงและต้องยอมรับความจริงที่ว่า สิ่งดีๆ หลายอย่างที่เกิดขึ้นในโลกนี้ ล้วนแล้วแต่มาจากสัญชาตญาณความเป็นแม่
เราจะไม่มีทางแน่ใจได้ว่า ลูกๆ ของเราจะได้อยู่ในโลกที่น่าอยู่ในอนาคต ถ้าหากเราไม่เข้าไปมีส่วนร่วมในการตัดสินใจทางการเมือง อย่างเช่น การทำให้รัฐบาลลดการพึ่งพิงการใช้น้ำมันในอนาคต
ปัญหาที่น่าวิตกมากปัญหาหนึ่งสำหรับการอยู่อาศัยในเมืองคือ การสามารถจัดหาอาหารที่มีประโยชน์และปลูกในท้องถิ่นให้แก่ลูกๆ และการที่ปัญหานี้ได้รับการตระหนัก ก็เป็นเพราะแม่ที่ออกไปซื้อหาอาหารในตลาดหรือตามร้าน และพบว่าอาหารเต็มไปด้วยยาฆ่าแมลง ความรู้สึกว่าเราต้องปกป้องคนที่อ่อนแอ ก็มาจากความรู้สึกต้องการปกป้องเด็ก
อย่างไรก็ตาม ฉันไม่ต้องการจะบอกว่าผู้หญิงเป็นนักอนุรักษ์ได้ดีกว่าผู้ชาย เพราะความจริงคือ ผู้ชายหลายคนกลับเป็นนักสิทธิสตรีที่ยิ่งใหญ่ ในขณะที่ผู้หญิงหลายคนกลับเป็นตรงกันข้าม
ฉันเห็นว่า Stephen Lewis (นักการเมืองชายในแคนาดา) เป็นนักสิทธิสตรีที่ยอดเยี่ยม แต่เมื่อฉันมองไปที่ Sarah Palin ฉันได้แต่คิดว่า โธ่เอ๋ย! อนิจจา!
แปล/เรียบเรียง เสาวนีย์ พิสิฐานุสรณ์
เรื่อง นิวสวีค
|
|
|
|
|