Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์24 ธันวาคม 2553
ปรับดอกเบี้ยขึ้น-ส่วนต่างขยับ หุ้นแบงก์รับอานิสงส์เต็มที่ปีหน้า             

 


   
search resources

Interest Rate




ดอกเบี้ยขาขึ้นหนุนส่วนต่างขยับ หุ้นแบงก์ยิ้มรับโอกาสทำกำไรถ้วนหน้า โบรกฯแนะให้ลงทุนมากกว่าตลาดทั้งKBANK BBL และ TCAP โดดเด่น แต่คาด TISCO อ่วมช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น เหตุโครงสร้างสินเชื่อเป็นดอกเบี้ยคงที่สูงถึง 93% แต่มีต้นทุนของเงินที่เป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัวเพียง 21%

อุษณีย์ ลิ่วรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส กล่าวว่าจากการที่ธนาคารพาณิชย์เริ่มทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อการส่งสัญญาณทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นของธนาคารแห่งประเทศไทย ทำให้ฝ่ายวิเคราะห์ฯมีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ในไตรมาส 4/2553 ต่อเนื่องถึงไตรมาส 1/2554

โดยคาดว่าผลบวกต่อส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย(NIM) ยังไม่เกิดขึ้นเต็มที่ในไตรมาส 4/2553 แต่มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นในไตรมาส 1/2554 ซึ่งจะได้รับผลบวกทั้งไตรมาส จากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่จะปรับเพิ่มขึ้นก่อน ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากยังค่อยๆทยอยปรับเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม จากการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่ เป็นการปรับเพิ่มในอัตราที่ใกล้เคียงกันทั้งในฝั่งของเงินกู้และเงินฝาก จึงอาจไม่ได้ส่งผลบวกอย่างรุนแรงมากนัก และคาดว่าธนาคารพาณิชย์อื่นๆก็น่าจะมีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ตามมาในลักษณะเดียวกันด้วย

ทั้งนี้กรณีที่อัตราดอกเบี้ยในระบบปรับตัวสูงขึ้นพร้อมกันทั้งเงินกู้และเงินฝาก ภายใต้สัดส่วนของเงินกู้ต่อเงินฝาก (LDR) ที่ระดับ 87% อย่างช่วงไตรมาส 3/2553 มองว่าธนาคารพาณิชย์จะได้รับผลบวกจากทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น เนื่องจากโครงสร้างอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากที่มีความแตกต่างกันของอัตราดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่15% ซึ่งเมื่ออัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้นธนาคารพาณิชย์จะได้ประโยชน์จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่เป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัวทันทีและในระดับที่สูงกว่าการปรับตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่เป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัว

สำหรับธนาคารพาณิชย์ที่คาดว่าจะได้รับผลบวกสูงสุดจากทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นคือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา(BAY), บมจ.ทุนธนชาต(TCAP), ธนาคารทหารไทย(TMB), ธนาคารเกียรตินาคิน(KK), ธนาคารไทยพาณิชย์(SCB), ธนาคารกรุงไทย(KTB), ธนาคารกรุงเทพ(BBL) และธนาคารกสิกรไทย(KBANK) ขณะที่ บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป(TISCO) เป็นสถาบันการเงินเพียงแห่งเดียวที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุดเนื่องจากมีโครงสร้างสินเชื่อที่เป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ค่อนข้างสูงถึง93% ขณะที่มีสัดส่วนของเงินฝากและเงินกู้ยืมที่เป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัวเท่ากับ 21% จึงได้รับผลกระทบทันทีเมื่ออัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น

ทั้งนี้ยังคงให้น้ำหนักการลงทุนสำหรับหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์มากกว่าตลาด โดยมีมุมมองเชิงบวกต่อการดำเนินธุรกิจในปี 2554 หากอัตราดอกเบี้ยในระบบมีการปรับตัวสูงที่ระดับเกินกว่า 0.50% ก็ยิ่งจะส่งผลกับ NIM มากขึ้น ดังนั้นยังคงเลือก KBANK BBL และ TCAP เป็นหุ้นเด่นสุดของกลุ่ม โดยคาดว่าราคาหุ้นดังกล่าวจะสามารถปรับตัวได้ดีกว่า(Outperform) ค่าเฉลี่ยกลุ่มธนาคารพาณิชย์ได้   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us