Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์24 ธันวาคม 2553
ห้างภูธรคึก อัดแคมเปญรับปีใหม่ ชิงกำลังซื้อลูกค้าดีจนถึงปีหน้า             
 


   
search resources

Shopping Centers and Department store




บิ๊กห้างภูธ คลังพลาซ่า โคราช, ยูดีทาวน์ อุดรฯ, ไดอาน่า หาดใหญ่ เกาะกระแสเทศกาล อัดแคมเปญ“Seasonal Marketing” กลยุทธ์การทำตลาดเพิ่มยอดขาย ผ่านเทศกาลเฉลิมฉลอง โดยเฉพาะรับกำลังซื้อฤดูกาลขายในช่วงปีใหม่ ซึ่งปีนี้ในความโชคร้าย มีความโชคดี ตั้งแต่หลังเหตุการณ์น้ำท่วม ยอดขายพลิกขึ้นมาเป็นบวก คาดกลุ่มลูกค้ายังมีกำลังซื้อที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง

หลากหลายมุมมองและการคาดการณ์กำลังซื้อในตลาดปีหน้า จาก 3 บิ๊กในสมรภูมิค้าปลีกภูธร อีกทั้งการจัดแคมเปญเสริมการขาย ซึ่งเป็นการทำตลาดในช่วงเทศกาลวันหยุดเดือนธันวาคม เป็นกลยุทธ์หนึ่งที่สำคัญ สำหรับปลุกกระแสการขายของห้างสรรพสินค้าทุกๆแห่ง ไม่เพียงห้างยักษ์ใหญ่ชื่อดัง เซ็นทรัล เดอะมอลล์ ซึ่งเป็นที่รู้จักของคนในเมืองกรุงเท่านั้น ที่นำกลยุทธ์ “Seasonal Marketing” มาใช้เก็บเกี่ยวยอดขายในช่วงเวลาอันจำกัด มายุคๆนี้ ที่เรียกว่า ห้างเจ้าถิ่นภูธร ต้องเผชิญกับห้างดังจากเมืองรุกเข้ามาแบ่งเค้กในพื้นที่นั้น ซึ่งก็ได้เริ่มปรับตัวมาให้ความสำคัญกับ กลยุทธ์การตลาดในรูปแบบต่างๆ ทั้งนี้เพื่อสร้างสีสัน และพลังในการดึงดูดให้ลูกค้าก้าวเท้าเข้ามาจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้าในห้างของตนเอง

คลังพลาซ่า โกยยอดโคราช

“ไพรัตน์ มานะศิลป์ รองประธานบริษัท คลังพลาซ่า” ห้างสรรพสินค้าเจ้าถิ่นแห่งเมืองโคราช กล่าวกับ “ผู้จัดการ 360 องศา” ถึงแคมเปญการตลาด สำหรับโกยยอดขายในช่วงปีใหม่นี้ว่า มีออกมาทุกๆรูปแบบทั้งลดราคาสินค้า แลกซื้อสินค้า และแจกรถจัดให้มีการชิงโชครถจักรยานยนต์ ซึ่งคล้ายกับทุกๆปี แต่การแจกรางวัลจะมีความแตกต่างกันไป

ทั้งนี้เพื่อรับมือภาวะการแข่งขันในปัจจุบันที่ทวีความรุนแรงขึ้นมาก เพราะแม้ว่าคลังพาซ่าจะจับจองพื้นที่การขายมานาน โดยวางตำแหน่งผ่านสโลแกน“ คลังพลาซ่า คู่เมืองคุณย่า ” ทว่าปัจจุบันมีห้างคู่แข่งรายใหม่ขยายสาขาเพื่อเข้ามาช่วงชิงกำลังซื้อในจังหวัดมากขึ้น โดยระยะเวลาแคมเปญอยู่ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2553 ถึงวันที่ 1 มกราคม 2554

เมื่อมองทางด้านกำลังซื้อของลูกค้า คาดว่าตั้งแต่เทศกาลปีใหม่ไปจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เห็นจากได้กำลังซื้อที่ผ่านมา แม้เผชิญกับปัจจัยลบ คือ ภาวะวิกฤติน้ำท่วมเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทว่าตัวเลขยอดขายยังคงเติบโตได้อีก โดยมียอดขายเติบโต 4% จากยอดขายที่ตั้งเป้าเติบโต 8% ซึ่งถือว่าดีกว่าปีที่ผ่านมา เพราะปีนี้มีอัตราการเติบโตมาตลอดตั้งแต่ต้นปีนั้น ห้างคลังพลาซ่า มียอดขายแต่ละเดือนเติบโตขึ้น 8% - 6% - 5% และบางเดือนนั้นมียอดขายเติบโตขึ้น 2 หลัก

“ส่วนปัจจัยลบที่ทำให้ยอดขายลดลงไปบ้างคือช่วงวิกฤติการเมืองนั้นลดลงเหลือ 2% - 3% เมื่อพ้นช่วงวิกฤติการเมืองตัวเลขพลิกกลับมาเติบโตขึ้นถึง 11% ส่วนเป้ายอดขายรวมทั้งปี ต้องมาลุ้นในเดือนนี้ “ ยังมองไม่ออกนั่นเป็นเพราะในเดือนธันวาคมมีวันหยุดยาวหลายวัน และพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคในช่วงเฉลิมฉลองปีใหม่ ในบางปีอั้นไปจับจ่ายใช้สอยใน 3 วันสุดท้าย ในบางปีก็เริ่มคึกคักตั้งแต่วันที่ 22- 23 เป็นต้นไป สำหรับสิ่งที่ปัจจัยบวก นั่นเพราะสถานการณ์ด้านกำลังซื้อของลูกค้าช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมานั้น เรียกได้ว่าลดลงไปสู่จุดที่ต่ำสุดแล้ว หลังอั้นมานาน ดังนั้นจึงเป็นวัฏจักรเมื่อผ่านจุดต่ำสุด คาดการณ์ว่ายอดขายจะดีดตัวขึ้นมาจากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่กลับมาดีอีกครั้ง” รองประธานบริษัท คลังพลาซ่า กล่าว

ไดอาน่า ขายดีหลังน้ำลดจนถึงปีใหม่

ห้างไดอาน่า หาดใหญ่ จัดแคมเปญรับเทศกาลปีใหม่ที่ครบครันทุกรูปแบบ ลดแลกแจกแถม เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงหลังจาก “วรนันท์ จันทรัศมี ” ทายาทของเนตร จันทรัศมี มานั่งบริหารงานอย่างเต็มตัวปีแรก ที่สำคัญผู้บริหารกล่าวว่า เป็นโปรโมชั่นแคมเปญ ที่ฉีกรูปแบบจากห้างสรรพสินค้าอื่นๆ ที่ต้องซื้อครบก่อน แต่นี่ทุกๆแบรนด์ลดทันที ตั้งแต่ก้าวเข้ามาในห้าง นอกจากนี้ซื้อครบ 5 พันบาท ยังสามารถสนุกกับเกมส์สอยดาว ที่มีรางวัลมอบให้มากมาย จากหลากหลายแบรนด์ดังที่นำมาคืนกำไรแก่ลูกค้าห้างไดอาน่า หาดใหญ่ มูลค่ารวมกว่า 9แสนบาท ตั้งแต่วันนี้จนถึง 3 มค. 2554

นับว่าแคมเปญของปีนี้ มีความแตกต่างจากในรอบ 20 ปี ปี ที่ไม่ได้จัดกิจกรรมอย่างมากมายขนาดนี้ โดยปกติจัดคืนกำไรเมื่อซื้อสินค้าครบมูลค่าที่วางไว้เท่านั้น ส่วนยอดขายช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ ตั้งเป้ายอดขายเพิ่มขื้นใน 3 ระดับ คือ 12% 15% และ 18%

ตัวเลขอัตราการเติบโตของห้างสรรพพสินค้าไดอาน่า ไม่ได้โตขึ้นเฉพาะเทศกาลขายเท่านั้น วรานันท์ กล่าวว่า ในความโชคร้ายนั้นมีโชคดี แม้ว่าเผชิญกับเหตุการณ์น้ำท่วมเมืองหาดใหญ่ครั้งใหญ่ในรอบ 10 ปี แต่ปรากฎว่าหลังจากระดับน้ำลดแล้ว ตัวเลขยอดขายดับเบิ้ลดีดกลับมามีอัตราการเติบโตถึง 30% เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายนปี 2552 และในช่วงเดือนธันวาคมเริ่มฟื้นกลับมาสู่สภาวะปกติ ยอดขายยังโตต่อเนื่อง ทั้งภาพรวมและสาขาศรีถนนภูวนารถ โดยปีนี้มีอัตราการเติบโตขึ้น 13% -14% เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2552

ปัจจัยบวกที่ส่งผลให้ยอดขายติบโต ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกำลังซื้อลูกค้ากลับมาดีขึ้น รวมถึงยอดขายเพิ่มจากที่ทางห้างมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ลดราคาสินค้า มีกลางเตนท์ขายในบริเวณที่จอดรถ ทั้งนี้เพื่อชดเชยการขายในพื้นที่ชั้นใต้ดินที่ต้องปิดไปหลังน้ำท่วม และเมื่อปรับปรุงซ่อมแซมเสร็จแล้วจะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งเดือนมีนาคม 2554

“ด้านแนวโน้มกำลังซื้อของลูกค้าปี 2554 คาดว่าจะดีอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีปัจจัยบวก ราคายาง และสถานการณ์เมืองหาดใหญ่คึกคัก จากกระเช้าลอยฟ้าที่สวนสาธารณะกำลังจะเปิดให้บริการ ถือว่าเป็นแห่งแรกในประเทศ ซึ่งจะดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้ง คนไทย และต่างชาติ สิงค์โปร์ มาเลเซีย ให้มาเที่ยวด้วยเช่นกัน ส่วนปัจจัยลบ คือ เกษตรกรมีกำลังซื้อลดลง จากเหตุการณ์น้ำท่วม ทำให้ไร่สะตอที่มีการปลูกในหลายๆพื้นที่ฟื้นได้ไม่ทันในปีหน้า” วรานันท์กล่าว

ชูเคาท์ดาวน์ครั้งใหญ่ในอุดร

ด้านแคมเปญการส่งเสริมการตลาดในช่วงส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ของศูนย์การค้ายูดี ทาวน์ ห้างเจ้าถิ่นแห่งจังหวัดอุดรธานี “วรพล วีรชาติยานุกูล” กรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า จะเป็นกิจกรรม “UD TOWN , The Wishing Tree” ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2553 - 5 มกราคม 2554 สำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าครบทุก 500 บาท ร่วมกิจกรรมพิเศษลุ้นรับของรางวัลมากมาย

แต่ไฮไลต์นั้นอยู่ที่อีเวนต์ปิดท้ายด้วยงานยิ่งใหญ่แห่งปี UDONTHANI 1st Different Count Down @UD TOWN Presented by Chang ซึ่ง จังหวัดอุดรธานี ร่วมกับ เทศบาลนครอุดรธานี ศูนย์การค้ายดี ทาวน์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกันสร้างปรากฏการณ์ครั้งแรกของอุดรธานีกับงานนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่อย่างยิ่งใหญ่ บนถนนทองใหญ่ ข้างศูนย์การค้ายูดี ทาวน์ โดยไฮไลท์สำคัญ คือ การเคานต์ดาวน์ร่วมกันของสามเชื้อชาติ ไทย - ลาว - เวียดนาม โดยมีศิลปิน 3 สัญชาติ ร่วมคอนเสิร์ตบนเวทีเดียวกัน อีกทั้งยังมีการแสดงความร่วมมือร่วมใจกันของคนไทย ในคอนเซปท์ “รักประเทศไทยยกมือขึ้น” จะร่วมกันเล่นเวฟมือส่งต่อเนื่องกันก่อนเข้าสู่วินาทีของการนับถอยหลังเข้าสู่ปี 2554

เช่นเดียวกัน ในช่วงกอ่นเทศกาลคริสมาสต์ ยูดีทาวน์ จัดกิจกรรมพิเศษ “สปาร์กลิ้ง คริสตัล คริสต์มาส ทรี ต้นคริสต์มาสสูงกว่า 8 เมตร ที่ทำจากคริสตัลระยิบระยับกว่าล้านเม็ด พร้อมกันนี้ยังมีตกแต่งศูนย์ฯในคอนเซปท์ “ไวท์ คริสต์มาส” เสมือนหนึ่งยกขั้วโลกเหนือมาไว้ที่อีสาน ที่ผ่านมาบริษัทฯเน้นการใช้กลยุทธ์ Event Marketing ร่วมกับ Special Event และกลยุทธ์เสริมอื่นๆเพื่อสร้างประสบการณ์ตรงกับลูกค้าและดึงดูดลูกค้าเข้ามาใช้บริการ ตามการวางตำแหน่งเป็น ศูนย์รวมไลฟ์สไตละดับพรีเมี่ยมแห่งอินโดจีน โดยเฉลี่ยจัดกิจกรรมพิเศษเดือนละ 1 ครั้ง ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวสามารถสร้างกระแสความสนใจและส่งผลถึงปริมาณลูกค้าที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ทางด้านกำลังซื้อของลูกค้า “ยูดี ทาวน์” ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อระดับปานกลาง - ค่อนข้างสูง ซึ่งบริษัทฯมองว่า กำลังซื้อของศูนย์การค้า ยูดี ทาวน์ อยู่ในระดับที่ดีและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งดูได้จากรายได้โดยรวมของร้านค้าต่างๆ ภายในศูนย์การค้ายูดี ทาวน์ อีกทั้งด้านภูมิศาสตร์เป็นปัจจัยบวกให้มีลูกค้าหลากหลากพื้นที่เดินทางเข้ามาซื้อสินค้าที่นี่ ตั้งแต่กลุ่มชาวจังหวัดอุดรธานี จังหวัดใกล้เคียง อาทิ ขอนแก่น หนองบัวลำภู เลย หนองคาย รวมถึงนักท่องเที่ยวและ ชาวเวียงจันทน์ สปป.ลาว ที่มีพื้นที่ติดกับจังหวัดอุดรธานี

“สำหรับผลประกอบการตลอด 1 ปี ที่ผ่านมามีรายได้ประมาณ 120 ล้านบาท เป็นค่าเช่า-ค่าบริการ ประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่ง 45 %เป็นรายได้จากร้านค้า GP นอกจากนี้ยังมีรายได้อื่น ๆ อีกประมาณ 20 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นรายได้จากพื้นที่กิจกรรมประมาณ 13 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ โดยในปี 2554 ได้ประมาณการรายได้ว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 70%” วรพลกล่าว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us