ค้าปลีกฯ มองภาพปีหน้า กำลังซื้อดีขึ้นแน่ หลังปรับค่าจ้าง-เงินเดือน แนวโน้มสินค้าฟุ่มเฟือยมีโอกาสเติบโตสูง ชี้ คนรุ่นใหม่ใส่ใจสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่นมากกว่าอาหาร “ซีพีออลล์” ฟันธงธุรกิจห้างสรรพสินค้าปีหน้ารุ่ง มั่นใจเติบโตได้ 2 หลัก “คอนวีเนียนสโตร์-ไฮเปอร์มาร์เก็ต-ซูเปอร์มาร์เก็ต” เริ่มชะลอตัว เพราะกลุ่มผู้บริโภคยังเท่าเดิม ร้านเซเว่นเล็งเป้า 15% เดินเครื่องปรับปรุง “ร้านคัดสรร” ดึงมือดีเก่าคัมแบ็ก-ร่วมบริหาร

นายสุวิทย์ กิ่งแก้ว นายกสมาคมพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกทุนไทย และรองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านเซเว่นอีเลฟเว่น กล่าวถึงแนวโน้มเศรษฐกิจในปีหน้า โดยระบุว่า ร้านค้าปลีกที่จำหน่ายสินค้าอาหารเป็นหลัก จะเติบโตแค่หลักเดียว เนื่องจากไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่จะให้ความสำคัญกับสินค้าแฟชั่น เทคโนโลยี เครื่องสำอางมากกว่าสินค้าประเภทอาหาร

“แนวโน้มของธุรกิจค้าปลีกในปีหน้า มองว่า ธุรกิจในรูปแบบของห้างสรรพสินค้าจะมีอัตราการเติบโตดีเป็นตัวเลข 2 หลัก ขณะที่ธุรกิจค้าปลีกในรูปแบบไฮเปอร์มาร์เก็ต ซูเปอร์มาร์เก็ต และคอนวีเนียนสโตร์ คาดว่า เติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียว เนื่องจากเน้นการจำหน่ายอาหารเป็นหลัก ขณะที่ผู้บริโภคยังคงบริโภคอาหารในอัตราส่วนเท่าเดิม ทำให้ธุรกิจค้าปลีกไฮเปอร์มาร์เก็ต ซูเปอร์มาร์เก็ต และคอนวีเนียนสโตร์ ไม่มีอัตราเติบโตมากเมื่อเทียบกับห้างสรรพสินค้า ซึ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าแฟชั่น เครื่องสำอาง และอิเลกทรอนิกส์ ซึ่งเชื่อว่าผู้บริโภคจะหันมาซื้อสินค้าดังกล่าวมากขึ้น”

นอกจากนี้ ยังมองว่า ในปี 2554 ผู้ประกอบการยังต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจากภาวะเศรษฐกิจขาขึ้น และการปรับขึ้นค่าแรง รวมทั้งราคาสินค้าเกษตรที่สูงขึ้น ส่งผลให้กำลังซื้อในภาพรวมปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นปีของกระต่ายซุกซน หลังจากปีนี้ ผู้ประกอบการต่างเลือตกยางออกกันไปแล้ว

“ห้างสรรพสินค้าจะมีอัตราเติบโตสูงเป็นตัวเลขสองหลักในปีหน้า เพราะสินค้าฟุ่มเฟือยมีแนวโน้มการขยายตัวสูง จากกระแสไลฟ์สไตล์ที่เข้ามามีบทบาทสูงในชีวิตคนรุ่นใหม่ และกำลังซื้อในภาพรวมยังดีขึ้น จากการปรับเงินเดือนและค่าแรงขั้นต่ำ”

ทั้งนี้ การที่ผู้บริโภคหันมาซื้อสินค้าในกลุ่มฟุ่มเฟือยมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลจากผู้บริโภคมีกำลังซื้อดีขึ้นเพราะภาครัฐประกาศปรับค่าแรงขั้นต่ำ เงินเดือนข้าราชการ สมชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) รวมทั้งพืชผลการเกษตรมีราคาขายดีขึ้นส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อที่ดี คาดว่า ปัจจัยทั้งหมดจะส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจค้าปลีกในปีหน้ามีอัตราเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจของเซเว่นอีเลฟเว่นนั้น ยังคงรักษาอัตราเร่งในการเปิดสาขาใหม่ 450-500 สาขาต่อปี และเตรียมพัฒนาธุรกิจร้านคัดสรร และร้านเบเกอรี่-กาแฟ “ยูริ” โดยเบื้องต้นจะเป็นการผนวกรวมร้านคัดสรร และร้านเบเกอรี่-กาแฟยูริเข้าด้วยกัน หลังจากนั้นจะสร้างการรับรู้ใหม่มุ่งเน้นสัดส่วนของการจำหน่ายเบเกอรี่ กาแฟ มากขึ้น สอดรับตำแหน่งทางการตลาดหลักของเซเว่นอีเลฟเว่นในการเป็นร้านอิ่มสะดวก

นอกจากนี้ จะมุ่งพัฒนาและขยายบริการของบัตรสมาร์ทเพิร์สให้ครอบคลุมความต้องการของลูกค้ามากขึ้น ปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 3 ล้านราย ในจำนวนนี้มีการใช้จ่ายอย่างสม่ำเสมอ 1 ล้านราย ล่าสุดบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาทางธุรกิจในการเติมเงินบัตรอีซี่พาส ผ่านร้านเซเว่นอีเลฟเว่นได้ ในปีหน้าเซเว่นอีเลฟเว่น ตั้งเป้าหมายยอดขายเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% เช่นเดียวกับปีนี้

นายสุวิทย์ ยังกล่าวถึงบรรยากาศจับจ่ายใช้สอยในช่วงฤดูกาลขายตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมปีนี้ จนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า โดยระบุว่า บรรยากาศปลายปีนี้ค่อนข้างคึกคัก โดยเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ซึ่งจะมีวันหยุดยาวต่อเนื่อง 4 วัน ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นในต่างจังหวัดมียอดขายเติบโตกว่าช่วงปกติ 10-20% ขึ้นอยู่กับทำเลนั้นๆ ซึ่งหากเป็นถนนสายหลัก จะเติบโตเฉลี่ย 20% ถนนสายรองเติบโตประมาณ 10%