Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน16 ตุลาคม 2546
2บ.วัสดุก่อสร้างจ่อเข้าตลท.หุ้นเพิ่มทุนฉุดKTBลด20สต.             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารแห่งประเทศไทย
โฮมเพจ ธนาคารกรุงไทย
โฮมเพจ กิมเอ็ง

   
search resources

ธนาคารกรุงไทย
ธนาคารแห่งประเทศไทย
โกลเบล็ก, บล.
หลักทรัพย์กิมเอ็ง, บมจ.
ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี, บมจ.
ไทยคูน เวิลด์ไวด์ กรุ๊ป (ประเทศไทย), บมจ.
มนตรี ศรไพศาล
ประทีป ทีปกรสุขเกษม
วรุตม์ ศิวะศริยานนท์
Investment




2 บริษัทวัสดุก่อสร้างจ่อคิวเข้าตลาดหลักทรัพย์ "ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี (CCP) -ไทยคูนฯ" โดย CPP เตรียมขายหุ้นไอพีโอ 22 ล้านหุ้น กลาง พ.ย.นี้ มั่นใจจ่ายปันผล 40% ของ กำไรสุทธิทันที หลังล้างขาดทุน สะสมหมดในปีนี้ ส่วนหุ้นแบงก์กรุงไทย (KTB) วานนี้ปรับตัวลดลง 20สตางค์ หลังหุ้นเพิ่มทุน 3 พันล้านหุ้นเริ่มซื้อขายวันแรก ปิดตลาด 8.80 บาท เหนือราคาจองซื้อ 8.50 บาทเล็กน้อย ผลจากการเทขายทำกำไรของนักลงทุนต่างชาติ โบรกฯ ชี้เหมาะลงทุนระยะยาว

แนวโน้มการขยายตัวของธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้าง เติบโตขึ้นอย่างเด่น ชัดกว่าปีที่ผ่านมาราว 20-70% ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา สร้างความมั่นใจให้บริษัทวัสดุก่อสร้างในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

ล่าสุดมี 2 บริษัทที่อยู่ระหว่างดำเนินการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย คือ บริษัท ไทยคูน เวิลด์ไวด์ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด(มหาชน)

นายประทีป ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด (มหาชน)(CCP) ผู้นำในการดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตและคอนกรีตเสริมเหล็ก ในภาคตะวันออก กล่าวว่า บริษัทฯเตรียมเสนอขาย หุ้นสามัญเพิ่มทุนให้นักลงทุนสถาบันและประชาชนทั่วไป(IPO) จำนวน 22 ล้านหุ้น ราคามูลค่าที่ตราไว้ 5 บาท ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน

โดยบริษัทฯจะเข้าไปจดทะเบียนในตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง หลังจากแต่งตั้งให้ บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

เงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ บริษัทจะนำไป ใช้ในการขยายธุรกิจเพิ่มเติม เพื่อรองรับความต้อง การตลาดใช้ผลิตภัณฑ์คอนกรีตที่เพิ่มสูงขึ้นตามการ ขยายตัวของธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้างและเครื่องตกแต่ง บ้านที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา

โดยบริษัทฯจะร่วมลงทุนในโครงการอิฐมวลเบาขนาดกำลังผลิต 750 ลูกบาศก์เมตร มูลค่า 600 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไป ได้ของโครงการ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการสั่งซื้อเครื่องจักรและก่อสร้างโรงงานได้ภายในปี 2547 และผลิตเชิงพาณิชย์ในปี 2548

นอกจากนี้ บริษัทฯซื้อหรือเช่ารถขนส่งผลิตภัณฑ์เพิ่ม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้า ให้กับผู้รับเหมาก่อสร้าง ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีรถขนส่งเกือบ 200 คัน ซึ่งถือเป็นจุดได้เปรียบคู่แข่ง และลงทุนในโรงงานคอนกรีตผสมเสร็จจากปัจจุบันที่มีอยู่ 14 แห่ง คิดเป็นกำลังการผลิต 5 หมื่นคิวต่อเดือน โดยจะขยายเพิ่มอีก 20% ของกำลังการผลิตหรือ 6.2 หมื่นคิวต่อเดือน คาดว่าจะเริ่มในปีหน้า

รวมทั้งขยายสาขาร้านกันยงโฮมสโตร์เพิ่ม 1 สาขาที่พัทยา ภายในปี 2547 เพื่อเพิ่มยอดขายธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้างและเครื่องตกแต่งบ้าน

นายประทีป กล่าวว่า การตัดสินใจลงทุนในโครงการผลิตอิฐมวลเบา เนื่องจากเล็งเห็นความต้องการใช้ในประเทศยังมีอยู่ และราคาอิฐมวลเบาอยู่ในเกณฑ์ที่สูงเมื่อเทียบกับอิฐมอญ โดยปัจจุบันมีผู้ผลิตเพียง 2 ราย คือ คิวคอน ในเครือแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ และซุปเปอร์บล็อก ในเครือซิเมนต์ไทย คาดครึ่งปีหลังโต 20-30%

ส่วนผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรก บริษัทฯมีรายได้ประมาณ 543 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 62 ล้าน บาท คาดว่าครึ่งปีหลังจะมีรายได้เพิ่มขึ้นกว่าครึ่งปีแรก 20-30% เนื่องจากในช่วง 6 เดือนแรก เกิดปัญหาน้ำท่วมทำให้การดำเนินธุรกิจชะลอตัวลง แต่ ช่วงครึ่งปีหลังธุรกิจวัสดุก่อสร้างเริ่มขยายตัวตามการ เติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

ส่วนผลประกอบการในปี 2547 คาดว่ารายได้จะโตประมาณ 20% และจะสามารถล้างขาดทุนสะสมจำนวน 101 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิ.ย.ได้หมด ภายในปีนี้ โดยจะนำส่วนล้ำมูลค่าหุ้นมาล้างขาดทุนสะสม ทำให้บริษัทฯสามารถจ่ายปันผลงวดการดำเนิน งานปี 2546 โดยมีนโยบายจ่ายเงินปันผล 40% ของกำไรสุทธิ

คาดนักลงทุนสนใจหุ้น CCP

นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จุดเด่นของ CCP เป็นผู้ผลิต ภัณฑ์คอนกรีตที่ครบวงจร ทั้งผลิตและจัดจำหน่ายเอง มีรถขนส่งเป็นของตนเองจำนวนมาก สามารถขนส่งผลิตภัณฑ์ได้ทั่วประเทศอย่างตรงตามเวลา ซึ่งถือเป็นปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญอย่างยิ่งในธุรกิจ

อีกทั้ง ภาคตะวันออกถือเป็นภาคที่มีการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรม การก่อสร้างโรงงานหรือโครงการใหม่ๆเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก เช่น โครงการ สนามบินสุวรรณภูมิ, โครงการท่าเรือน้ำลึกทางฝั่งตะวันออก ล้วนจำเป็นต้องใช้วัสดุก่อสร้างทั้งสิ้น ล่าสุด หากโครงการปรับปรุงระบบการขนส่งภาครัฐมูลค่า 9 แสนล้านบาทเกิดขึ้นจริงจะทำให้รายได้เข้ามาบริษัทฯเพิ่มขึ้น

จากภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์เติบโตอย่างต่อเนื่อง เป็นปัจจัยเกื้อหนุน CCP เชื่อว่านักลงทุนจะให้ความสนใจในหุ้นตัวนี้

นอกเหนือจาก CCP แล้ว บล.กิมเอ็ง ยังเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้บริษัท ไทยคูน เวิลด์ไวด์ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเหล็กลวดรายใหญ่ที่สุดของไทย โดยจะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในเร็วๆนี้ด้วย

ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี มีทุนจดทะเบียน 310 ล้านบาท ราคามูลค่าตามบัญชีหุ้นละ 5 บาท โดยบริษัทจะเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน 22 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 35%ของทุนจดทะเบียน โดยมีตระกูลทีปกรสุขเกษม เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 85% หลังจากระดมทุนครั้งนี้ สัดส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ 2 เท่า จากปัจจุบันสูงถึง 3 เท่า

KTB เหมาะลงทุนระยะยาว

นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็กซ์ จำกัด กล่าวว่า การที่ราคาหุ้นของธนาคารกรุงไทยปรับขึ้นจากราคาจองซื้อที่ 8.50 บาท เพียงเล็กน้อย อาจเป็นผลจากการเทขายทำกำไรของนักลงทุนต่างชาติ

รวมถึงการทำกำไรจากอัตราค่าเงินบาท ซึ่งการทำกำไรจากปริวรรตเงินตราได้เกิดขึ้นรอบหนึ่งแล้ว ตั้งแต่ก่อนธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศมาตรการสกัดกั้นการเก็งกำไรค่าเงินบาท เพื่อ นำกำไรออกไปขาย จึงมีแรงขายหุ้นกลุ่มแบงก์ออกมา แต่เชื่อนักลงทุนต่างชาติจะกลับเข้ามาซื้อลงทุนในหุ้นกลุ่มแบงก์อีกในระยะเวลาไม่นาน โดยเฉพาะภาย หลังหุ้นกรุงไทย ได้รับการเพิ่มน้ำหนักในดัชนี MSCI หุ้นกรุงไทยจะเป็นหุ้นที่มีความต้องการซื้อจากนักลงทุนต่างชาติสูง

สำหรับจำนวนหุ้นที่มีจำนวนมาก อาจมีผลกับราคาหุ้นบ้าง แต่สัดส่วนหุ้น 3,000 ล้านหุ้น เป็นสัดส่วนของนักลงทุนสถาบันต่างประเทศและในประเทศ 40-60% สัดส่วนของนักลงทุนรายย่อยเพียงเล็กน้อย ดังนั้น เชื่อว่าหุ้นกรุงไทยเหมาะสมกับการลงทุนในระยะยาว เพราะโดยปัจจัยพื้นฐานราคาหุ้นปี 47 น่าจะอยู่ในระดับ 13-14 บาทได้ ในปีนี้คาดว่าราคาหุ้นจะไม่ต่ำ 11-12 บาท

"นักลงทุนควรจะมองการลงทุนระยะยาว หุ้นกรุงไทยช่วงที่ผ่านมานั้นมีผลกระทบเรื่องของการเพิ่ม ทุน การเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน รวมถึงการ ที่ภาวะตลาดถดถอยทำให้ราคาหุ้นปรับลดลง"

สำหรับความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นวานนี้ (15 ต.ค.) ราคาหุ้น KTB ได้ปรับตัวลดลงรับข่าวหุ้นสามัญที่เข้ามาซื้อขายเป็นวันแรก โดยราคาสูงสุดที่ 8.90 บาท ต่ำสุดที่ 8.65 บาท ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ 8.80 บาท ลดลงจากวันก่อน 0.20 บาท หรือลดลง 2.22% ปริมาณการซื้อขาย 149,129,100 หุ้น คิดเป็น มูลค่ารวม 1,309.40 ล้านบาท

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us