Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายวัน22 ธันวาคม 2553
โรงหนังยังยิ้มได้ Q4 หนังเทศช่วยชีวิต ชี้ ทั้งปีไปได้ดี-ลุ้นปีเถาะโต 30%             
 


   
search resources

เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป, บมจ.
เอสเอฟ ซีเนม่า ซิตี้, บจก.
Theatre




ไตรมาส 4 หนังเทศช่วยชีวิต ส่งภาพรวมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ยังไปได้ดี ส่วนปีหน้าปีทองทั้งไทยและเทศ โตรวมไม่ต่ำกว่า 30% “เมเจอร์” มั่นใจทั้งปีโตไม่ต่ำกว่า 10% ตามเป้าที่วางไว้ ส่วนปีหน้าวางไว้ที่ 10-15% ทุ่มอีก 1,000 ล้านบาท ขยายโรงภาพยนตร์ต่อเนื่อง เอสเอฟตอกย้ำ ไตรมาส 4 อุตฯหนัง น้ำตาร่วง

นายวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ปีนี้ ค่อนข้างดี ในส่วนของเมเจอร์เองนั้น 3 ไตรมาสที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตที่ 12% ขณะที่เพิ่งเข้าสู่ไตรมาสสี่ในเดือนต.ค.-พ.ย. นั้น ค่อนข้างทรงๆ เนื่องจากภาพยนตร์ที่เข้าช่วงนั้น ไม่ค่อยทำเงินนักโดยเฉพาะภาพยนตร์ไทยมีรายได้ไม่เป็นไปตามเป้า เช่น เรื่องกระดิ๊บ

พอเข้าสู่เดือน ธ.ค.พบว่า ภาพยนตร์หลายๆเรื่อง โดยเฉพาะ ภาพยนตร์จากต่างประเทศ ทำรายได้ค่อนข้างดี เช่น แฮร์รีพอตเตอร์ ทำได้ 150 ล้านบาท นาเนียร์ ทำได้ 70 ล้านบาท และอีก 10 วันที่เหลือนี้ก็ยังมีภาพยนตร์ทั้งไทยและเทศอีกหลายเรื่องที่จะเข้าฉาย จึงเชื่อว่า ในภาพรวมแล้วจะส่งผลให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์ปีนี้ยังไปได้ดีอยู่ ในส่วนของเมเจอร์เองนั้น
มั่นใจว่าทั้งปียังจะมีรายได้รวมเติบโตขึ้นไม่ต่ำกว่า 10% เป็นไปตามแผนที่วางไว้

สำหรับปีหน้า มองว่า เป็นปีทองที่ดีมากๆ ทั้งของภาพยนตร์ไทยและเทศ อย่างเช่น ในปี 2550 โดยในส่วนของภาพยนตร์ต่างประเทศนั้น มีรายชื่อภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์หลายเรื่อง ทั้ง ทไวไลท์ ภาคจบ, ไพเรท ออฟ ดิ คาริบเบียน 4, ทรานฟอร์มเมอร์, แฮรี่ พ๊อตเตอร์ คาดว่าในส่วนของภาพยนตร์ต่างประเทศจะเติบโตขึ้นกว่า 30% ขณะที่ในส่วนของภาพยนตร์ไทยนั้น คาดว่าจะมีเข้าฉายไม่ต่ำกว่า 50-60เรื่องใกล้เคียงกับในปีนี้ แต่มองว่าจะมีหนังทำเงินอได้กว่า 100 ล้านบาทยู่หลายเรื่อง โดยเฉพาะ ภาพยนตร์ไทยฟอร์มยักษ์ เรื่อง ตำนานสมเด็จพระนเรศวรภาค3 และ4 คาดว่าจะช่วยขยับสัดส่วนจาก 45% เป็นมากกว่า 50% ของภาพรวมอุตสาหกรรมภาพยนตร์มูลค่า 4,000 บาทได้แน่

สำหรับเมเจอร์ ปีหน้าเตรียมทุ่มงบลงทุนอีกราว 900-1,000 บาท แบ่งออกเป็นลงทุนในต่างประเทศ (อินเดีย) 300-360 ล้านบาท ในการขยายโรงภาพยนตร์เพิ่ม 40-50 โรง และอีก 900 ล้านบาท ในการลงทุนในไทย ซึ่งมีทั้งการปรับปรุงโรงเดิมที่มีกว่า 370 โรง เป็นโรงดิจิตอลแล้ว 36 โรง ปีหน้าจะปรับให้เป็นโรงดิจิตอลอีก 30-40 โรง รวมแล้วจะได้เห็นโรงดิจิตอลในปีหน้าไม่ต่ำกว่า 70-80 โรงพร้อมขยายโรงภาพยนตร์ใหม่เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ขณะที่ภาพรวมของรายได้นั้น ในปี 2554 มองการเติบโตไว้ที่10-15% เนื่องจากฐานที่ใหญ่ขึ้น

ล่าสุด ได้ร่วมกับทางบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เปิดตัวโรงภาพยนตร์หรูทันสมัยระดับโลก 2โรง ที่ เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ งามวงศ์วาน-แคราย ภายใต้ชื่อ CAT internet ultima Screens สัญญา 1 ปี งบ 15 ล้านบาท

** เอสเอฟตอกย้ำ ไตรมาสสี่อุตฯหนังน้ำตาร่วง **
ด้าน นายสุพัฒน์ งามวงศ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอส เอฟ ซีเนม่า ซิตี้ จำกัด กล่าวว่า สำหรับไตรมาสสุดท้ายนี้ ยอมรับว่าภาพรวมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ค่อนข้างต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากมีภาพยนตร์หลายเรื่องไม่ทำเงิน ส่งผลให้ภาพรวมอุตสหกรรมภาพยนตร์ทั้งปีนี้น่าจะเติบโตใกล้เคียงที่ 10% หรือต่ำกว่าเล็กน้อย

ทั้งนี้ มองว่า ปีหน้าถือเป็นปีทองของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในประเทศไทย เนื่องจากมีภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่เข้าฉายทั้งจากฮอลลีวู้ดและภาพยนตร์ไทยเอง คาดว่าจะเติบโตอย่างน้อย 20% หรือมีมูลค่ารวม 4,000 ล้านบาท

สำหรับโรงภาพยนตร์เอส เอฟ ปีนี้ยอดจำหน่ายบัตรชมภาพยนตร์เพิ่มขึ้น 15% หรือคิดเป็นมูลค่ารวม 1,300-1,400 ล้านบาท มีส่วนแบ่ง 30% จากมูลค่าธุรกิจโรงภาพยนตร์โดยรวม ทั้งนี้การขยายตัวที่เพิ่มขึ้นมาจากการจัดกิจกรรมการตลาด โปรโมชั่นต่างๆ กับพันธมิตรทางธุรกิจตลอดปี ขณะที่ในปี 2554 บริษัทฯจะขยายโรงภาพยนตร์เพิ่มขึ้นอีก 2-3 สาขา อาทิ สาขาศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 จำนวน 8 โรง   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us