นมมะลิ อัดฉีด 150 ล้านบาท รุกหนัก 4 แคธิกอรี่ ปี 54 ควงนวัตกรรมด้านฟังก์ชันนัล เจาะนิชมาร์เก็ต ลุยขยายธุรกิจใหม่ในรอบ 10 ปี หลังวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง เร่งสยายปีกแฟรนไชส์ร้านกาแฟโบราณ ลั่นผุดครบ 2,000 คัน ชูความครบวงจรป้อนวัตถุดิบ ทั้งนมยันชา-กาแฟ หวังสร้างแบรนด์ดันยอด 400 ล้านบาท ปีหน้าโต 5% กวาด 5,250 ล้านบาท

นายสุวิทย์ ผลวิวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท อุตสาหกรรมนมไทย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายนมตรามะลิ เปิดเผยว่า บริษัททุ่มงบการตลาดในปี 2554 จำนวน 150 ล้านบาท เพื่อรุกตลาด 4 กลุ่มสินค้า ได้แก่ นมข้นหวาน นมพร้อมดื่ม เนย และครีมเทียม ด้วยการเปิดตัวสินค้าใหม่มุ่งนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ ที่สร้างมูลค่าเพิ่มด้วยฟังก์ชันต่างๆ ที่มีประโยชน์ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคด้านสุขภาพและความงาม เจาะกลุ่มเป้าหมายเฉพาะกลุ่มมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เพื่อสอดรับกับแนวโน้มตลาดเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลในประเทศไทยที่กำลังมาแรง

สำหรับแผนการตลาดในปีหน้า บริษัทขยายช่องทางร้านกาแฟโบราณตรามะลิ ในรูปแบบขายแฟรนไชส์รถเข็นครบวงจร โดยจำหน่ายวัตถุดิบนมข้นหวาน กาแฟ และชา แบรนด์ตรามะลิ ในเชิงรุกมากขึ้น ซึ่งตั้งเป้าจะเปิดให้ครบ 2,000 คัน ภายใต้การใช้งบ 10 ล้านบาท จากปีนี้ได้ทดลองนำร่อง 200 คัน ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ช่วยสร้างภาพลักษณ์ และการยอมรับให้กับแบรนด์ภายใต้คอนเซปต์ “กาแฟโบราณคู่กับมะลิ” ซึ่งนับว่าเป็นการรุกขยายธุรกิจในช่องทางใหม่อย่างหนักในรอบ 10 ปี นับตั้งแต่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540

ทั้งนี้ แฟรนไชส์ร้านกาแฟโบราณตรามะลิ ในส่วนวัตถุดิบกาแฟ และชาตรามะลิ บริษัทได้จ้างให้ผู้ประกอบการผลิตให้ โดยผู้ประกอบการที่สนใจซื้อแฟรนไชส์ราคา 2.5 หมื่นบาท รวมทั้งรถเข็นและอุปกรณ์ ซึ่งบริษัทจะจัดกิจกรรมโรดโชว์ สอนทำสูตรการชงกาแฟและชา เพื่อให้ได้มาตรฐานเดียวกัน บริษัทมั่นใจว่า จากการทำตลาดครบวงจรขยายช่องทางร้านกาแฟโบราณ จะผลักดันให้มีรายได้เฉพาะแค่การจำหน่ายวัตถุดิบเพิ่ม 300-400 ล้านบาท

ภาพรวมตลาดนมโดยรวม 2 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นนมข้นหวาน 6,000-7,000 ล้านบาท ซึ่งการแข่งขันของผู้ประกอบการจะมุ่งเน้นการสร้างแบรนด์ผ่านช่องทางร้านกาแฟโบราณ ขณะที่แบรนด์ไม่แข็งแกร่งใช้กลยุทธ์ราคา ซึ่งแนวโน้มตลาดเครื่องดื่มโดยรวมในปีหน้านี้ จะมีเครื่องดื่มหลากหลายตัว การนำเสนอสินค้ามุ่งเจาะนิชมาร์เก็ต และเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าด้วยการเติมสารต่างๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการด้านสุขภาพและความ เช่น นมพร้อมดื่มผสมคอลลาเจน เป็นต้น

สำหรับผลประกอบการปีหน้านี้ บริษัทตั้งเป้าเติบโต 5% หรือ 5,250 ล้านบาท จากปีนี้รายได้เติบโต 5% หรือ 5,000 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการส่งออก 25% ได้แก่ พม่า ลาว กัมพูชา เวียดนาม ซึ่งสัดส่วนรายได้มาจากอินโดจีน 50% ที่เหลืออีก 50% เป็น แอฟริกา มัลดีฟส์ ฯลฯ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่บริษัทกังวลในปีหน้านี้ คือ ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น มีผลกระทบต่อการส่งออก รวมถึงการเมืองภายในประเทศ ส่วนรายได้ในประเทศสัดส่วน 75% โดยปัจจุบันนมข้นหวานตรามะลิเป็นผู้นำตลาครองส่วนแบ่ง 60% ส่วนเหลือเป็น 30% คาร์เนชั่น ตราหมี และทีพอทภายใต้บริษัท เอฟแอนด์เอ็ม และอีก 10% เป็นอื่นๆ